นอกจากนี้ การคืนภาษีของกรมสรรพากรที่อยู่ในระดับสูงกว่าปีที่แล้วมาก ส่งผลให้รายได้สุทธิของรัฐบาลลดลง
ขณะที่รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณ 192,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 34,015 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.5 โดยมีการเบิกจ่ายที่สำคัญ ได้แก่ รายจ่ายเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรายจ่ายให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นรายจ่ายประจำ 125,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 และรายจ่ายลงทุนจำนวน 52,029 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.8
ผอ.สศค. กล่าวต่อว่า จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือน ม.ค. 2552 ขาดดุล 101,665 ล้านบาท
เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 58,737 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการออกตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 57,000 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 42,928 ล้านบาท และรัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 19,000 บาท ส่งผลให้ดุลเงินสดหลังกู้ชดเชยการขาดดุลจำนวน 23,928 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฐานะการคลังช่วง 4 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 367,409 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 จำนวน 59,231 ล้านบาท
หรือร้อยละ 13.9 สาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะลดลง รวมทั้งการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ลดลง แต่การคืนภาษีของกรมสรรพากรเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวน 596,757 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2551 จำนวน 45,081 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.2 แบ่งเป็นรายจ่ายปีงบประมาณปัจจุบัน 540,320 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 29.4 ของวงเงินงบประมาณ 1,835,000 ล้านบาท และรายจ่ายปีงบประมาณก่อน 56,437 ล้านบาท
สำหรับดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสด ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 229,348 ล้านบาท
เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 21,714 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชำระคืนตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 9,000 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลังของรัฐบาลขาดดุล 251,062 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตรจำนวน 59,000 ล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 192,062 ล้านบาท
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
