นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววานนี้ (16 ก.พ.) ถึงข้อสรุปการจ่ายเงิน 2,000 บาท ว่า จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน (กรอ.)
เพื่อให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อคิดว่าวิธีไหนตรงเป้าหมายมากที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ระบุว่าจะจ่ายเป็นเช็คให้กับประชาชน นายกฯตอบว่า แนวโน้มขณะนี้เป็นอย่างนั้น แต่เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน ก็จะใช้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันพุธที่ 18 ก.พ.นี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีพร้อมหน้า และมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วยจะได้จบ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อกังวลว่าการเอาภาคเอกชนเข้ามาร่วม ผลประโยชน์ อาจตกอยู่กับเอกชนบางราย นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ต้องแลกกัน ต้องลดให้ประชาชน ประชาชนต้องได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งจะต้องเปิดให้กว้างในการเข้ามาร่วม
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ จะให้ภาคเอกชนมาคุยกับ ครม.เศรษฐกิจ จะรู้ชัดเจนว่าการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้กับผู้มีรายได้น้อยแบบไหน
เรื่องนี้มีคนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เก่ง เพราะทำเรื่องแจกเงิน 2,000 บาทมาไม่มีคนรู้ พอแกล้งออกมาทะเลาะกันนิดเดียวคนรู้กันหมด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการทำงานมีผิดพลาดบ้าง และมีความเสียหายเกิดขึ้น เพราะมีหนังสือออกจากกระทรวงแรงงาน ให้คนไปเปิดบัญชีธนาคารแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ขอยืนยันว่าได้เงินแน่ และจะพยายามให้มีมูลค่ามากขึ้น เช่น ถ้าออกเป็นเช็คแล้วใครถือเช็คนี้ไปซื้อสินค้า จะได้รับส่วนลดพิเศษ หรือไปพักโรงแรมก็ได้ส่วนลด 50% เพราะเป็นเช็คของรัฐบาลไม่เด้งแน่ และอยากจะให้เช็ค 2,000 บาท มีมูลค่าถึง 2,200 บาท หรือ 4,000 บาท ส่วนที่ที่ยังไม่อยากใช้ตอนนี้ จะไปใช้เดือนหน้า ก็เอาเช็คไปฝากธนาคารก่อนได้ แตกต่างจากการทำเป็นคูปอง ที่ใช้ช็อปปิ้งได้อย่างเดียว แต่ฝากธนาคารไม่ได้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า จะจ่ายเงินในรูปแบบไหนก็ได้ ขอให้ผู้รับได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย มองว่าวิธีการไม่สำคัญเท่าไหร่ อยู่ที่ได้เงินไปแล้วใช้จริงหรือไม่ และเต็มเม็ดเต็มหน่วยไหม
นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพจำนวน 2,000 บาทให้กับผู้ประกันตน 8.3 ล้านคนว่า
ภายหลังจากการประชุมร่วมกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ ข้อสรุปว่าจะจ่ายให้ผู้มีรายได้น้อย ในรูปแบบเช็คเงินสด เหมือนการจ่ายคืนเงินภาษีของกรมสรรพากร เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก และค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกันตนโดยตรง ทั้งนี้ จะเริ่มจ่ายให้ในวันที่ 26 มี.ค.-7 เม.ย. ผ่านช่องทางในการรับเงิน 3 ช่องทาง คือ 1. สามารถติดต่อรับเงินที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ 2. จ่ายเงินผ่านสถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่ และ 3. ส่งตรงไปยังบ้านของผู้ประกันตนทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนจะต้องแจ้งกับ สปส.ว่า สะดวกในการรับเงินด้วยวิธีใด โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน สปส.ทั่วประเทศหรือสายด่วน 1506 หรือบริษัทอาจจะรวบรวมชื่อพนักงานทั้งหมดมายื่นก็ได้ เพื่อความรวดเร็ว
นอกจากนี้คนที่ไม่ได้ แจ้งความจำนงหรือตรวจสอบสิทธิล่าช้า สามารถมาแสดงสิทธิและขอเงินย้อนหลังได้ สำหรับผู้ที่ได้รับการปรับฐานเงินเดือนก็ไม่ต้องกังวล เพราะรัฐบาลจะยึดฐานเงิน เดือนวันที่ 13 ม.ค. 52 ที่มีการลงมติ ค.ร.ม.อนุมัติหลักการดังกล่าวเป็นสำคัญ
ชี้ขาดการแจกเงินวันที่ 18 ก.พ.นี้
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!