วันนี้ (5 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล
กรณีที่ นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ฟ้องศาลปกครอง ว่า ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลปกครอง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง แต่มุ่งเน้นในเรื่องของการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและราบรื่น
ต่อกรณีที่นายพีรพลอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงยังไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันเลย
และยังไม่ได้มีการใช้ช่องทางของฝ่ายบริหาร แต่กลับไปใช้ช่องทางของศาลปกครองซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หากศาลปกครองจะพิจารณาและวินิจฉัยออกมาอย่างไร เราก็ต้องเข้าไปรับทราบในกระบวนการ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้เตรียมการชี้แจงไว้แล้ว โดยจะได้มีการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้
“ผมได้เตรียมข้อมูลไปชี้แจงแล้ว รวมทั้งได้พูดคุยกับทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายชวรัตน์ ชาญวีรากูล รมว.มหาดไทยแล้ว ซึ่งผมไม่หนักใจ เพราะเจตนาเราไม่ได้มีอะไร เจตนามีเพียงอย่างเดียวคือต้องการให้การทำงานราบรื่น และคิดว่ารัฐบาลคงไม่ตกม้าตายกับสิ่งทีเกิดขึ้นเพราะเราทำงานด้วยเจตนาที่ต้องการให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ผลโพลให้คะแนนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์คาบเส้น โดยระบุเพียงสั้น ๆ ว่า เกือบตกดีกว่าเกือบได้
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) นายพีรพล ได้ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้คำสั่งเพิกถอนมติ ครม. ที่เห็นชอบให้พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวง มหาดไทย และไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกฯ โดยนายพีรพลกล่าวภายหลังยื่นคำร้องว่า มายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับข้าราชการ หากศาลมีคำวินิจฉัยว่าการสั่งย้ายครั้งนี้มิชอบ ต่อไปก็จะทำให้ นักการเมืองไม่กล้าทำอะไรตามใจในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทำให้ฝ่ายการเมืองต้องคิดก่อนว่าหากจะทำอะไรต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังทำให้ข้าราชการไม่รู้สึกว่าถ้าตัวเองไม่ทำตามที่เขาสั่งก็ต้องถูกย้ายไป หากอย่างนั้นมันง่ายเกินไป สำหรับข้าราชการที่เป็นข้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว