กรุงเทพธุรกิจ
18 กรกฎาคม 2549 19:35 น.
ยามนี้ข้อเสนอ สมานฉันท์ฉบับ"ทักษิณ" ดูท่าจะเป็นหมัน เพราะทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ ต่างเห็นเป็นเรื่องตลก เป็นกับดักทางการเมือง แม้ "บรรหาร"เองที่คนทรท.หวังพึ่งเป็นสะพานเป็นตัวประสาน ก็ปฏิเสธ เพราะกลัวเหลี่ยมเล่ห์ทางการเมือง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : * รายงาน
----------------------
นับแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอ่ยอ้างถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ กระแสต้านเขาก็ค่อยๆ ทวีสูงขึ้นๆ จนกระทั่ง ต้องเอ่ยปากขอสมานฉันท์
กระแสต้านสูงยิ่งๆ ขึ้น เมื่อขณะที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปบรรยายให้นักเรียนนายร้อยจปร.เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งสะท้อนและเสียดแทงฝ่ายรัฐบาลรักษาการอย่างมาก
ขณะที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่3 ได้ออกมาตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่าง "สถาบันทหารกับรัฐบาลของทักษิณ " ชัดเจนมากยิ่งขึ้นโดยระบุว่า ประเทศไทยในปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยแบบหลอก ๆ การเมืองทำเพื่อให้ได้มาเพียงคำว่า ประชาธิปไตย
พร้อมกับพูดให้แยกแยะว่า "วันนี้มีคนสวมเสื้อสีเหลือง แต่ต้องพิจารณากันให้ดี ๆ เพราะว่าคนใส่มีทั้งคนดีและคนเลว "
แต่ยามนี้ข้อเสนอ สมานฉันท์ฉบับ "ทักษิณ" จึงดูท่าจะเป็นหมันมากกว่าจะสำเร็จ เพราะทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พปป.) ต่างเชื่อว่า เป็นเรื่องตลก เป็นกับดักทางการเมือง
แม้ บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นักการเมืองรุ่นเก๋าระดับหลงจู้ ที่คนพรรคไทยรักไทย หวังพึ่งมาเป็นตัวประสาน ก็ปฏิเสธ เพราะเกรงจะเสียมวยกับเหลี่ยมของ"น้องทักษิณ"
แม้แต่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และกรรมการบริหารพรรค ที่เคยได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเสมอๆ ก็ออกมาวิจารณ์ข้อเสนอสมานฉันท์ฉบับทักษิณว่า "อย่าสมานฉันท์แต่ปาก"
ยิ่งข่าวลือสะพัดเรื่อง รัฐมนตรี "3 ส." เตรียมไขก๊อก ก็กระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด การพบปะกันของ 7 รัฐมนตรี ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นสิ่งที่ตอกย้ำความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องจะปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นการสุมหัวเพื่อหาทางผละจากรัฐนาวาทักษิณก็ตาม
> ซึ่งสะท้อนความไม่ไว้วางใจ ความหวาดระแวงในพรรคไทยรักไทย
ขณะที่ รัฐบาลรักษาการพยายามจะโยกย้ายนายทหารในเร็วๆ นี้ เพื่อหวังจะผลักดันนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น10 (ตท.10) เพื่อคุมบังคับบัญชาในกองทัพ โดยเฉพาะจะดีด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ให้พ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ. เปิดทางเป็นเบื้องแรก
แต่คงต้องในกำลังภายในฟัดเหวี่ยงพอสมควร เมื่อ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ประกาศยืนยันว่า การโยกย้ายครั้งนี้จะต้องไม่คำนึงเรื่องรุ่น การปรับย้ายต้องมองขีดความสามารถของคน และระบบอาวุโส
และย้ำด้วยว่า พล.อ.สนธิ ยังเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ทำงานต่อไป "...เขาผิดอะไรที่จะไปย้าย"
รวมทั้งจัดมวลชนประมาณ 100 คน ออกมาเคลื่อนไหวในนาม "กลุ่มพลังประชาชน 16 ล้านเสียง" เพื่อขับไล่ จรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา พร้อมเรียกร้องให้นายจรัญ ออกมากล่าวขอโทษประชาชน และลาออกจากตำแหน่ง
เป็นการโต้ตอบตัวแทนศาลฎีกา ที่ได้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า 16 ล้านเสียงที่เลือกพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา เพราะมีการจ่ายค่าหัวรายละ 1,000 บาท
ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ไปกล่าวปลุกระดม ในการระดมพลองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น(อปท.) นับหลายหมื่นคนที่วัดธรรมกาย จ.ปทุมธานี ก็เป็นการดิ้นรนสร้างภาพเคลื่อนไหว ปลุกใจตัวเอง เพื่อรักษาสถานะทางการเมือง และสร้างขวัญกำลังใจกับพลพรรคที่ยังเหลือ
อาจกล่าวได้ว่า คนเริ่มจับเหลี่ยมมุมของ"ทักษิณ" ได้มากขึ้น สถานการณ์ช่วงนี้ของ"ทักษิณ" จึงเสมือนคนมีอาการดิ้นรนเพื่อรักษาตัวรอด เพื่อประคอง"ระบอบทักษิณ" อย่างถึงที่สุด ก่อนจะหมดอำนาจจริงๆ เสียที
ท้ายที่สุด"ทักษิณ"คงไม่ต่างอะไรกับ "ก้อนน้ำแข็งที่รอการละลาย"