เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (16 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ระบุว่า ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีที่อยู่ฝ่ายความมั่นคงว่ามีคำสั่งลับให้สนธิกำลังทหารและตำรวจ 10,000 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เพื่อเตรียมรับมือคนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ท้องสนามหลวง ไม่รวมกองกำลังปกติ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นความจริง จึงอยากถามรัฐบาลถึงความจำเป็นต้องใช้กองกำลังถึง 10,000 นาย สกัดคนเสื้อแดง ทั้งที่ที่ผ่านมาได้ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ทำไมการชุมนุมในวันที่ 24 ก.พ.ที่จะมีคนมานับแสน รัฐบาลและกองทัพถึงตื่นตระหนกตกใจต้องใช้กองกำลังเตรียมรับมือมากถึงขนาดนั้น หรือกลัวคนเสื้อแดงยึดทำเนียบรัฐบาลเหมือนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำ
ปูดกองทัพมีคำสั่งลับ สนธิกำลังรับมือนปช.
นายพร้อมพงศ์ ยังตั้งคำถามว่าใครเป็นคนสั่งการ ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง
ขอให้ชี้แจงให้สาธารณะได้รับทราบ เพราะลูกหลานของทหารและตำรวจเหล่านี้ไม่สบายใจ ไม่อยากตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ที่อาจทำให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ล้มตายได้ อีกทั้งที่ผ่านมารัฐบาลมีนโนบายปรองดอง และหลักนิติรัฐ แต่ทำไมต้องมีคำสั่งแบบนี้ ดังนั้นขอให้รัฐบาลทบทวนคำสั่งระงับการสนธิกองกำลังดังกล่าว ถ้านายกรัฐมนตรีไม่กล้าใช้อำนาจ ก็แสดงว่าเป็นแค่นายกฯ เงาเท่านั้น ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินในงานเลี้ยงระดมทุนของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยย้ำว่าจะกลับมาประเทศไทย เพื่อทวงความยุติธรรมกลับคืนว่า
คำพูดดังกล่าวได้ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยฮึกเหิมที่จะเดินหน้าต่อสู้ทางการเมืองต่อไป และเป็นการตอกย้ำว่านายใหญ่จะกลับมาประเทศไทยอย่างแน่นอนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อต่อสู้ทางการเมือง และเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งตามที่ประชาชนเรียกร้อง
"แค่ส่งเสียงมาประเทศไทยยังทำเอารัฐบาลดิ้นพล่าน แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ กองทัพ พรรคภูมิใจไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ แสดงอาการปากกล้าขาสั่น กลัวว่าท่านกลับมาแล้วพวกนี้ที่หนุนหลังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้าน" นายสุรพงษ์ กล่าว และว่าตอนนี้จะปล่อยให้รัฐบาลนี้โชว์ฝีมือแก้เศรษฐกิจและปัญหาของประเทศ ไปก่อน ขอให้ทำอย่างเต็มที่ อย่าบริหารประเทศจนร่ำรวยเฉพาะพวกพ้อง แต่ประชาชนยากจน
ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินสายจัดกิจกรรมที่ภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และพะเยานั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รีบไปเร็ว
เพราะพวกเสื้อแดงรอรับมืออยู่แล้ว ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ และพลเสื้อแดง ได้ทำสถานการณ์การเมืองร้องแรงขึ้น เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องเกิดสงครามกลางเมืองแน่ เพราะต่างฝ่ายต่างๆไม่ยอมซึ่งกันและกัน ดังนั้นวิธีแก้ไขจะต้องมีกฎหมายความปรองดองแห่งชาติ ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะเดินหน้าไปไม่ได้ เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องใจกว้าง รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์อย่ามีความคิดเห็นแก่ตัว กลัวหมดอำนาจ อย่ากลัว พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา