มาร์คโยนครม. สกัดพรบ.นิรโทษ


"เนวิน"ขนม็อบเชียร์ ตั้ง"ชวรัตน์"หน.พรรค

ภูมิใจไทยไม่พลิกโผ "ชัย" ชงเอง ดัน "ชวรัตน์-หัวหน้า พรทิวา-เลขาฯ บุญจง-รองหัวหน้า"ชูเป็นพรรคทางเลือกใหม่ ทั้ง "เนวิน-สมศักดิ์-อนุทิน" ตบเท้าคุมงาน ขนสมาชิกร่วมหมื่นคนสวมเสื้อน้ำเงินแห่ร่วมงานแต่เช้าตรู่

"ชวรัตน์"ปัดไม่ใช่หุ่นเชิดเนวิน ยังหนุนนิรโทษกรรม เตรียมนำถกขอมติที่ประชุมพรรค รมต.บุญจง-มานิต อ้างต้องรอเวลาเหมาะสม

"มาร์ค"ยันไม่ปิดกั้น แต่อ้างรอหารือพรรคร่วมในครม. โฆษกปชป.ดักคอพท.เสนอพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ สอด ไส้ล้มคดีสลายม็อบ 7 ตุลาฯ หนุนนายกฯปฏิรูปการ เมืองในกรอบใหญ่

แฉบิ๊กดีเอสไอเข้าพบครม.ชุดสมชายก่อนมีเรื่อง 250 ล้าน ระบุกกต.แจกแดงผู้สมัครเมืองปากน้ำ ปล่อยตามกระบวนการยุติธรรม ไม่หวั่นยุบพรรค
 
"ชัยสิทธิ์"ยันหากมีกม.นิรโทษกรรม เชื่อ "แม้ว"ยอมลาการเมือง "ประวิตร"จ๋อยเป็นแม่งานจัดเลี้ยงสังสรรค์ตท.6 ไร้เงาอดีตบิ๊กคมช.

อนุพงษ์ลั่นกลางงานเลี้ยงตท.10 เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน กลุ่มเพื่อนแม้วงอนไม่โผล่ร่วมงานหลังสั่งห้ามแม้วโฟนอินระบายความในใจอ้อนบิ๊กเหล่าทัพช่วยเหลือ โฆษกพท.โต้ข่าวพรรคแตก เตรียมยกญัตติซักฟอกหารือในพรรค 16 ก.พ.นี้

อดีตทรท.แฝงตัวร่วมงานภูมิใจไทย


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกทม. (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง พรรคภูมิใจไทยจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2552 โดยมีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน อาทิ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และ ส.ส.กลุ่มมัชฌิมาธิปไตยเดิม อาทิ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข และสมาชิกพรรคทั่วประเทศมาร่วมประชุม เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค โดยการประชุมใช้วิธีลงคะแนนลับภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 และห้ามสื่อ มวลชนและบุคคลร่วมสังเกตการณ์การเลือกกรรมการบริหารพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้มีอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย มาร่วมสังเกตการณ์ โดยสวมเสื้อยืดคอปกสีน้ำเงิน เขียนข้อความที่หน้าอกเสื้อ "เราเพื่อนเนวิน เนวินเพื่อนเรา" และสวมหมวกแก๊ป แต่ไม่ได้ขึ้นปรากฏตัวบนเวทีและในที่ประชุมพรรคเหมือนการประชุมที่โรงแรมสยามซิตี อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกพรรคจากต่างจังหวัดได้มาประชุมด้วยเกือบหมื่นคน ซึ่งเดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยสวมเสื้อยืดคอปกสีน้ำเงินเข้ม ปักสัญลักษณ์พรรคภูมิใจไทย พร้อมข้อความคำขวัญประจำพรรค โดยมีรถบรรทุกอาหารไทย ญี่ปุ่น พร้อมน้ำดื่ม ขนมหวาน ข้าวหลามมาแจกจ่ายสมาชิกพรรคอย่างไม่อั้น

"เนวิน"ลงมือคุมงานเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ยังมีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจากทุกพรรค มาร่วมแสดงความยินดี ประกอบด้วย นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาห กรรม ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และนายรณ ฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ว่าที่หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการเตรียมงานประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ศูนย์เยาว ชนกทม. (ไทย-ญี่ปุ่น) เวลา 19.00 น. นายเนวิน ชิดชอบ ได้เข้ามาตรวจความเรียบร้อย เมื่อพบว่างานไม่เป็นไปตามที่ต้องการหลายอย่าง โดยเฉพาะการรับสมัครสมาชิกพรรค นายเนวินไม่พอใจสั่งรื้อขั้นตอนการเตรียมงานใหม่เกือบหมด ทำให้การจัดงานวันนี้ค่อนข้างฉุกละหุกวุ่นวายในการรองรับกับจำนวนสมา ชิกนับหมื่นที่มาร่วมงาน

"ชวรัตน์"นั่งหัวหน้าตามโผ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมเพื่อเลือกกรรม การบริหาร 12 คน ได้แบ่งสัดส่วนผู้บริหารพรรค โดยกลุ่มเพื่อนเนวิน และกลุ่มมัชฌิมาเดิม ฝ่ายละ 6 คน โดยตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายชัย ชิดชอบ ได้เสนอชื่อนายชวรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ ภายหลังนับคะแนนเสร็จเวลา 11.30 น. ผลปรากฏว่า นายชวรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค นายบุญจง และนายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ กลุ่มเพื่อนเนวิน และอดีตเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นรองหัวหน้าพรรค นางพรทิวา เป็นเลขาธิการพรรค นายเรืองศักดิ์ งามสมภาค กลุ่มมัชฌิมาเดิม และนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ เป็นรองเลขาธิการพรรค

นายพิพัฒน์ พรมวราภรณ์ คนสนิทนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นนายทะเบียนพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร กลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นโฆษกพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรค ได้แก่ นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มเพื่อนเนวิน นายพันธพัฒน์ พัฒนะพัฒนา กลุ่มมัชฌิมาเดิม และนายนำพร วานิชชัง กลุ่มมัชฌิมาเดิม และนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม และส.ส.ขอน แก่น เป็นเหรัญญิก

ชูธงพรรคทางเลือกใหม่

ภายหลังการประชุม นายชวรัตน์แสดงวิสัยทัศน์กับสมาชิกพรรคว่า ขอสัญญาว่าจะทุ่มเททำงานให้ประเทศ จะนำประสบการณ์ทั้งชีวิตมาสร้างสรรค์พรรคภูมิใจไทยให้เป็นสถาบันการเมืองและเป็นที่พึ่งประชาชน จะมุ่งมั่น ธำรงและรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ขอประกาศเป็นสัญญาประชา คมว่า พรรคภูมิใจไทยจะเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง ไม่ทำให้ประชา ชนผิดหวัง โดยจะใช้แนวทางตามสโลแกนพรรคว่า ประชานิยม สังคมเป็นสุข และเชื่อว่าหากประชาชนได้รับประโยชน์จากประชานิยม โดยไม่มีใครเบียดบังกินหัวคิว ก็มั่นใจว่าประชานิยมจะสร้างสังคมให้เป็นสุขได้

"เป็นธรรมดาเราต้องเจ็บปวดจากการถูกวิจารณ์ กล่าวหาต่างๆ นานา แต่เชื่อว่าวันหนึ่งพี่น้องที่เคยตำหนิเราจะเข้าใจเมื่อความจริงปรากฏ ต่อไปนี้เราจะไม่ได้ทำงานโดดเดี่ยว เราจะช่วยทำงานกันทุกคน ซึ่งพรรคจะเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นทางรอดของประเทศเพราะที่ผ่านมาคนไทยถูกปั่นหัวลุกมาห้ำหั่น หวาดระแวงกันเอง ส่วนสัญลักษณ์สีเสื้อพรรค ต้องเป็นสีน้ำเงิน เพื่อสื่อถึงความจงรักภักดี การยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่สมบัติของตระกูลใด แต่เป็นของประชาชนทั่วประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จะไม่มีใครมีสิทธิพิเศษหรือกลุ่มใดเป็นเจ้าของ" ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว และว่า ต่อไปตนจะนำสมาชิกพรรคลงพื้นที่พบปะประชาชนทั่วประเทศทุกจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาแล้วนำมากำหนดเป็นนโยบายพรรคต่อไป

