รายงาน-วอร์รูม...รุกกลับ“ทักษิณ”

เมื่อพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยเปิดเกม "รบซึ่งหน้า" แบบหวังผลเอาให้ตายกันไปคนข้าง มิหนำซ้ำยังเร่งปิดเกมเร็ว

รัฐบาลโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเร่งเดินเครื่องเต็มสูบเช่นเดียวกัน เพื่อหนีการตามไล่ล่าของพรรคฝ่ายค้าน พร้อมทั้งปรับแผนใหม่จากการตั้งรับเป็นการเปิดเกม "เพื่อรุก" มากขึ้น

 ไม่ว่าจะเป็นแผนปฏิบัติการทั้งในและนอกสภา ที่พรรคเพื่อไทยเดินเกมดิสเครดิตการบริหารงานของรัฐบาล เลยไปถึงแผนปฏิบัติการนอกประเทศ

 เริ่มจากเกมในสภาที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลพรรคร่วมหลายพรรค ที่เข้าทางพรรคเพื่อไทย ด้วยการเล่นเกม "นับองค์ประชุม" เป็นว่าเล่น จนทำเอาการประชุมหวิดล่มหลายต่อครั้ง

 ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมีการปรับแผนใหม่โดยตั้ง "วอร์รูม" ขึ้นมาประสานงานภายในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาล

 ผ่านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มี ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปเป็นหัวหอก

 มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาภายในวิป ประกอบด้วย คณะทำงานประสานงานการเมือง โดยมี "ชินวรณ์" เป็นหัวหน้าทีม

 คณะประสานงานกลางมี ธนิตพล ไชยนันทน์ เลขานุการวิปรัฐบาล เป็นผู้รับผิดชอบ ในการส่งข้อมูลและประสานงาน

 คณะทำงานการประสานการควบคุมเสียง ซึ่งมีทั้งหมด 35 กลุ่มจากพรรคร่วมทุกพรรค โดยวิป 1 คน รับผิดชอบสมาชิก 5 คน

 และล่าสุดมีคณะทำงาน "ชุดม้าเร็ว" โดยขออาสาสมัครจากผู้ช่วยส.ส.หรือผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.ในการอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในการส่งจดหมาย ส่งหนังสือราชการ และรับเรื่องราวร้องทุกข์

 ขณะเดียวกันยังผนึกกำลังกับ ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อขอความร่วมมือ งดการประชุมคณะกรรมาธิการในช่วงบ่ายของวันพุธ-พฤหัสบดี

 รวมถึงการประสานไปยังคณะรัฐมนตรีหากมีเหตุจำเป็นต้องประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ในวันพุธ-พฤหัสบดี ให้เปลี่ยนสถานที่มาประชุมที่อาคารรัฐสภาแทน

 ทั้งหมดนี้เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกและครม.แบบเต็มรูปแบบ เพื่อป้องกันเกมป่วนการนับองค์ประชุมในสภา

 ขณะที่ "ระดับพรรค" ก็มีวอร์รูมของพรรคที่คอยประสานงานกับสมาชิก โดยมี ชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ประสานงานกับกลุ่มการเมืองภายในพรรค  

 ส่วนเกมการเคลื่อนไหวนอกสภาทั้งใต้ดินและบนดิน เป็นหน้าที่หัวเรือใหญ่ อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง โดยแท็กทีมกับ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

 ดังนั้นทีมงานที่จะเป็นมือไม้ให้แก่ "สุเทพ" คงหนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนที่ยอมเปลี่ยนขั้วกับกำลังทหาร

 และนี่จึงเป็นต้นเหตุให้พรรคเพื่อไทยออกมาปูดว่า รัฐบาลจับมือกับทหารจ้องจัดการพรรคเพื่อไทยและกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 ส่วนการจัดการกับมวลชนเสื้อแดง นาทีนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้หลังจากใช้กำลังภายในผ่าน "กลุ่มเพื่อนเนวิน" เข้าไปสลายขั้วจนทำให้อ่อนกำลังลงไปอย่างเห็นได้ชัด


