พท.ชี้ย้ายตร.ส่อโมฆะเทพเทือกไม่มีอำนาจแต่งตั้ง-ซัด ปชป.ดันคนสนิท-พธม.-กองทัพครองเมือง


โฆษกเพื่อไทยชี้"สุเทพ"ร่วมประชุม ก.ตร.เข้าข่ายผิดกม.ยันไม่มีอำนาจโยกย้ายส่อโมฆะ ซัดแต่งตั้ง"ผบช.ก."ชี้ชัดดึงคนใกล้ชิด-พธม.-กองทัพครองเมือง โฆษกปชป.ปัด"เทพเทือก"ดันสามี"แม่เลี้ยงติ๊ก" ไม่เล่นพรรคเล่นพวก อ้างย้ายเป็นธรรมไม่เหมือน พปช.-ทรท.ที่หวังผลแทรกแซงการเมือง

 นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพล เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการย้ายล้างขั้วอำนาจเก่า และเจ้าหน้าตำรวจที่ใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ดีว่าทางพรรคทราบว่า การพิจารณาอยู่บนพื้นฐานความเหมาะสม ความสามารถ และระบบคุณธรรมโดยเคร่งครัด ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรือสร้างความขัดแย้งให้สถาบันตำรวจเกิดการแตกแยกกัน เนื่องจากมีคดีความสำคัญๆ หลายเรื่องต้องได้รับการสะสางให้ได้ข้อยุติ ไม่ว่าจะเป็นคดีการฆ่าบิดาของผู้จัดรายการวิทยุชุมชนของกลุ่มพันธมิตรที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่า ใครเป็นผู้กระทำ กรณีการทำร้ายกลุ่มพันธมิตรที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีการบันทึกเทปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน กรณีการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ที่ถือเป็นกรณีใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากประชาคมโลก และดูเหมือนว่าขณะนี้มีการเตรียมใช้ความรุนแรงในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้ง พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู จเรตำรวจ (สบ.8) สามีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ แม่เลี้ยงติ๊ก เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า พล.ต.ท.ไถงได้รับราชการตำรวจมาก่อนที่ภรรยาจะเริ่มทำงานการเมือง และการก้าวขึ้นมาในพรรคในขณะที่พรรคดำรงตำแหน่งเป็นฝ่ายค้านด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นระบบคุณธรรมที่ทำด้วยความรู้ความสามารถของ พล.ต.ท.ไถง เอง

เมื่อถามว่า สังคมจะมองว่าพรรคประชาธิปัตย์โยกย้ายข้าราชการสำคัญเช่นเดียวกับสมัยพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ถ้าเปรียบเทียบกัน ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ลองพิจาณาดูว่าก่อนหน้านี้ที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงก็มีแค่นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยเพียงคนเดียว ที่ย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

"รัฐบาลในอดีต ทั้งพรรคพลังประชาชนและไทยรักไทย การโยกย้ายและแทรกแซงการทำงานข้าราชการ ก็เพื่อหวังผลทางการเมือง เห็นได้ชัดว่าระบบราชการถูกแทรกแซง ซึ่งเทียบกับหลักการดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้" นพ.บุรณัชย์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานทีมโฆษกพรรค ว่าได้มีตัวแทนภาคต่างๆ เข้าร่วมหารือกันหลายเรื่อง ทั้งกรณีที่ ก.ตร.พิจารณาโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยเห็นนายสุเทพ ที่เป็นประธาน ก.ตร.อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่มีอำนาจเข้าไปโยกย้าย ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังศึกษาระเบียบการตั้งตั้งโยกย้ายว่ามีอำนาจแค่ไหน ถ้าไม่มีอำนาจ นายสุเทพอาจจะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและการแต่งตั้งอาจเป็นโมฆะ

"ที่ประชุมยังเห็นว่า กรณีที่จะโยกย้ายนายตำรวจครั้งนี้ โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ไถง ย้ายเป็น ผบช.ก. และ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร.) ไปเป็นปฏิบัติราชการแทน ผบช.ภ. 5 ชี้ให้เห็นว่าเป็นยุค ปี 2552 คนใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตร และกองทัพครองเมือง ตั้งคนของตัวเองเข้าไปทำลายล้างเครือข่ายระบอบทักษิณ สกัดคนเสื้อแดงในภาคเหนือและทั่วประเทศ" โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พล.ต.ท.สมคิด เป็นคนรับผิดชอบคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จนทำให้พรรคถูกยุบ และยังกลับตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ไปรับผิดชอบในพื้นที่ภาคเหนือ ไปจัดการคนเสื้อแดง ยุทธศาสตร์ทำลายล้างระบอบทักษิณแบบนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างนายสุเทพ ที่เป็นคนสั่งการกับนาย "น" ที่เป็นคนชี้เป้า การตั้งข้าราชการที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายตรงข้ามไปอยู่ในพื้นที่แบบนี้ จะทำให้เกิดสังคมปรองดองตามนโยบายของรัฐบาลไม่ได้

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์