ปัดไม่ใช่หุ่นเชิด"เนวิน"

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายชวรัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะลบภาพหัวหน้าพรรคนอมินี โดยมีนายเนวิน เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงว่า ตนไม่เห็นว่ามีอะไรเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าใครเป็นหัวหน้า ต้องทำตามนโยบายของพรรค ต้องทำงานหนักทั้งนั้น ขอให้ดูว่าการทำงานของตนเป็นอย่างไร จะทำตามนโยบายที่ประ กาศไว้หรือไม่ สามารถพิสูจน์ได้ และขอให้ดูต่อไปว่าจะมีใครเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ เมื่อถามถึงนายบุญจง อาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากกรณีแจกเงินพร้อมนามบัตร นายชวรัตน์กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะนายบุญจงมีวุฒิภาวะสูง สามารถชี้แจงเรื่องต่างๆ ได้ ขณะนี้นายบุญจง ยังทำงานตามปกติ

นายชวรัตน์กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ส่วนตัวเห็นด้วย พร้อมจะไปหารือกับทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชา ชนและประเทศชาติมากที่สุด ยืนยันว่ากฎ หมายใดก็ตาม นำประชาชนเป็นศูนย์กลางจะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ เมื่อถามว่านายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เสนอให้ประธานสภาช่วยประสานทุกฝ่าย นายชวรัตน์กล่าวว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดีเพราะขณะนี้นักการเมืองมีน้อย ถ้าได้คนมาทำงานมากขึ้น เป็นเรื่องที่ดี ควรจะเปิดโอกาส

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่เห็นด้วย รวมถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขู่ออกมาต่อต้าน นายชวรัตน์กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดและโครงสร้างของกฎหมายว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าดูแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ ทุกฝ่ายควรให้การสนับสนุน ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะมีการประชุมและมีมติอีกครั้ง เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้ง หากนำกฎหมายดังกล่าวเข้าสภา นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะทุกอย่างต้องคุยให้ชัดเจน หากเข้าใจแล้วปัญหาคงไม่มี แล้วจึงนำเข้าสู่สภา

"ประจักษ์"ยันไม่กดดันปชป.

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม กล่าวถึงนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สนับสนุนให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า เชื่อว่านายชวรัตน์ต้องการให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถมาช่วยงานการเมือง ส่วนตัวเห็นด้วยกับนายกรัฐมน ตรีที่ต้องการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนก่อน แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคงไม่มีใครปฏิเสธที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม อีกทั้งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การกดดันพรรคประชาธิปัตย์จนนำไปสู่ความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนกรณีนายบุญจงซึ่งถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่ามีการใช้เงินจริงนั้น เป็นเรื่องก่อนที่นายบุญจงจะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค หากมีอะไรเกิดขึ้นเป็นเรื่องของอนาคต นายบุญจงต้องเป็นคนรับผิดชอบ

นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า มั่นใจว่าจะไม่มีการเสนอกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภา ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เพราะการเมืองเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ปัญหาเศรษฐกิจเริ่มจะได้รับการแก้ไข ให้เศรษฐกิจดีขึ้นก่อนจากนั้นถึงค่อยมาพูดคุยกัน "เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาอยู่ในพรรคร่วมไม่นาน ต้องอาศัยการปรับตัว ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเสนอเอาโน้นเอานี้ เรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็น ค่อยไปดูความเหมาะสม ดูระยะเวลา"

"บุญจง"หงุดหงิดคดีนามบัตร

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ชี้มูลความผิดว่ามีการแจกเงินจริงและอาจนำไปสู่การยุบพรรคว่า ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา เพราะเรื่องเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาเป็นสมาชิกพรรค เมื่อถามว่าหากได้เป็นกรรมการบริหารพรรคจะเกิดปัญหากับพรรคภายหลังหรือไม่ นายบุญจงกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า ขึ้นกับมติที่ประชุมสมาชิกพรรคจะเห็นอย่างไร ตนพร้อมปฏิบัติตามและยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ต่อข้อถามว่าจะต้องชี้แจงเรื่องที่เป็นปัญหาในขณะนี้กับสมาชิกพรรคหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจง

