เปิดเอกสารสหรัฐ

บทนำมติชน

หากยังจำโครงการซีทีเอ็กซ์ 9000 กันได้ คงจะไม่ลืมว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุระเบิดของสนามบินหนองงูเห่า หรือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเกิดเรื่องบังเอิญที่หน่วยงานด้านยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาได้ลงประกาศในเว็บไซต์ว่า บริษัท อินวิชั่น ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ได้ยอมรับว่า นายหน้าของเขาซึ่งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ได้ให้เงินส่วนต่างกับเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย จีน และฟิลิปปินส์ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000

หากยังจำกันได้ ขณะนั้นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งดูแลโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิโดยตรง และประเด็นโครงการซีทีเอ็กซ์ 9000 ก็ถูกพรรคฝ่ายค้านดึงเข้าไปเป็นประเด็นทางการเมือง จนกระทั่งนายสุริยะถูกยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งที่ทำให้นายสุริยะถูกกระแสสังคมบีบคั้นให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อมา

หากยังจำมูลเหตุที่ประเด็นการจัดซื้อและติดตั้งซีทีเอ็กซ์ 9000 ถูกดึงเข้าไปประเด็นทางการเมืองได้ ก็จะพบว่า สาเหตุแรกมาจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ออกปากการันตีความบริสุทธิ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยไม่ได้แสดงท่าทีฉงน หรือให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับนายสุริยะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็ไม่ได้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นกระจ่าง ซึ่งพฤติกรรมโดยสรุปของรัฐบาลในช่วงนั้นถูกตีความว่า พยายามปกป้องใครบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตการจัดซื้อและติดตั้งซีทีเอ็กซ์ 9000

และเมื่อเกิดกระแสทางการเมืองขึ้น รัฐบาลจึงเริ่มขยับตัว โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมีนายวิษณุ เครืองาม ขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแล และแถลงผลการสอบสวน ซึ่งสรุปได้ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบริษัท อินวิชั่น กำลังจะถูกบริษัท จีอี เข้าซื้อหุ้น และเมื่อมีการตรวจสอบทางบัญชีแล้วพบว่า มีเงินจำนวนหนึ่งถูกใช้ไปเพื่อการชักจูงให้ประเทศทั้งสาม ซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 โดยมีหลักฐานเป็นอี-เมลของนายหน้าของบริษัท อินวิชั่น ซึ่งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่มีใครตามตัวนายหน้าคนนั้นได้ จึงไม่มีใครรู้ว่า นายหน้าคนดังกล่าวได้ใช้เงินส่วนต่างดังกล่าวอย่างไร ส่วนประเทศไทย ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้เงินส่วนต่างในการขายเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่บริษัทแพทริออทฯ ขายให้บริษัทกิจการร่วมค้าฯ และบริษัทกิจการร่วมค้าฯขายต่อให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ว่ามีการนำเงินส่วนต่างนั้นไปใช้อย่างไร ซึ่งในขณะนั้น ประเทศไทยสรุปว่าไม่มีหลักฐานใดที่จะชี้ว่าเจ้าหน้าที่ของไทยหรือใครรับสินบนในโครงการนี้ แต่นายวิษณุก็บอกว่าคงต้องรอหลักฐานสำคัญ คือ เอกสารการดำเนินคดีกับบริษัท อินวิชั่นของทางการสหรัฐอเมริกา เพื่อคลี่คลายความสงสัยอีกครั้งหนึ่ง

กระทั่ง บัดนี้ นายเกียรติ สิทธีอมร กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยออกมาว่า เอกสารสำคัญดังกล่าวมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับข้อมูลจากสหรัฐ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2549 และยังยืนยันว่า ข้อมูลในเอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการสนับสนุนข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อครั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่า เป็นจริง ดังนั้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวรัฐบาลที่จะมิให้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นทางการเมืองต่อไป และเพื่อประโยชน์ต่อระบบการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น สำนักงานอัยการสูงสุดควรจะนำข้อมูลในเอกสารสำคัญดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อตอบคำถามที่ค้างคาใจคนไทยมานานว่า ทำไมเมื่อหน่วยงานยุติธรรมของสหรัฐประกาศทางเว็บไซต์ว่า บริษัท อินวิชั่นมีการจ่ายสินบนให้แก่ 3 ประเทศ คือ จีน ฟิลิปปินส์ และไทย เพื่อขายสินค้า แต่ประเทศไทยซึ่งถูกพาดพิงกลับมีผลการสอบสวนว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดหรือใคร รับสินบนในโครงการเดียวกัน