มาร์คไม่ตอบโต้โฟนอินแม้ว เทพไทหยันกลัวติดคุกไม่กล้ากลับ ย้อนดูลูกพรรคกล่าวหาปชป.ปล้นอำนาจ

"อภิสิทธิ์"ไม่สน"ทักษิณ"โฟนอิน"โจมตีเดือด บอกหน้าที่แก้ปัญหาให้ประเทศสำคัญกว่า เชื่อปชช.แยกแยะได้ ความจริงเป็นความจริง ขณะที่โฆษกเทพไท เย้ยไม่กล้ากลับไทยเพระกลัวติดคุก ยันปชป.ไม่ได้ปล้นอำนาจ ให้ย้อนดูลุกพรรคตัวเอง "แม้ว" ลั่นขอตายคาอีสานไม่ยอมตายเมืองนอกแน่

"มาร์ค"ไม่ตอบโต้โฟนอิน"แม้ว"เชื่อปชช.แยกแยะได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  กล่าวเมื่อวันที่ 15 ก.พ. โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินโจมตีรัฐบาลค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่อง ว่า มันไม่มีอะไรใหม่ หน้าที่ตน และของรัฐบาล คือ แก้ปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ  สนใจเรื่องตรงนี้มากกว่า


เมื่อถามว่า การโฟนอินบ่อยครั้งของพ.ต.ท.ทักษิณ จะกระทบการทำงานรัฐบาลและทำให้เสียสมาธิการทำงานหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ เพราะรัฐบาลต้องรักษากฎหมาย ตนก็ทำงานตามปกติของตน แล้วให้ความใส่ใจกับปัญหาของประชาชนเป็นหลัก และเดินหน้าทำงานต่อไป

 

“ผมเห็นว่าผมมีหน้าที่ในการบริหารงาน ส่วนใครจะมีปัญหาของตัวเองอย่างไร ก็มีสิทธิที่จะพูดได้ แต่ว่ามันไม่ใช่งานของรัฐบาล และรัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญต่อคนทั้งประเทศ ส่วนถ้าไปกล่าวหาใคร มาพาดพิงใคร ก็ชี้แจงกันไป แต่ในส่วนของรัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เราก็ชี้แจงเฉพาะงานของเรา อย่างเรื่องเศรษฐกิจ ผมก็ต้องยืนยันว่า รัฐบาลเข้ามาในภาวะที่เศรษฐกิจติดลบมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 แล้ว” นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้หน่วยงานความมั่นคงติดตามการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรามีหน้าที่ติดตามอยู่แล้ว ใครทำผิดกฎหมายก็ถูกดำเนินการ ใครไม่ทำผิดกฎหมาย ก็มีสิทธิกระทำในสิ่งที่เขาทำ เมื่อถามว่า แต่การที่พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า รัฐบาลไม่มีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง แล้วรัฐบาลก็มีมาตรการ อีกทั้งประชาชนเข้าใจดีกว่า สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตอนนี้เป็นอย่างไร ตนเชื่อมั่นในวิจารณญาณของพี่น้องประชาชน แยกแยะได้ และถ้าตนทำไม่ได้ ก็พร้อมเปิดทางให้คนใหม่เข้ามา เป็นธรรมดาของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่ในวันนี้ยังมั่นใจอยู่ว่า แนวทางที่ทำมา เป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาในขณะนี้ได้ และช่วยประคับประคองให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ 


 
  "เทพไท"โต้"แม้ว"กลัวติดคุกไม่กล้ากลับ ปัดปล้นอำนาจ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงเมื่อวันที่ 15 ก.พ. โดยตอบโต้การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานเลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนของกลุ่มคนเสื้อแดงหน้าวัดไผ่เขียว เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า จะไม่ยอมตายเมืองนอก แต่จะกลับมาตายในเมืองไทยว่า ทุกฝ่ายเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศ แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเจ้าตัว ที่ไม่ยอมกลับประเทศ เนื่องจากกลัวติดคุกมากกว่ากลัวตาย


ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวโจมตีว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้มาจากการปล้นอำนาจนั้น  นายเทพไท กล่าวว่า ก็ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลนี้เกิดขึ้นได้เพราะพรรคร่วมเห็นว่า รัฐบาลทั้ง 2 ชุดที่พ.ต.ท.ทักษิณให้การสนับสนุนอาจทำให้บ้านเมืองไปไม่รอดจึงเกิดการเปลี่ยนขั้ว และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ทำโดยเปิดเผย ต้องลุ้นถึงนาทีสุดท้าย หากจะบอกว่า รัฐบาลใดปล้นอำนาจมา ก็อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปดูลูกพรรคที่ได้อำนาจมาจากการซื้อเสียง โกงการเลือกตั้ง และใช้อำนาจรัฐแทรกแซงการเลือกตั้งมากกว่า

 

นอกจากนี้ นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวโจมตีนโยบายประชานิยมของรัฐบาลด้วยว่า ตนไม่ทราบว่านโยบายของรัฐบาลเป็นประชานิยมหรือไม่ แต่ยืนยันว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์ ที่สำคัญจะต้องได้ประโยชน์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มีการนำเข้ากระเป๋านายทุน หรือมีการคอรัปชั่นเชิงนโยบาย

 
"แม้ว"โฟนอินอ้อนขอตายคาอีสาน
 
ก่อนหน้านี้  เมื่อเวลา 19 .30 น. วันที่ 15 ก.พ.  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามาในงานเลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนของกลุ่มคนเสื้อแดงหน้าวัดไผ่เขียว เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โฟนอินเข้ามาว่า ไม่ยอมตายเมืองนอกแน่นอน เพราะเป็นห่วงพี่น้องคนไทย ที่บอกว่ายอมจะไปตายแผ่นดินอีสานหมายความว่า พร้อมจะเข้าประเทศไทยทุกเวลาถึงแม้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกฆ่าตายคาแผ่นดินอีสานก็ยอม วันนี้เป็นวันสัญลักษณ์แสดงความรัก บางคนก็แสดงความรักต่อครอบครัว กับลูกกับแม่ แต่วันนี้ทุกคนมาแสดงความรักกับระบอบประชาธิปไตย เป็นน้ำหล่อเลี้ยงประเทศไทยซึ่งกำลังป่วยกำลังกัดกร่อนเพราะไม่ยึดตามกติกา เพียงแต่อยากจะย้ายข้างย้ายขั้วโดยไม่สนใจกติกา
 
ซัดปล้นอำนาจให้รัฐบาลปชป.

 
" ผมไม่ห่วงตัวเอง ไม่ห่วงเรื่องอำนาจ เพราะเป็นเรื่องเล็ก แต่ปัญหาคือต่อไปนี้ประชาชนจะอยู่กันอย่างไร ถ้าคิดว่าไม่ต้องมีการแข่งขัน ถึงเวลาก็มีคนมาช่วยปล้นอำนาจให้แล้วก็เข้ามานั่งบริหารประเทศ จิตสำนึกอย่างนี้มันไม่ทางเข้ากับระบบแข่งขันที่ตรงไปตรงมา การแข่งขันในระบอบประชาธิปไตยคือการแข่งขันทำความดีให้กับประชาชน และประชาชนศรัทธาจึงเลือกเข้ามาทำงาน วันนี้ ระบบนี้มันถูกลิดรอนไปแล้ว โดยการเอาทหารมาใช้ เอาศาลรัฐธรรมนูญมาใช้ ซึ่งอันนี้เสียหาย " พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

สอนมวยวิธีแก้เศรษฐกิจ

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อไปว่า ได้เดินทางรอบโลก และเห็นสิ่งที่ไม่ค่อยเป็นผลดีต่อประเทศไทยหลายเรื่อง เรื่องที่หนึ่งคือวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และตอนนี้เริ่มลุกลามไปหลายที่จนบริษัทใหญ่ต้องล้มเพราะสภาพคล่องธนาคารไม่มีเงินให้กู้ และจะลามมาถึงไทยตรงไหน เพราะไทยเป็นประเทศที่ยึดการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ของจีดีพี (ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ) กว่า 60% ของจีดีพีไทยเกิดจากการส่งออก ส่งออกหมายความว่าต้องส่งออกไปขายประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ปรากฏว่าวันนี้กำลังซื้อหมด เมื่อกำลังซื้อหมด หรือลดลงไปมาก กระทบส่งออกแน่ กระทบต่อจีดีพีประเทศแน่นอน อีกส่วนที่อาศัยเป็นรายได้คือการท่องเที่ยวก็มีปัญหาอีก เพราะความไม่น่าเชื่อถือของระบบ เอาคนยึดสนามบินมาเป็นรัฐมนตรี คนก็ไม่เชื่อถือ สิ่งที่เป็นห่วงมากคือว่า พอความไม่น่าเชื่อถือเกิดขึ้น การลงทุนลดน้อยลง ส่งออกลดลง ท่องเที่ยวลดลง พี่น้องจะอยู่กันอย่างไร แล้วเรื่องของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ รัฐบาลยังทำได้น้อย และยังไม่เข้าใจประเด็น นึกว่าการทำประชานิยมเพียงพอ ต้องเข้าใจประชานิยมเพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อคะแนนเสียง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้อง

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจของไทยจะอ่อนแอแน่นอนในปี 2552 การเติบโตน่าจะแย่มาก คือไม่โต หมายถึงคนที่ทำงานปัจจุบันตกงาน เด็กที่เรียนหนังสือจบใหม่หางานทำไม่ได้ พ่อแม่กำลังซื้อตก เงินทองไม่มี ลูกจะเรียนหนังสืออย่างไร ปัญหาสังคมตามมาแน่นอน วันนี้การเมืองยิ่งอ่อนแอแบบนี้ การเมืองที่ไม่ยึดกติกา 2 มาตรฐานแบบนี้ เรื่องที่ไม่เคารพประชาธิปไตย ไม่มีทางเลยที่ประเทศชาติจะฟื้นได้ พี่น้องที่เรียกหาประชาธิปไตยที่แท้จริง เรียกหาระบบความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม น่ายกย่อง เพราะบางคนก็อาจจะบอกว่าไม่ใช่เรื่อง แต่จริงๆ แล้วประเทศจะอยู่ได้ด้วยน้ำหล่อเลี้ยงที่ดีคือระบอบประชาธิปไตย
 
ชี้ชาติพังถ้าไม่เป็นปชต.

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวิกฤตเศรษฐกิจจริงๆ แล้วมีต้นเหตุเกิดจากขาดกระบวนคิดในเรื่องของการผลิต ถ้าผลิตแล้วขายไม่ได้ราคา ไม่ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และวันนี้สหรัฐขาดดุลการค้าจมจึงไม่มีกำลังซื้อ ถึงแม้งบฯกลางปีจะผ่านสภาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะวันนี้การแก้ปัญหาอยู่ที่ไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งจำเป็นต่อการผลิตในอนาคตข้างหน้า ถ้าประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ก็เกิดขึ้นยาก เพราะประชาธิปไตยทำให้คนคิดอย่างไม่มีข้อจำกัด ถ้ากล้าคิดกล้าแสดงออกอย่างไม่มีข้อจำกัด วันนี้จึงต้องกลับมาที่ประชาธิปไตย ถึงบอกว่าประชาธิปไตยเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ ถ้าใครบอกว่าประชาธิปไตยไม่สำคัญ คิดว่าจบ

 
"ถ้าเมื่อไหร่ประชาชนพร้อมที่จะเอาผมกลับ ผมก็พร้อมจะกลับ เมื่อไหร่ที่ชาติคิดว่าผมเป็นประโยชน์จะให้ผมกลับ ผมก็กลับ แต่กลับมาแล้วจะตายจะถูกฆ่าตายก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีความเป็นธรรม วันนี้สิ่งที่เขาเรียกร้องให้กลับมาขึ้นศาล ต้องถามก่อนว่า ผมได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ นอกจากกระบวนการสอบสวนโดย คตส. ตั้งขึ้นโดยปรปักษ์ คือคณะปฏิวัติ แล้วตั้งคนที่เป็นปฏิปักษ์กับผมทั้งนั้น ผมจบปริญญาเอกทางกระบวนการยุติธรรมอาญา แต่เป็นผู้ที่ได้รับความไม่ยุติธรรมมากที่สุด เพราะดันทะลึ่งไปทำงานรับใช้ประชาชนจนเป็นที่พอใจของประชาชน นั่นคือที่มาของความอยุติธรรมที่โถมใส่ผม เพราะต้องการขจัดผมให้พ้นจากการเมืองไทย"
 
ข้องใจติดคุก2ปี-ลั่นไม่ยอมแพ้
 
"พวกที่กล่าวหาผมคอร์รัปชั่นจำคุก 2 ปี คอร์รัปชั่นแปลว่าอะไร ยักยอกเอาเงินส่วนตัวเป็นของตัวเอง ผมซื้อที่จ่ายตังค์ ศาลพิพากษาว่าผู้ขายก็ไม่ผิด ผู้ซื้อก็ไม่ผิด ที่ดินพิพาทก็คืนให้ผู้ซื้อ แต่ผู้ขายดันทะลึ่งเป็นผัวคนซื้อ เซ็นใบยินยอมให้ ก็เลยต้องติดคุก 2 ปี อย่างนี้หรือแปลว่าคอร์รัปชั่น ให้ใครเอาส่วนไหนคิดก็คงจะพอรู้ แต่ถือเป็นชะตากรรมที่ต้องรับก็ต้องรับ แต่ขอให้รู้ว่ารับอย่างไรก็ไม่ยอมแพ้ ผมเห็นว่าเรื่องนี้ต้องเคารพกติกา ไม่ใช่ใช้กรรมการมาเข้าข้างตัวเอง อีกไม่กี่วันมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็คงจะรู้กันว่าอะไรเป็นอะไร ขอขอบคุณประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมจะไม่กลับคืนสู่ประเทศไทยตราบใดที่ประชาธิปไตยยังไม่เสร็จ ยังไม่เป็นหลักต่อการเมืองไทย ผมจะไม่ยอม พี่น้องเชื่อมั้ยศาลตัดสินผมผิดด้วยมติ 5 ต่อ 4 โดย 4 ที่บอกว่าผมไม่ผิด เขียนได้ชัดเจนเห็นว่าผมไม่ผิด แต่วันที่ศาลตัดสินลงโทษ มันเหลือ 4 ต่อ 4 เพราะอีกคนไม่สามารถนั่งบังลังก์ได้" อดีตนายกฯกล่าวในท้ายสุด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์