ส่วนการเสนอออกกฎหมายนิรโทษกรรม นายบุญจงกล่าวว่าไม่ทราบว่าใครเป็นต้นคิด ส่วนตัวยังไม่เห็นเนื้อหาที่จะเสนอ ทั้งนี้การเสนอกฎหมายทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ขึ้นอยู่กับกระบวนการว่าจะมีการผลักดันเสนอกฎหมายเข้าไปในสภาได้หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่ากรณีดังกล่าวยังไม่จำเป็นเร่งด่วนเท่ากับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมยังไม่ได้คุยกับแกนนำ 111 ไทยรักไทย จึงไม่รู้เป็นแนวคิดของใคร ถ้าจะมีการเสนอจริงๆ เป็นเรื่องของอนาคต และเชื่อว่าก่อนนำเสนอจะต้องผ่านความคิดเห็นของแกนนำพรรค

"ตือ"หนุนหากทำเพื่อประชาชน

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทย เสนอออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ดี พรรคชาติไทยพัฒนาน่าจะสนับสนุน เห็นด้วยในหลักการว่าถ้าออกกฎหมายสร้างความ ปรองดอง ยุติความขัดแย้ง จะทำให้ผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เดินหน้าไปได้ ดังนั้น ถ้ามีการวางรากฐานเรื่องความสามัคคี ควรสนับสนุน ทุกฝ่ายต้องเข้ามาช่วยกันดู เพื่อให้เกิดประโยชน์ แต่หากเป็นกฎหมายที่ออกเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใดก็ไม่ควรออก ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯระบุกฎหมายดังกล่าวยังไม่ควรเสนอแก้ไขในตอนนี้ นายสมศักดิ์กล่าวว่าต้องดูในหลักการและรายละเอียด อย่ามองว่าฝ่ายใดจะได้เปรียบเสียเปรียบ ต้องช่วยกันดูให้โปร่งใส ถ้าสร้างความปรองดองได้คงไม่มีใครปฏิเสธ

เมื่อถามว่าพันธมิตรฯขู่ชุมนุมคัดค้าน หากนำกฎ หมายดังกล่าวเข้าสภา นายสมศักดิ์กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายช่วยกันทำให้เกิดความโปร่งใส โดยเฉพาะภาคประชาชนต้องเข้ามาช่วยดู เพื่อให้กฎหมายเป็นประโยชน์กับทุกกลุ่ม เมื่อถามว่าสมควรให้ใครเป็นผู้เสนอ นายสมศักดิ์กล่าวว่าทุกฝ่ายทั้งประธานรัฐสภา วุฒิสภา ส.ส. และส.ว.ต้องมานั่งคุยกัน รวมถึงประชาชนมาดูในหลักการร่วมกัน แล้วยกร่างดูสาระสำคัญ ดังนั้น อย่าเพิ่งติ และเป็นการแสดงความเห็นของแต่ละบุคคล ยังไม่ใช่พรรค เมื่อถามว่าประชาธิปัตย์ควรใจกว้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่าไม่เป็นไร ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน เท่ากับเกิดความปรองดองขึ้นบ้างแล้ว

"มาร์ค"เล็งรอถกในครม.

เวลา 12.30 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยจะยื่นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาในสัปดาห์หน้า โดยใช้ชื่อร่างพ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติว่า ยังไม่ได้หา รือกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล เคยคุยกันไว้ว่าขอให้อยู่ในกรอบของการปฏิรูปการเมือง เมื่อถามว่าขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป พรรคภูมิใจไทยอาจคิดว่าได้ประโยชน์จากการเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว นายกฯกล่าวว่าสถานการณ์ไม่มีอะ ไรเปลี่ยนแปลง เป็นปัญหาซึ่งพูดกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน ทุกคนทราบประเด็นกันอยู่

"แต่รัฐบาลไม่ต้องการเริ่มต้นอะไรซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม เราต้องใช้กระบวนการที่ทุกฝ่ายยอมรับ ส่วนข้อยุติจะเป็นอย่างไร ต้องขอเวลา ถ้าติดใจก็คุยกันได้ ผมเปิดกว้างที่จะคุยกับทุกคน ถ้าพรรคต่างๆ มีข้อเสนออะไรก็จะให้เหตุผลโดยอิงอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการปฏิรูปการเมือง ส่วนรูปแบบการปฏิรูปการเมืองจะมีคนกลางเข้ามา ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อมีคนกลางเข้ามา ความขัดแย้งในสังคมจะลดลง เราอยู่ในภาวะที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องสำคัญของคนส่วนใหญ่ คือเศรษฐกิจ และปัญหาการว่างงาน ผมไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นต่อสภาเมื่อไหร่ แต่กับพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะหารือร่วมกันในที่ประชุมครม. เพราะปกติในครม.จะพูดคุยถึงวาระการประชุมสภาอยู่แล้ว ยินดีให้คุยกันในครม." นายอภิสิทธิ์กล่าว

อ้างไม่ปิดกั้นพ.ร.บ.นิรโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเดินหน้าแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะได้ประโยชน์และอาจสนับสนุน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าฝ่ายนิติบัญญัติใช้สิทธิ์ของเขาได้ แต่รัฐบาลต้องไปคุยกัน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล คำนึงถึงเรื่องใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเพื่อขอให้ระงับการเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวหรือไม่ นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่าตนพยายามพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องการปฏิรูปการเมือง ถ้าเขาเข้าใจได้ก็ดี แต่ถ้าเขาอยากจะยืนยันสิทธิ์เสนอกฎหมาย ถือเป็นสิทธิ์ของเขา

ต่อข้อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลจะไปร่วมลงชื่อกับพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าส.ส.แต่ละพรรคมีสิทธิ์อยู่แล้ว เพราะปัจจุบันการเสนอกฎหมายส.ส.ลงชื่อได้ โดยไม่ต้องให้หัว หน้าพรรคเซ็นรับรอง แต่ต้องมาคุยกันในเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะบานปลายกลายเป็นปัญหากระทบเสถียร ภาพรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า คิดว่าสามารถบริหารจัด การได้ เพราะมันไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เป็นปมปัญหาอยู่ตลอดเวลา และหาทางเดินยังไม่ได้ว่าจะเดินกันอย่างไร ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุดคือเร่งทำกรอบปฏิรูปการเมืองตามที่ทุกฝ่ายยอมรับ

เมื่อถามว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยต่อการเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวและอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เปิดใจกว้างต่อเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าเราเปิดใจกว้าง ไม่ได้มีปัญหา ปัญหาที่ผ่านมาที่อยากให้ช่วยกันคิดคือปมความขัดแย้งที่บานปลายเมื่อปีที่แล้ว มันมาจากเรื่องทำนองเดียวกัน แต่วันนี้มีงานใหญ่กว่าที่รัฐบาลต้องทำคือ แก้ปัญหาฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาการว่างงาน หากทำอะไรที่เกิดความวุ่นวายขึ้นมาจนงานใหญ่เดินไม่ได้ ในที่สุดคงอยู่กันไม่ได้

"เทือก"รับยากพ.ร.บ.นิรโทษ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงฝ่ายค้านจะยื่นร่างพ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่สภา ว่า ยังไม่ทราบว่าเนื้อหาสาระของพ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นอย่างไร แต่หากเนื้อหาเป็นเหมือนกฎหมายนิรโทษกรรม คงไม่ใช่เรื่องที่คนจะรับได้ง่ายๆ

ปชป.เย้ยพท.จมปลัก

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาคุยกัน อาจเป็นเรื่องของสมาชิกบางคนของพรรคเพื่อไทยต้องการเอาใจเจ้านาย คิดว่าการเสนอร่างกฎหมาย ใด ควรเป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความชอบธรรมและมีผลกระทบส่วนใหญ่กับประชาชนทั้งประเทศ การเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มพรรคพวกนักการเมืองเพียงไม่กี่คน พรรคเพื่อไทยต้องทบทวน

นายชินวรณ์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังยึดติด จมปลักในเหตุการณ์ที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา โดยยึดเอาตัวบุคคลเป็นหลัก วันนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯควรนำระบบการเมืองเข้าสู่ระบบนิติธรรม ต่อ สู้คดีตามกฎหมาย มาทำพรรคเพื่อไทยให้เป็นสถาบันการเมือง แต่หากพรรคนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองผล ประโยชน์ของคนครอบครัวเดียว ก็จะไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน ฉะนั้นกรอบความคิดกระบวนการต่อสู้ทางการเมือง พรรคเพื่อไทยต้องกลับไปทบทวนใหม่

"พ.ต.ท.ทักษิณควรทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า การที่หวังดีแต่ดูเหมือนประสงค์ร้าย คือการเสนอกฎหมายขึ้นมาจะช่วยให้ตัวเองพ้นผิดนั้น แต่ในแง่ทางการเมืองปัจจุบันต้องการความสมานฉันท์ และอยู่ในกระบวนการนิติธรรม ลูกน้องทักษิณควรกลับมาทบทวนการเสนอกฎหมายเช่นนี้จะมีผลดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณและพรรคในระยะยาวหรือไม่" นายชินวรณ์ กล่าว

ดักคอสอดไส้ล้มคดีสลายม็อบ

เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีส.ส. พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างพ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติว่า พรรคมองว่าเป็นการใช้เงื่อนไขเรื่องการคืนสิทธิ์ทางการเมือง มาเป็นข้ออ้างผลักดันเรื่องที่ใหญ่กว่า เพราะร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีประเด็นเรื่องความผิดที่เป็นผลมาจากการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และความผิดอันเนื่องมาจากการสลายการชุมนุม 7 ต.ค. 2551 ซึ่งจะเป็นการยกความผิดทางอาญาของคดีที่เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลและก่อนชั้นศาล

"เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่ยังรวมถึงข้อกล่าวหาการใช้อำนาจเกินขอบเขตของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ กรณีการสลายการชุมนุม 7 ต.ค. พรรคจึงห่วงใยต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการยกความผิดมากกว่าความกังวลในการคืนสิทธิทางการเมือง ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ต้องยึดหลักนิติธรรมและประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชนและทุกฝ่ายในสังคม การจะออกหรือแก้ไขกฎหมายเพื่อบางคนหรือบางกลุ่ม ทำไม่ได้" น.พ.บุรณัชย์ กล่าว

น.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า พรรคขอสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯที่พยายามหารือกรอบใหญ่ของการปฏิรูปการเมือง ทั้งในพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขั้นต่อไปจะเดินหน้าหารือกับภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ทั้งนี้ ทางออกทางการเมืองต้องเป็นที่ยอมรับของทุกกลุ่มในสังคม

โต้"สุนัย"เงินบริจาค250ล.เลื่อนลอย

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวถึงข่าวเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 250 ล้านบาท ว่า พรรคยืนยันการรายงานงบการเงินของพรรค ประจำปี 2548 มีรายรับที่มาจากเงินบริจาค 38 ล้านบาท การระดมทุน 43 ล้านบาท และกองทุนพัฒนาการเมือง 25 ล้านบาท รวมถึงรายจ่ายในการจ้างบริษัทเอกชนทำประชาสัมพันธ์ โดยใช้เงินจากกองทุนพัฒนาการเมือง เป็นเรื่องจริงทั้งหมด และมีหลักฐานแสดงที่มาที่ไปของการรับและจ่ายเงิน

น.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า ส่วนที่นายสุนัย จุลพงศธร พยายามบอกว่าเป็นเงินที่ใช้ขนคนมาจากภาคใต้บ้าง เงินใช้โค่นรัฐบาลในอดีตบ้าง จากการตรวจสอบทั้ง หมดเป็นเรื่องเลื่อนลอย จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะนายสุนัย ถนัดร้องตะโกนบอกว่าไฟไหม้อยู่แล้ว พรรคยืนยันว่าข้อมูลข้อเท็จจริงที่พรรคมี พรรคพร้อมเปิดเผยต่อประชาชนเช่นเดียวกับที่กกต.คาดหวัง

แฉบิ๊กดีเอสไอดอดพบครม.สมชาย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีเรียกร้องให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ขอข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่องนี้มาตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแทรกแซงว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ ทั้งนี้ พรรคทราบว่ามีการเรียกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอเข้าพบอดีตผู้มีอำนาจในรัฐบาลที่แล้วในวันเดียวกับที่มีการรับประ ทานอาหารเย็นที่โรงแรมเอสซี พาร์ค ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการเปิดเผยกรณีเงินบริจาค 250 ล้านบาท

เมื่อถามว่าจะเสนอให้รัฐมนตรีเรียกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมาชี้แจงหรือไม่ น.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า คงส่งข้อมูลให้รมว.ยุติธรรม แล้วคงให้ผู้รับผิดชอบพิจารณาเอง ส่วนจะมีคนในดีเอสไอแข็งข้อหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่บางคดีมีความสำคัญมากและรัฐบาลให้ความสำคัญ ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่ตรงไปตรงมา ส่วนที่รมว.ยุติธรรมเคยบอกว่าดีเอสไอต้องปรับปรุงนั้น ก็เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ แต่จะไม่มีการแทรกแซงกลั่นแกล้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่

เมื่อถามว่ามองกกต.อย่างไรที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้กลับไปมา น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กกต.กับฝ่ายการเงินของพรรค มีหน้าที่รวบ รวมข้อมูลตามความจริง เรื่องนี้เกิดมาหลายปี ต้องมีการรวบรวมหลักฐานที่บันทึกไว้ แต่ที่ดีเอสไอรายงานกกต. และข้อมูลการเงินของพรรค ตรงกันแล้วว่ามีการรับและใช้จ่ายที่ถูกต้อง ไม่มีปัญหาอย่างที่มีคนโจมตี

ไม่หวั่นใบแดงปากน้ำโยงยุบพรรค

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกกต.มีมติให้ใบแดงน.ส. สรชา วีรชาติวัฒนา ผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการ พรรคประชาธิปัตย์ อาจเชื่อมโยงกับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคที่เข้าไปช่วยหาเสียง หรือมีส่วนรู้เห็นอันอาจจะทำให้ถูกยุบพรรคตามมาตรา 103 ของพ.ร.บ. เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ว่า กรณีนี้พรรคยืนยันชัดเจนว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งพรรคยอมรับผลการวินิจฉัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องร้องขอความยุติธรรมต่อกฤษฎีกา ผลจะเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ ยืนยันว่าพรรคยึดมั่นในแนวทางการเมืองที่บริสุทธิ์ การคัดเลือกผู้สมัครก็คัดเลือกอย่างดี และผู้สมัครทุกคนรู้ว่าพรรคไม่สนับสนุนให้ทำผิดกฎหมาย แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พรรคก็พร้อมให้การสนับสนุนการสอบสวน ส่วนที่ร้องให้ยุบพรรคก็เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ พรรคพร้อมต่อสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา

"ชัยสิทธิ์"ยันมีนิรโทษ-"แม้ว"ยอมถอย

พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงพรรคเพื่อไทยจะเสนอกฎหมายปรองดองแห่งชาติที่จะให้มีการนิรโทษกรรมว่า ถ้าเป็นไปได้ตนว่าดี นิรโทษกรรมทุกฝ่ายและหันหน้าเข้ามาหากัน เพื่อนำประเทศไทยไปข้างหน้าโดยใช้หลักประชาธิปไตย เมื่อถามว่าหลายฝ่ายบอกว่าเป็นการทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่าเลิกพูดได้แล้ว จะไปกลัวอะไรพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะขณะนี้เขาสาหัสแล้ว ถึงเวลาที่ควรคิดถึงความดี อภัยโทษก็จบ ทางออกที่ดีคือการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อถามว่ามีคนกลัวว่าหากนิรโทษกรรม พ.ต.ท. ทักษิณจะกลับมาเล่นการเมือง พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่าจะกลัวได้อย่างไร เมื่อประชาธิปไตยมาจากประชาชน ไม่ใช่มาจากใครคนใดคนหนึ่ง หากทำความดีประชา ชนก็จะเลือกเอง

