บทบาทในฐานะฝ่ายค้านของพรรคเพื่อไทย นับวันยิ่งแสดงให้เห็นว่า คนที่เคยชินกับการเป็นรัฐบาลมาหลายปี
ก็มีฝีไม้ลายมือในการเป็นฝ่ายค้าน
ใช่จะค้านไม่เป็น เหมือนที่บางคนอาจนึกปรามาส
นอกจากทำหน้าที่ฝ่ายค้าน สมกับที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน ให้มาถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาลแล้ว
การคิดปักหลักกับพรรคของตน โดยไม่ไหลไปตามกระแสดึงดูดของอำนาจรัฐและอำนาจเงินง่ายๆ
ก็เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง สำหรับคนเป็นนักการเมือง
ไม่ว่า"วิฑูรย์ นามบุตร" หรือ"บุญจง นามบัตร" โดนฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทย ไล่บี้เกาะติด
จ้องสาวลึกเข้าไปถึงแกนนำของรัฐบาล อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จนถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ประสานกับเกมนอกสภาของคนเสื้อแดง ที่ยังคงระดมกระแสคนเกลียดรัฐบาลได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
ขณะที่โครงสร้างของพรรคเพื่อไทย ที่มีการส่งคนนามสกุล"ชินวัตร"มาเป็นหัวหอกครบ 4 ภาค
เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำตามที่ตัวเองประกาศไว้
สู้กันถึงนรกหรือสวรรค์
ไม่แคร์ว่าใครจะมองพรรคเพื่อไทย ดูห่างไกลจากสถาบันการเมือง
มีสถานะเป็นแค่พรรคครอบครัว
วิธีการต่อสู้ในสภาโดยพรรคเพื่อไทย และนอกสภาโดยคนเสื้อแดง กับดี สเตชั่น
ถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณและพี่น้องตระกูลชินวัตร มีสิทธิโดยถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ ที่จะเล่นเกมเขย่าเมืองแบบนี้?
หากมองกันอย่างเป็นกลางแล้ว เกมแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ไม่ได้ก่อการร้ายฆ่าประชาชน หรือจ้องจะแบ่งแยกแผ่นดิน แบบพวกโจรใต้เสียเมื่อไร
พรรคประชาธิปัตย์เองจะปฏิเสธเกมที่พ.ต.ท.ทักษิณเล่น ก็คงไม่ถนัดปาก
เพราะการเชื่อมโยงพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นพันธมิตรกับม็อบพันธมิตรฯ
ไม่ใช่เรื่องการกล่าวหาเกินความจริง
ประชาธิปัตย์เคยทำหน้าที่ในสภา ประสานกับบทบาทของม็อบพันธมิตรนอกสภา
มีตัวละครที่สอดประสานเป็นพวกเดียวกัน
หนทางชนะของรัฐบาล มีเดิมพันเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
หากพาประเทศรอดพ้นหายนะ และประชาชนลืมตาอ้าปากได้ จากการอัดฉีดเงินประชานิยม
เชื่อว่ากระแสคนเสื้อแดงก็จะลดความร้อนแรงลงไป
นอกจากนี้ เห็นจะเป็นการสกัดกั้นการทุจริตคอร์รัปชั่น
เพราะกรณี"ปลากระป๋องเน่า"เรื่องเดียว ความศรัทธาเชื่อถือในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ลดฮวบหลายขีด
หากมีซ้ำๆ อีก 3-4 เรื่อง ก็จะไปเข้าทางปืนฝ่ายค้าน ที่จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
แล้วก็จะโดนกระแสสังคมคนชั้นกลาง นักวิชาการ สื่อมวลชน ที่ปกติก็ไม่ได้เป็นแนวร่วมอะไรกับเพื่อไทยและเสื้อแดง
ตามถล่มซ้ำจนอยู่ยาก
อีกเรื่องที่ต้องระวัง เห็นจะเป็นท่าทีกร่างๆ ของแกนนำบางคนในรัฐบาล
โรคบ้าอำนาจนี่ เป็นกันทุกยุคสมัย!