วิฑูรย์ นามบุตร ไม่มีอะไรเจ็บกว่านี้แล้ว

เป็นรัฐมนตรีหนแรก แต่พิษปลากระป๋อง เน่าทำให้ นายวิฑูรย์ นามบุตร ต้องตกจากเก้าอี้ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ หลังเข้ามาทำหน้าที่ได้เพียง 1 เดือน 14 วัน

หลังพ้นตำแหน่ง นายวิฑูรย์ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการแสดงสปิริตในครั้งนี้

ลาออกทั้งที่เคยบอกว่าจะรอผลสอบของคณะกรรมการก่อน

ลึกๆแล้วยังไม่อยากลาออกตอนนี้ อยากรอผลตรวจสอบของคณะกรรมการก่อน ถ้ามีการจัดซื้อจริงจะลาออก

ผมเป็นประธานอนุกรรมการดูแลเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่นายกฯแต่งตั้ง ยังประชุมต่อเนื่องอยู่ สัปดาห์หน้าก็จะจบ แต่ไม่เป็นไร ยังเป็นส.ส.ทำงานในสภาได้เหมือนเดิม

ที่บอกว่าปลากระป๋องเน่า ความจริงไม่ใช่ เพียงแต่มีกลิ่น ของในถุงยังชีพก็ไม่ได้เสียทุกอย่าง ของดีชาวบ้านก็เอาไปใช้ ของไม่ดีเราเก็บไปตรวจสอบ แต่เก็บได้ไม่หมดเพราะกระจายไปในพื้นที่แล้ว

ถ้าผมรู้จะไม่แจก ผมไม่ใจดำ ไม่ใจร้าย เอาของไม่ดีไปให้ชาวบ้านที่ประสบปัญหา

ด้วยความจริงใจ ผมเสียใจและขอโทษชาวพัทลุง ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่กระแสสังคมมันไปแรงแล้ว ชี้แจง 10 กว่าวัน คนก็ไม่รับ เหมือนผมเอาเปรียบประชาชน ทำให้ประชาชนเจ็บ

ประเด็นสำคัญของการลาออกอยู่ตรงไหน

ตอนกลับบ้านที่อุบลฯได้ประชุมอบต. ปรึกษาทีมงาน ญาติพี่น้อง ทางสองแพร่งจึงเกิดขึ้น ถ้าลาออกคนชั้นกลางในกทม.ชอบแน่ เพราะถือว่าเป็นนักการเมืองมีอุดมการณ์ แสดงสปิริตทางการเมือง แสดงความรับผิดชอบ

แต่คนชนบทจะคิดหรือเปล่า ว่าถ้าลาออกเหมือนกับยอมรับผิด แต่เวลาไปคุยกับทีมงานและญาติพี่น้อง เห็นว่าเรื่องนี้กระแสแรงมาก ก็ให้ลาออก เราไม่มีอะไรเจ็บกว่านี้แล้ว

ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ก็เข้าใจ ส่วนหนึ่งบอกว่าอย่าลาออกเลย ให้กลับไปสู้เต็มที่ ถ้าผิดก็ออก ในเมื่อยังไม่ผิดก็อย่าออก เพราะยังไม่มีการทุจริต ไม่มีเรื่องผลประโยชน์

แต่ในเมื่อกระทบความรู้สึกของประชาชน ของไปถึงมือประชาชนแล้ว แม้เราจะสั่งการแก้ไขก็แก้ไม่หมด น่าจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

อย่างน้อยจะเป็นมาตรฐานทางการเมือง ต่อไปนักการเมืองทำอะไรต้องระวัง ดูแลทีมงานและหน่วยงานให้ดี

ยืนยันว่าเรื่องถุงยังชีพ ผมไม่เคยอนุมัติ ไม่เคยเซ็นหนังสือให้ซื้อ

มีการสั่งซื้อปากเปล่าหรือไม่

ไม่มี ไปตรวจสอบกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ ข้อมูลออนไลน์ถึงกัน ถ้ามีการจัดซื้อต้องมีหลักฐานปรากฏที่สำนักงบประมาณ มีสัญญาปรากฏที่สตง.

ผมถึงมั่นใจว่าไม่มีเรื่องการจัดซื้อหรือการทำผิด

ชี้แจงแล้วประชาชนไม่เข้าใจ รู้สึกอย่างไร

เจ็บปวดเหมือนกัน เป็นส.ส.ประชาธิปัตย์ 6-7 สมัยต่อเนื่องกัน ไม่ย้ายพรรคเลย อยู่อีสานหาเสียงยาก เลือกตั้งแต่ละครั้งกว่าจะได้เลือดตาแทบกระเด็น

รักพรรคประชาธิปัตย์ พรรคอื่นมาทาบทาม อยากไปแต่ไปไม่ได้เพราะผูกพันกับพรรค ผมจึงบอกว่าจะไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย เสียชื่อ มาตรฐานพรรคต้องมี เราจึงต้องยอมเจ็บ

ครั้งแรกเป็นรัฐมนตรีมา 10 กว่าวันเจ็บปวด ได้ฉายารัฐมนตรีปลากระป๋องเน่า ถ้าผมรู้แล้วได้ฉายานี้ จะไม่ว่าอะไรเลย ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ

แต่นี่ไม่รู้ว่ามีปลากระป๋องเน่าในถุงยังชีพ แต่อย่าพูดว่าเน่าเลยเพราะไม่ได้เสียทุกอย่าง ที่พูดว่าข้าวก็มอดขึ้น อันนั้นก็เสียอันนี้ก็เสีย มันไม่ถึงขนาดนั้น พวกมาม่า ไวไว หรือของกินหลายอย่างก็ใช้ได้ แต่มีปัญหาตรงปลากระป๋องเป็นหลัก

ก็ไม่มีความสุขหรอก ตัวเองไม่รู้ ไม่ได้ทำ ถ้าผลตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดต่างๆออกมา ขอความเป็นธรรมจากพรรคและพี่น้องประชาชนด้วย

ถึงวันนี้ยังยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ทุจริต และไม่ได้คิดร้ายกับประชา ชน ถ้าผมไม่ดี ไม่มีคุณธรรม คนอุบลฯไม่เลือกผมมา 20 กว่าปี

อย่างน้อยผมน่าจะมีคุณงามความดีอะไรบ้าง

การตัดสินใจใช้เวลานานหรือไม่

ผมไม่ลังเลใจ ต้องการให้นายกฯสบายใจ เพราะนายกฯเก่ง ภาพดี การทำงานของนายกฯตอนนี้มันไประดับอินเตอร์แล้ว สร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ

งานในประเทศแก้ปัญหาให้ประชาชนก็เดินหน้าทุกเรื่องด้วยดี งานตามนโยบายก็ไปกันได้ เราในฐานะลูกพรรคต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนายกฯ อย่าไปห่วงหน้าพะวงหลัง

ผมเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ อยู่พรรคมาตั้งนานไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ตอนนี้ได้เป็นแล้ว จะหยุดเป็นไม่เห็นเป็นไร ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ที่ผมรัก อย่าถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสมาชิกคนหนึ่งไม่รับผิดชอบ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้

ไม่จริง รวมถึงข่าวส.ส.ในพรรคมาแสดงออกหรือบอกให้ผมย้ายพรรคด้วย ส่วนใหญ่มีแต่ให้กำลังใจ ที่ไม่เข้าใจก็มาถาม พออธิบายก็ไม่มีคนคัดค้านหรือกดดัน

การลาออกครั้งนี้ตัดสินใจด้วยความสบายใจ โดยเฉพาะนายกฯไม่เคยกดดันเลย ข่าวถูกนายกฯเรียกเข้าห้องเย็นก็ไม่จริง ความจริงแล้วแค่เรียกคุยกันธรรมดา

นายกฯถามว่าได้จัดซื้อ ใช้งบประมาณหรือไม่ ก็เรียนท่านว่าไม่ได้ใช้ นายกฯบอกว่าเมื่อไม่ได้ใช้งบประมาณของที่แจกไปก็ต้องดูแล อย่าให้พี่น้องประชาชนเสียความรู้สึกมากไปกว่านี้

จากนั้นอีกสัปดาห์ก็มีกระทู้สดในสภา นายกฯไปเมืองดาวอส ประเทศสวิส กลับมาวันอาทิตย์ตอนบ่าย ท่านโทร.หาผมว่าวันจันทร์คุยกันที่ทำเนียบ ผมก็บอกว่าวันจันทร์อยู่ในพื้นที่ ท่านบอกว่ามาพบตอนเช้าวันอังคารก่อนประชุมครม.

ผมไปหานายกฯที่ตึกไทยคู่ฟ้า พบนายกฯ 5 นาที ถามผม 2 เรื่องคือ 1.การจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุที่ผมเป็นประธาน ว่าคืบหน้าไป ถึงไหน 2.เรื่องถุงยังชีพว่ามีเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ ขอดูหน่อย จากนั้นผมก็กลับกระทรวง

บอกกับนายกฯตอนนั้นว่าลาออกใช่หรือไม่

บอกท่านว่าให้สบายใจ ผมไม่เป็นปัญหาต่อพรรคหรือรัฐบาล นายกฯก็โอเค ไม่ได้ทักท้วง บอกว่าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้จะตัดสินใจอย่างไรก็ได้

ผมไม่อยากให้นายกฯต้องเสียเครดิต พี่น้องต้องเสียความรู้สึกอีก เรื่องนี้จึงยื้อไม่ได้

นายกฯบอกหรือไม่ว่าหากผลสอบออกมาแล้วไม่ผิดจะให้เป็นรัฐมนตรีใหม่

รอผลการสอบก่อนแล้วกัน นายกฯให้ดูผลสอบก่อน

เสียหน้าหรือไม่ที่เป็นรัฐมนตรีเพียงเดือนเดียวต้องลาออก

พูดตรงๆว่าไม่ ที่ผ่านมากับวันนี้อารมณ์ความรู้สึกต่างกันเยอะ ผมเป็นนักการเมือง ไม่อยากให้ถูกวิจารณ์ในทางลบ หลังลาออกมีคนแสดงความยินดีเยอะ ทั้งข้อความและโทรศัพท์ให้กำลังใจ

แสดงว่าการลาออกครั้งนี้ได้แต้ม

น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคและนายกฯ ที่จะทำงานได้ราบรื่นและเดินหน้าได้ ไม่ต้องมาคอยชี้แจง ตอบอะไรที่เป็นปัญหา

การทำอย่างนี้สร้างบรรทัดฐานให้การเมืองไทย อย่างน้อยคนในพรรคก็มาแสดงความยินดี แต่บางคนก็แสดงความเสียใจที่ได้เป็นรัฐมนตรีสั้น

เราก็บอกว่ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ อายุ 49 ปี เล่นการเมืองได้อีกนาน ถ้าผลสอบออกมาพรรคคงให้ความเป็นธรรม ประชาชนคงเข้าใจมากขึ้น ฐานเสียงในอีสานดีขึ้นในการแสดงสปิริตครั้งนี้

ถือเป็นบทเรียนสำคัญหรือไม่ หากได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีจะต้องระวังมากขึ้น

แน่นอน ต้องระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้

ได้เตือนนายอิสสระ สมชัย ว่าที่รมว.พัฒนาสังคมฯ ให้ระวังหรือไม่

ไปตักเตือนเขาได้อย่างไร พี่อิสสระอาวุโสรอบรู้ เอาเป็นว่าส.ส.อิสสระเป็นคนดี ตอนนี้ท่านเป็นประธานคณะกรรมาธิการการติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนฯ รู้ทุกกระทรวงอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแนะนำอะไร

ถ้าผลสอบออกมาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีถุงยังชีพจะรับผิดชอบถึงขั้นไหน

ผมประกาศชัดเจนว่าถ้ามีการใช้งบประมาณแผ่นดินผมลาออก ถ้ามีการจัดซื้อจัดจ้างผมลาออกจากรัฐมนตรี ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว แต่ถ้าผมทุจริตผมลาออกจากการเป็นส.ส.และเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ขอให้กรรมการชุดใดชุดหนึ่งสรุปผลออกมา

ฝ่ายค้านยืนยันจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้

เป็นสิทธิ์ของทุกฝ่ายที่จะทำงานในสภา เราก็ทำหน้าที่ของเราไป เป็นนักการเมืองต้องถูกตรวจสอบได้ทั้งงานในพื้นที่และในสภา

เสียใจหรือไม่ที่ได้เป็นรัฐมนตรีแค่เดือนเศษ

ถ้าได้เป็นแล้วเป็นอย่างนี้ ไม่น่าเป็น แต่ตอนนี้ก็สบายใจขึ้น ลาออกแล้วดีขึ้น มีคนมาเชียร์เยอะ