เมื่อถามถึงเสียงเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาติดคุก พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่าเป็นแนวความคิดอีกอย่างแต่ต้องถามตัวเขาเอง คนอื่นตัดสินใจแทนไม่ได้ แต่พ.ต.ท.ทักษิณคงมองว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จึง ไม่ยอมเข้ามา ถ้าคนผิดจริงต้องยอมรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ายอมเสียตรงนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้าก็เป็นเหตุผลที่เหมาะสม ซึ่งตนคิดว่านิรโทษกรรมดีที่สุด เพื่อเราจะได้เริ่มต้นกันใหม่ และทุกคนไม่มีเสีย จะมีแต่ได้ แต่มีคนกลัวว่าอภัยโทษเสร็จแล้วพ.ต.ท. ทักษิณกลับมาชนะ ซึ่งช่วยไม่ได้เพราะอยู่ที่ประชาชน

เมื่อถามว่าหากนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณจะวางมือการเมืองหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณเลิกได้ เพราะลูกและภรรยาเห็นแล้วว่าการเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณคิดได้เอง ถ้าเสนอไปว่านิรโทษกรรมแล้วต้องเลิกเล่นการเมืองก็จบ เขาคงอยากมีชีวิตบั้นปลายที่สงบสุข ทั้งนี้ครอบครัวชินวัตรเหมือนคนไทยทุกคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การไปใส่ร้ายข้อกล่าวหาเขาทุเรศที่สุด ซึ่งไม่มีเหตุผล และเป็นไปไม่ได้ เหมือนไล่ยุงตัวเดียวเผาบ้านเลย

สังสรรค์ตท.6ไร้เงาศิษย์เก่าคมช.

วันเดียวกัน เวลา 08.00 น. ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พร้อมเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 6 (ตท.6) อาทิ พล.อ. นพดล อินทรปัญญา เลขานุการรมว.กลาโหม พล.อ. เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ อดีตผอ.ททบ.5 ออกรอบตีกอล์ฟ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าวันนี้ไม่อยากให้สัมภาษณ์การเมือง เนื่องจากเป็นวันหยุดจึงออกมาร่วมตีกอล์ฟกับก๊วนเพื่อนตท.6 ที่สนิทกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.00 น. ตท.6 นัดสังสรรค์ที่ร้านอาหารบัว ฝั่งตรงข้ามกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) โดยมีตท.6 ร่วมงาน ดังนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานรุ่น ได้มาถึงในเวลา 19.00 น. และเดินทางกลับในเวลา 19.45 น. ทั้งนี้ ภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างคึกคัก มีเพื่อนตท.6 ร่วมงานจำนวนมาก แต่น่าสังเกตว่า งานเลี้ยงสังสรรค์ครั้งนี้ ไร้เงาพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตประ ธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ. วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตเลขาธิการคมช. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผบ.สส. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ อดีตผบ.ทร. และอดีตสมาชิกคมช. มาร่วมงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีเพียงพล.อ.ประ วิตร และเพื่อนตท.6 ที่สนิทซึ่งออกรอบตีกอล์ฟในช่วงเช้า อาทิ พล.อ.นพดล อินทรปัญญา เลขานุการรมว.กลาโหม พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ อดีตผอ. ททบ.5 เป็นต้น

"ป๊อก"ลั่นเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน

ในช่วงเช้า ตท.10 ได้ออกรอบตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟกองทัพบก ซึ่งบรรยากาศเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ไม่สามารถมาออกรอบตีกอล์ฟได้ เนื่อง จากหัวเข่าอักเสบ แต่ในช่วงเย็นจะเดินทางไปร่วมงานกับเพื่อนตท.10 ที่หอประชุมกองทัพเรือ ในฐานะประธานตท.10 ทั้งนี้ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. ได้จัดเรือจากกรมการขนส่งทหารเรือ 3113 อำนวยความสะดวกให้กั

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์