เพื่อไทยเปิดโผ 4 แคนดิเดตชิงผู้นำฝ่ายค้าน ประชุมเลือก 10 ก.พ.พร้อมขอมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โวมีข้อมูลเพียบกำลังจัดระบบ เตรียมแฉฟอกเงินช่วงจัดตั้งรัฐบาล "ชัยสิทธิ์" เตือน "แม้ว" ไร้หัวและผู้มีบารมีคอยประคองระวังพัง กกต.นครราชสีมาแจ้งความดำเนินคดีอาญา "บุญจง"
เพื่อไทยถก10ก.พ.เลือกผู้นำฝ่ายค้าน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ว่าพรรคเพื่อไทยจะประชุมวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อพิจารณาถึงบุคคลที่เหมาะสมขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน โดยขณะนี้มีหลายคนที่จะเป็นได้ อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นอกจากที่ประชุมจะมีการพิจารณาขอมติในที่ประชุมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าจะเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอที่จะอภิปรายได้ ส่วนจะอภิปรายใครบ้างต้องหารือกันในที่ประชุมก่อน
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว 4 พี่น้องตระกูลชินวัตร จะมาดูแล 4 ภาคว่า เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวที่ปล่อยออกไป แต่ไม่แน่ใจว่าปล่อยจากคู่แข่งหรือปล่อยจากคนในพรรค แต่ที่ผ่านมาไม่มีเรื่องดังกล่าว มีเพียงการพบปะสังสรรค์กันซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ส.ส.ภาคอีสานเป็นคนขอให้มาช่วยดูแล ซึ่งนายพายัพก็ยินดีที่จะช่วยดูแลในส่วนนี้ แต่กระแสข่าวที่บอกว่านางเยาวภา ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ จะดูแล ส.ส.ภาคเหนือ ก็ไม่ใช่ เพราะในส่วนของภาคเหนือ นายวัลลภ สุปริยศิลป์ ส.ส.น่าน ประธานคณะกรรมการประสานงานภาคเหนือ เป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งนายวัลลภได้รับเลือกมาจากคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนนางเยาวภา เป็นเพียงการเข้ามาพูดคุยพบปะกันเท่านั้น
"ชัยสิทธิ์"เตือน"อดีตนายกฯ" ระวังพัง
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 กรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้คนตระกูลชินวัตรมาต่อสู้ในเกมการเมือง โดยให้คุม ส.ส.ในแต่ละภูมิภาคว่า ยังไม่ได้มีการพูดอะไรกับคนตระกูลชินวัตร ที่ผ่านมาตนเปิดตัวไปแล้ว แต่ยังไม่มีสัญญาณอะไรส่งมาถึงตน จึงได้แต่อยู่เฉยๆ ทำงานต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่เกี่ยวกับการเมือง เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงจะเอาญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดมากกว่า
"หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะต่อสู้ทางการเมืองจะต้องมีหัว และต้องเป็นผู้ที่มีบารมีพอสมควรมาช่วย เพราะคนดีๆ ถูกเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 111 หมดแล้ว ทำให้ขณะนี้ไม่มีใครแล้ว จึงเป็นเรื่องที่เหนื่อย เพราะไม่มีหัวและผู้ที่มีบารมีพอประคองได้ ผมได้โทร.ไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถ้าขืนปล่อยไปอย่างนี้ก็พัง แต่ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงโดนหนักจนไม่มีความคิดอะไรมากมาย แต่คิดว่ากำลังใจคงดีขึ้น เพราะมีคนสนับสนุนเขาค่อนข้างมาก สังเกตจากจำนวนของคนเสื้อแดงที่ให้กำลังใจว่าความถูกต้องอยู่ตรงจุดไหนให้ไปถึงจุดนั้นให้ได้ เพราะการที่เขาโดนใส่ร้ายอย่างนี้ กระเทือนถึงคนทั้งตระกูล" พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว
"ประชา"ปฏิเสธ"เยาวภา"แจกเดือนละ5หมื่น
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านางเยาวภา รับปากดูแล ส.ส.โดยจะจ่ายให้เดือนละ 50,000 บาท ว่าขอปฏิเสธว่าการประชุม ส.ส.ภาคกลางเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่มีแจกเงิน ถ้ามีจริงตนก็ต้องได้รับ
"พรรคเพื่อไทยกำลังเตรียมข้อมูลเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีข้อมูลจำนวนมากที่กำลังจัดทำให้เป็นระบบ นอกจากเรื่องปัญหาที่ดิน การแจกถุงยังชีพปลากระป๋องเน่า ยังมีเรื่องการฟอกเงินในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล และมีคนของพรรคการเมืองหนึ่งถูกจับที่บ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายประชากล่าว
ส.ส.ภาคกลางเล็งซบภูมิใจไทย
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจ่ายรายเดือนให้กับ ส.ส.คนละ 50,000 บาท เป็นเรื่องปกติที่ ส.ส.ทุกคนได้รับการดูแลจากพรรคอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้มาโดยตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าคนที่ออกมาเปิดเผยต้องการอะไร ทั้งที่รู้อยู่นานแล้ว หรือเห็นว่าพรรคอื่นได้มากกว่าจึงต้องการที่จะเรียกร้องให้ได้เงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เงิน 50,000 บาทนี้ ไม่ใช้เงินที่จะซื้อใจไม่ให้ ส.ส.ภาคกลางมีใจเอนเอียงไปยังพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นเงินที่ได้รับเป็นประจำ ทุกคนก็รับรู้กันเป็นการภายใน แต่การที่นางเยาวภาเข้ามาดูแลนั้น ซื้อใจและให้ความอบอุ่นได้มากกว่า
"มี ส.ส.ภาคกลางที่ต้องการจะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย แต่จะยังไม่มีการเคลื่อนไหว เหมือนกับพรรคเพื่อแผ่นดินในช่วงนี้ เพราะพรรคเพื่อแผ่นดินนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นรัฐบาล และอีกครึ่งหนึ่งเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว จึงต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ถ้าจะให้ไปเข้าข้างรัฐบาลก็คงจะน่าเกลียด ส่วนในอนาคต ส.ส.ภาคกลางพรรคเพื่อไทย จะได้ร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว
ประชาธิปัตย์.ปูดพ.ต.ท.ไวพจน์รุกป่า
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิมเป็น 1 ในบุคคลที่พรรคเพื่อไทยวางตัวเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ขอถามก่อนว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ร.ต.อ.เฉลิม) ในข้อหา พ.ต.ท.ไวพจน์ และภรรยา บุกรุกที่ป่าสงวนของอุทยานแห่งชาติป่าแม่ระกา จ.กำแพงเพชร โดยพบว่าบุกรุกที่เกินกว่าการแสดงสิทธิที่ได้จับจอง ซึ่งอยู่ในช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่ช่วงนั้นมีการเข้มงวดเรื่องการบุกรุกที่ป่าสงวนฯ จึงขอถามไปถึง ร.ต.อ.เฉลิมว่า ให้คนของตัวเองดำเนินการผิดกฎหมาย ในระหว่างที่มีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พรรคจะมอบหมายให้ตัวแทนของพรรคไปสืบค้นข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะหวังสกัดกั้น ร.ต.อ.เฉลิมที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่พรรคมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบ การเปิดเผยเรื่องนี้ถือเป็นข้อเท็จจริง ที่ต้องทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะอาจเชื่อมโยงไปถึงคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น จึงต้องสืบค้นต่อไปว่า ร.ต.อ.เฉลิมมีส่วนรับทราบหรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้หวังที่จะดิสเครดิต ร.ต.อ.เฉลิม อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต
ส.ส.อุบลราชธานีอ้างรีบทิ้งบัตรไว้ในสภา
