บรรดาลูกพรรคเพื่อไทยคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ข้ามประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ "หลานเชียร์" "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ส.ส.เชียงใหม่ บุตรสาว "สมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" แบ๊คอัพชั้นดีของพรรคเพื่อไทย
ช่วงที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยอยู่ในสภาวะ "ผีไร้หัว" แทบจะขานชื่อ-ชูมือคนที่เป็นหลักให้กับพรรคไม่ได้ จนเดือดร้อนบรรดา "เจ้าของนอมินี" ต้องกระโดดลงมาหาหนทางยุติอาการ "พรรคอกแตก" ให้ได้โดยเร็ว
"ทักษิณ" รับรู้ปัญหาภายในของเพื่อไทยดี ผ่านการต่อสายพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในพรรค ก่อให้เกิดการ "ฟอร์มทีมใหม่" โดยเวทีสัมมนาที่เขาใหญ่จึงเป็นเวทีแรกที่ ส.ส.เพื่อไทย จะได้ "ละลายพฤติกรรม" เคลียร์ปมที่ค้างคาใจที่มีต่อกัน พร้อมๆ กันนั้นก็ตามหา "ผู้นำฝ่ายค้านในสภา" ไปในตัว และอีกไม่นานคงจะมี "เวทีผู้ใหญ่" ที่จะไปนั่งคุยเพื่อปรับโฉม ปรับโครง สร้างพรรคใหม่อีกรอบ ??
การโฟนอินของ "นายใหญ่" เป็น "วาระจร" ที่เสียบเข้ามากะทันหันกลางวงสัมมนา แต่น่าจะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมของคนเพื่อไทย เพราะเสียงปลายสาย ไม่ได้มีท่วงทำนองของการสั่งการ แต่เป็นคำหวานและออดอ้อน ส.ส.และสมาชิกเพื่อไทย ตลอดจนทีมงานคนเสื้อแดงที่ผนึกกำลัง "สู้เพื่อทักษิณ"
"..ขอขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ท่านที่อยู่กับพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ต้องถือว่ามีอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ขายตัว และยังรักผม ไม่อยากทิ้งผมไปในยามที่ผมยังลำบาก ผมจะไม่ลืมบุญคุณกับผู้ที่มีบุญคุณกับผม และเชื่อว่าวันหนึ่งผมจะได้กลับไปทำหน้าที่ในประเทศไทยอยู่กับท่านต่อไป"
เป็นส่วนหนึ่งของการโฟนอินที่ "ปลุกพลังใจ" ให้ ส.ส.เพื่อไทยเกิดความฮึกเหิม นอกจากคำขอบคุณแล้ว ยังมีหมัดเด็ดสวนคู่กรณีทุกเม็ด ทั้งเรื่องถูกคนแก่จองล้างจองผลาญไม่เลิก รัฐบาลเสือโหย พร้อมกับจุดประกายความหวังว่า "ทักษิณ" จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง หากมีพลังเรียกร้องของประชาชนที่มากพอ !??
แต่ที่แน่ๆ คือ "ทักษิณ" ไม่มีปัญหาเรื่องท่อน้ำเลี้ยงตามที่เคยตกเป็นข่าวก่อนหน้าว่าถูกทางการอังกฤษอายัดเงินนับแสนล้าน แถมยังบอกว่าพร้อมจะ "ดูแล" ผู้มีพระคุณของเขาอย่างเต็มที่ และเปิดไฟเขียวให้โทรศัพท์ไปหาเพื่อปรึกษาปัญหาหัวใจได้ทุกเมื่อ "ทักษิณ" ระบุระหว่างการโฟนอินช่วงท้ายๆ ว่า "ที่พูดว่าผมโดนยึดเงินที่ประเทศอังกฤษ มันโกหกทั้งนั้น เพราะผมไม่เคยมีบัญชีที่อังกฤษแม้แต่บาทเดียว ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็เพิ่งขายทีมฟุตบอลไป เงินก็ไม่ได้ใช้อะไร แค่เดินทางปีละร้อยกว่าล้านก็พออยู่ได้ คงไม่ได้ไปเก็บตังค์ชาวบ้านมาส่งผม ...ไม่ว่าจะมีอะไรสามารถโทร.หาผมได้ทุกคน"
จึงไม่แปลกที่ ส.ส.เพื่อไทย จะอยู่ในอาการ "กระดี่ได้น้ำ" หลังเมื่อการฟังโฟนอิน และปิดท้ายการสัมมนาด้วยการประกาศ "แถลงการณ์เขาใหญ่" จำนวน 9 ข้อ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนและบ่งบอกถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย
เทียบกันแล้ว ณ วันนี้ถือว่า "ฝ่ายค้าน" อยู่ในสถานการณ์ "พร้อมรบ" มากกว่าฝ่ายรัฐบาลอยู่หลายช็อต เพราะพิษสง "ปลากระป๋อง" ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียรังวัดไปไม่น้อย ต้องสูญเสีย "วิฑูรย์ นามบุตร" รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขุนศึกภาคอีสานไปแบบปลาวาฬเกยน้ำตื้น ขณะที่ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค ก็ต้องมาเจอฝ่ายค้านและ กกต.ขุดคุ้ยเรื่องเก่า "แจกผ้าขนหนู-แจกทุน" ซึ่งเกิดขึ้นในห้วงที่น้องชายลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี
ข้างฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย "นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์" รมช.มหาดไทย เป็นอีกหนึ่ง รมต.กระสุนตก ที่ถูกไล่บี้ทวงถามสปิริตการเมืองแทบทุกวัน เพราะนอกจากจะมีกรณีอื้อฉาวแจกเงิน 500 บาทพร้อมนามบัตรแล้ว ยังเจอกรณีขุดคุ้ยเรื่องคดีเก่าที่ถูก กกต.มีมติให้เอาผิดทางอาญา เมื่อครั้งไปพูดใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครคู่แข่งอีกหนึ่งเรื่อง
ถ้าหากเพื่อไทยทำได้อย่างที่ "ทักษิณ" ปลุกเร้าว่า "การเป็นฝ่ายค้านวันนี้กำลังสั่งสมคะแนนครั้งใหญ่.. เราอย่าหวั่นไหวไปกับงบประมาณที่มันผิดกฎหมาย ที่เขากล้าทำ อย่าไปหวั่นไหวและให้ประจาน เปิดเผยว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง แล้วบอกประชาชนว่าผมพร้อม ถ้าประชาชนพร้อม ผมพร้อมจะกลับไปเป็นนายกฯ" เห็นทีว่าเก้าอี้นายกฯของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" คงร้อนระอุ !!