ทูตสหรัฐฯปัดข่าวถอนวีซ่าทักษิณ-ห้ามพรทิวาเข้าประเทศ

ทูตสหรัฐเผยภายหลังหารือ "ชวน ระบุ "แม้ว-พรทิวา" ยังเดินทางเข้าอเมริกาได้ตามปกติ ด้านโฆษกหัวหน้าพรรค ปชป. ชี้เป็นเพียงการพูดตามมารยาททางการทูตเท่านั้น เตรียมตรวจสอบ "ทักษิณ" อยู่ในแบล๊คลิสต์หรือไม่ ทูตสหรัฐพบ"ชวน"คุยการเมือง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเอริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ว่าที่ผู้แทนการค้า และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์

หลังการหารือ นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า การที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าพบนายชวนครั้งนี้

เพื่อต้องการเข้ามาคารวะและพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง โดยแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องการให้ความสำคัญในกระบวนการประชาธิปไตยในไทย โดยนายชวนระบุว่า ภารกิจของรัฐบาลนี้ที่สำคัญคือ การแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นการยึดมั่นในหลักนิติธรรม ในการที่จะประคองประชาธิปไตยให้เดินหน้า เพื่อที่ความเชื่อมั่นจะได้คืนกลับประเทศไทย

นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า เรื่องวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย

แต่เอกอัครราชทูตสหรัฐทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมาก จึงได้บอกว่าถ้ามีใครถาม เอกอัคราชทูตสหรัฐจะตอบว่าจุดยืนของสหรัฐไม่มีการสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนให้ใครคนใดคนหนึ่ง รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณให้เดินทางหรือไม่เดินทางไปในประเทศสหรัฐ โดยเอกอัคราชทูตสหรัฐ ใช้คำว่า "encourage" หรือ "disencourage" ซึ่งเราก็ยอมรับในจุดยืนของสหรัฐ



ด้านนายเอริคกล่าวว่า การมาพบนายชวนครั้งนี้เพราะเป็นที่เคารพของคนทั่วไป การพูดคุยไม่ได้หารือเรื่องการปิดสนามบิน

แต่ปีที่แล้วประเทศไทยได้แสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าได้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว และเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแข็งแกร่ง เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่สหรัฐถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ นายเอริคกล่าวว่า ตามกฎหมายของสหรัฐ พ.ต.ท.ทักษิณยังสามารถใช้วีซ่าเข้าประเทศอเมริกาได้ และสหรัฐยังไม่มีแผนที่จะถอน หรือยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าทางสหรัฐสั่งห้ามนางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าประเทศเนื่องจากทำธุรกิจผิดจริยธรรมนั้น นายเอริคกล่าวว่า นางพรทิวามีวีซ่าถูกต้อง

และสามารถเดินทางเข้าสหรัฐเมื่อใดก็ได้ ตามปกติสถานทูตสหรัฐจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวีซ่าของบุคคลทั่วไป แต่เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับอดีตนายกฯและนางพรทิวา ตนจึงต้องออกมาพูดเพราะข่าวการถอนวีซ่าของทั้งสองคนล้วนเป็นข่าวลือ