นายตุ่น จินตะเวช ส.ส.อุบลราชธานี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงปัญหาการเสียบบัตรแทนกันระหว่างการประชุมสภาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ยอมรับว่าในช่วงเย็นของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภา เพราะต้องรีบกลับไปเปิดงานที่ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากรับปากชาวบ้านไว้นานกว่า 1 เดือน จึงออกจากรัฐสภาตั้งแต่เวลา 16.00 น. และรีบนั่งมอเตอร์ไซค์ตรงดิ่งไปสนามบินดอนเมือง เพราะเครื่องบินออกเวลา 17.00 น. ด้วยความรีบเร่งจึงลืมบัตรไว้และทราบว่าบัตรเสียบอยู่ ซึ่งขอปฏิเสธว่าไม่ได้ฝากใครให้กดบัตรแทน แต่ตามปกติเมื่อบัตรเสียบอยู่แล้วข้อมูลจะปรากฏก็ต่อเมื่อมีผู้กดปุ่มแสดงตน
"ปกติผมจะนำบัตรติดตัวตลอด แต่วันนั้นรีบมากจึงทำให้ลืมบัตรไว้บริเวณที่เสียบบัตร ซึ่งการที่ผมออกจากห้องประชุมในช่วงเวลานั้นก็เห็นว่าไม่น่าจะมีอะไร อีกทั้งเราต้องบริหารงานสภาและงานพื้นที่ให้ได้ ถ้าไม่ไปพบชาวบ้านก็จะถูกต่อว่า แต่วันรุ่งขึ้นผมก็กลับมาทำหน้าที่ในสภาตามปกติ ไม่ได้ทิ้งงานสภา ถ้ามีการสอบสวนผมก็จะตอบไปตามความเป็นจริงและคงต้องรับฟังการกล่าวตักเตือน ส่วนการจะสืบหาผู้ที่กดบัตรแทนนั้นคงเป็นเรื่องยาก เพราะที่นั่งของผมอยู่ท้ายสุดของห้องประชุมและเป็นที่นั่งที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่าน" นายตุ่น กล่าว และว่า ต่อไปคงต้องระวังมากกว่านี้
เพื่อไทยเปิดข้อมูลเสียบบัตรแทน9ก.พ.
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การตรวจสอบองค์ประชุมถือสิ่งที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ใช่เป็นการเพื่อป่วนหรือเล่นเกมการเมือง การนับองค์ประชุมมีเหตุผลมีผลต่อการประชุมทุกนัด เพราะก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่ากฎหมายหลายฉบับเป็นโมฆะ เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ประชุมไม่ครบองค์ประชุม ดังนั้น การนับองค์ประชุมไม่ใช่การเล่นเกมการเมือง ส่วนปัญหาจากคนที่กดบัตรแทนกันนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล
"ผมจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเปิดเผยในวันที่ 9 กุมพาพันธ์นี้ โดยเรื่องนี้ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย ถ้าเรายังไม่ได้หลักฐานครบทุกด้านจะไม่กล่าวพาดพิงใคร ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกกล่าวหาว่าฝ่ายค้านไม่มีคุณภาพ แต่ตอนนี้ทราบว่าคนที่กดบัตรแทนกันเขารู้ตัวแล้วและกำลังกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งหลังจากเปิดเผยข้อมูลแล้ว จะยื่นเรื่องให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตั้งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป"นายประชากล่าว
กกต.นครราชสีมาแจ้งอาญา"บุญจง"
พล.อ.วีรวุธ ส่งสาย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กกต.จังหวัดได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จักราช จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามคำสั่งของ กกต.กลาง ในข้อหาฝ่าฝืน (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 53 (5) หลอกลวง ใส่ร้ายด้วยความเท็จจริงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองเพื่อจูงใจ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550
"คดีนี้มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท พร้อมกับถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี" พล.อ.วีรวุธกล่าว
พ.ต.ท.โสภณ รัตนสมัย รอง ผกก.สส.สภ.จักราช กล่าวว่า พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน รับผิดชอบดูแลคดีนี้ แต่ขณะนี้รัฐบาลยังอยู่ในสมัยเปิดประชุมสภา จึงไม่สามารถเรียกตัวนายบุญจงมารับทราบข้อกล่าวหาได้
พท.เผย4แกนนำชิงผู้นำฝ่ายค้าน ขู่แฉฟอกเงินช่วงตั้ง รบ. ชัยสิทธิ์ เตือน แม้ว พท.ไม่มีหัวระวังพัง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พท.เผย4แกนนำชิงผู้นำฝ่ายค้าน ขู่แฉฟอกเงินช่วงตั้ง รบ. ชัยสิทธิ์ เตือน แม้ว พท.ไม่มีหัวระวังพัง