พรรคประชาธิปัตย์ยังคงถูก "ปีศาจ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน จนกระทั่งมาได้เป็นรัฐบาลแบบไม่สง่างาม
เพียงแค่ได้ข่าวว่าจะโฟนอินเข้ามาทักทายกลุ่มคนเสื้อแดงในวันวาเลนไทน์นี้
ก็เล่นเอาทุรนทุราย หวาดผวากันตั้งหัวจรดหาง ถึงขนาดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ งัดอาวุธหนักออกมาเล่นงานว่าจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี
นายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค ประสานงาน สอดรับกันอย่างดีกับนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรค
ปูดว่าจีน ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ งดวีซ่า ห้ามพ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ เพราะมีคดีติดตัว
ล่าสุด ถึงขนาดระบุว่าสหรัฐอเมริกาก็ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศเช่นเดียวกัน
นายบุรณัชย์ยังงัดเอากฎหมายสหรัฐว่าพ.ต.ท.ทักษิณอาจเข้าข่ายมีความผิดฐานละเมิดกฎหมายว่าด้วยความเป็นกลาง เนื่องจากใช้เงินว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ และให้เงินสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองในไทยระหว่างรอนแรมอยู่ที่สหรัฐ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์บอกจะสอบถามเรื่องนี้จากเอกอัครราชทูตสหรัฐ ระหว่างเข้าพบนายชวน หลีกภัยที่พรรค
ส่วนจะมีการสอบถามจริงๆหรือไม่ นายบุรณัชย์ไม่ได้ออกมาแถลงอีกเลย
มีแต่นายเอริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐ ที่ออกมาปฏิเสธกรณีงดวีซ่าพ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่เป็นความจริง เป็นแค่ข่าวลือ ข่าวเท็จ สหรัฐอเมริกายังไม่มีการดำเนินการใดๆในเรื่องดังกล่าว
สำหรับนักตอบโต้ระดับขนเพชรอย่างนายเทพไท ดูจะหน้าแตกอย่างจัง แต่ก็ยังแถไถต่อว่าทูตมะกันไม่ได้ยืนยัน คือไม่ได้ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเป็นมารยาททางการทูต
เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มักแสดงบทบาทถนัดของตัวเอง ออกมาตอบโต้รายวัน แทนที่จะมุ่งมั่นในการทำงาน เพื่อพิสูจน์ฝีมือ
อาจจะเริ่มเสียศูนย์ เพราะถูกวิจารณ์หลายเรื่อง แถมเพิ่งอื้อฉาวเรื่องแจกปลากระป๋องเน่า
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เน้นการแจกเงิน แต่กลับเพิ่มภาษีน้ำมัน
การแต่งตั้งนายตำรวจระดับนายพล ที่ล้างบางฝ่ายตรงข้าม จัดวางคนที่เป็นพรรคพวกของตัวเองเข้าไปแทน เพื่อหวังประโยชน์ในทางการเมือง
รวมถึงการย้ายปลัดกระทรวงมหาดไทยที่คาราคาซัง ยังไม่สามารถแต่งตั้งคนใหม่เข้าไปแทนอย่างสมบูรณ์
กล่าวหาคนอื่นอยากเป็นประธานาธิบดี แต่ตัวเองโหนกระแสโอบามา
การกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการกระทำที่พรรคประชาธิปัตย์เคยด่าทอ วิพากษ์วิจารณ์ เข้มงวดกับคนอื่นมาแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เคยชี้ว่าคนอื่น ทั้ง 5 นิ้วกลับมาชี้ที่หน้าของตัวเอง