เรียบโร้ยส์...โรงเรียนปลากระป๋อง(เน่า) เป็นรายแรกสำหรับเสนาบดีรัฐนาวาเทพประทาน"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
เมื่อนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ ตัดสินใจไขก๊อกลาออกจากตำแหน่ง หลังตายน้ำตื้นด้วยกรณีของแจกให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จ.พัทลุง
ทางหนึ่งต้องชื่นชมที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังต้องมลทินในเรื่องนี้
แม้ฝ่ายค้านจะเหน็บเล็กๆ ว่าเป็นเพราะจำนนต่อหลักฐานก็ตาม!?
ส่วนการลาออกครั้งนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
รวมไปถึงการสืบสาวไปยังต้นตอของถุงยังชีพ ที่ส่งกลิ่นโชยไปทั่ว จะตัดตอนจบแค่นายวิฑูรย์ ลาออกหรือไม่!?
เนื่องจากงานนี้มีหลากหลายตัวละครเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งข้าราชการ นักการเมือง และเอกชน ที่ถูกพาดพิงว่าหากินกับความเดือดร้อนของประชาชน
ที่น่าจะเจ็บใจยิ่งกว่าก็คือ เหยื่อคราวนี้ยังเป็นประชาชนจากภาคใต้ ฐานคะแนนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์แกนนำรัฐบาลอีกด้วย
ว่ากันว่ากรณีนายวิฑูรย์ พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม เพราะอาจลุกลามไปถึงรัฐบาลทั้งหมด
และอาจจะเป็นตัวอย่างให้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่โดนข้อหาแจกเงินหลวงพร้อมนามบัตร ตัดสินใจทำตาม
แต่นายบุญจง และพวกพ้องก็ประกาศชัดเจนว่าเสียใจ ไม่มีการลาออกเด็ดขาด จนกว่าจะมีการตัดสินความผิดเสียก่อน
เรื่องแนวคิด หรือสปิริตในการแสดงความรับผิดชอบ ย่อมเป็นเรื่องส่วนบุคคล ยากที่จะก้าวก่ายได้
ถ้าคิดว่าทำแบบนี้ถูกแล้วก็ดื้อด้านต่อไป ไม่ว่ากัน
ความน่าสนใจของกรณีนายบุญจง หากไม่ลาออกจากตำแหน่ง และมีคำตัดสินออกมาทางใดทางหนึ่ง จะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และการเมืองไทยโดยองค์รวม
ทางแรกหากตัดสินว่ามีความผิด ทั้งรัฐบาลจะทำอย่างไรในเมื่อแต่ละคนเคยออกมาช่วยการันตี หรือพยายามปกป้องอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
จะมากจะน้อยย่อมกระทบกับภาพลักษณ์แน่ๆ
ส่วนอีกทางหากตัดสินว่าไม่มีความผิด ต่อไปนักการเมืองและรัฐมนตรี ก็จะนำไปเป็นบรรทัดฐานว่า สามารถแจกเงินหลวงพร้อมนามบัตรที่บ้านตัวเองได้
ซึ่งแทบไม่ต่างจากการแจกเงินซื้อเสียงอย่างถูกกฎหมาย
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆละก็
เจริญแน่การเมืองไทย!?