 แต่ที่ถือเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ตลอดกาล คงหนีไม่พ้น "ทักษิณ" หลังจากออกมาเปิดหน้าไพ่ประกาศรบเองแบบเต็มตัว ผ่าน "การโฟนอิน" อย่างต่อเนื่อง

 ทั้งในการสัมมนาพรรคที่เขาใหญ่ และผ่านทีวี "ดีสเตชั่น" ของมวลชนเสื้อแดง และล่าสุดเล็งโฟนอินรับวันวาเลนไทน์อีกครั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ บนเวทีม็อบเสื้อแดงทวงสัญญารัฐบาลที่สนามหลวง

 ถือเป็นการสู้กันแบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"

 "ทักษิณ" เล่นเกมมาอย่างไร รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก็โต้กลับในรูปแบบเดียวกัน

 เห็นได้จากกรณี "ทักษิณ" เดินยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ด้วยการเดินสายในต่างแดนและใช้เป็นฐานบัญชาการโจมตีรัฐบาล

 รัฐบาลประชาธิปัตย์โดย "สุเทพ" ก็ออกมาศอกกลับด้วยการจุดประเด็นร้อนเรื่อง "ทักษิณ" อยากเป็นประธานาธิบดี

 ส่งผลให้เกมรุกกลับของรัฐบาลร้อนแรงขึ้นมาทันที นับตั้งแต่ได้อดีตเอกอัครราชทูตฝีมือดีอย่าง กษิต ภิรมย์ บุคคลที่มีความชอบส่วนตัวในการขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามาคุมกระทรวงบัวแก้ว

 ไล่ตั้งแต่การถอนพาสปอร์ตแดง หรือหนังสือเดินทางทางการทูตของ "ทักษิณ" เพื่อตัดช่องทางหนี

 รวมไปถึงการออกมาประโคมข่าวของ เทพไท เสนพงษ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีหลายประเทศจ้องถอนวีซ่า "ทักษิณ" ตามรอยประเทศอังกฤษ

 โดยเฉพาะประเทศที่มีอิทธิพลต่อประชาคมโลก อย่าง จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

 และถึงแม้บางประเทศจะออกมาปฏิเสธเรื่องการถอนวีซ่าไปแล้ว แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตไม่มีประเทศไหนที่กล้าออกมาประกาศโดยตรง จนกว่าเจ้าตัวแจ้งความประสงค์

 จนเป็นที่มาของข้อครหาว่ารัฐบาลโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการเดินเกมทั้งหมด เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่นาน

 ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ในเมื่อ "ทักษิณ" เล่นเกม "โลกล้อมประเทศ" รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ใช้เกม "โลกล้อมทักษิณ" แบบช็อตต่อช็อตเลยทีเดียว

 ยังไม่นับรวมรายการปั่นเรตติ้ง หาแนวร่วมจากสังคมด้วยการลุกขึ้นมาสางคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคมแต่ถูกเพิกเฉยจาก "รัฐบาลทักษิณ"

 ไม่ว่าจะเป็นคดีการหายตัวของทนาย สมชาย นีละไพจิตร

 คดีการลอบสังหารชิปปิ้งหมู ผู้เคยออกมาแฉเส้นทางหลีกเลี่ยงการเสียภาษี บริษัทใกล้ชิด "ทักษิณ"

 และล่าสุดอาจจะรวมไปถึงคดี 40 นายตำรวจฉาว มีส่วนพัวพันกับการค้าเทปผี ซีดีเถื่อน ที่มีนายตำรวจยศสูงสุด พล.ต.ต.และต่ำสุดนายดาบตำรวจ เข้ามาเอี่ยวด้วย

 เพราะดันมีรายชื่อนายตำรวจกว่าครึ่งหนึ่งเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง

 ทั้งหมดนี้คือ เกมรุกกลับของรัฐบาลประชาธิปัตย์เพื่อ "ไล่ต้อนอำนาจเก่า รักษาอำนาจใหม่" ในสภาวะที่ถูกกดดันรอบด้าน 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์