ฝ่ายค้านเตรียมยื่นถอดถอน 3 รัฐมนตรี

รัฐสภา 29 ม.ค. –ฝ่ายค้านเตรียมยื่นวุฒิสภาถอด 3 รมต. “พีระพันธุ์-โสภณ-เกื้อกูล” ลงมติผ่านงบกลางปี อ้างอาจขัดรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ลงมติเรื่องที่มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมดำเนินคดีอาญา ขณะที่ประธานวิปรัฐบาลแจงช่วย อ้างสมัย “ร.ต.อ.เฉลิม” ก็เคยทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงเย็นวันนี้ (29 ม.ค.) เริ่มวุ่นวายอีกครั้ง หลัง นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ขอตั้งกระทู้ด่วนถาม กรณี 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  และ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. งบรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ที่อาจขัด มาตรา 177 ตามรัฐธรรมนูญ ที่มีใจความสำคัญระบุว่า รัฐมนตรี ซึ่งเป็น ส.ส. จะลงมติในเรื่องที่ตนมีส่วนได้เสียมิได้  ขณะที่ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะยื่นวุฒิสภาถอดถอนรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ออกจากตำแหน่ง  และจะดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ชี้แจงว่า

การดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นงบประมาณของแผ่นดิน  พร้อมกันนี้ยังได้นำผลการลงมติในเรื่องสำคัญของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลดังกล่าว เคยลงมติเห็นด้วยมากล่าวอ้าง  แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ใช้สิทธิ์พาดพิง  ชี้แจงว่า การลงมติดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยที่ตนไม่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี  ขณะที่ นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ตนเองไม่มีส่วนได้เสีย เนื่องจากงบกลางปี ไม่มีงบในส่วนกระทรวงยุติธรรม  และการกดลงคะแนนที่ผ่านมา เกิดปัญหาเครื่องกดคะแนนเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดให้มีการอภิปรายระยะหนึ่ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า

ได้เปิดโอกาสให้มีการปรึกษาหารือ และอภิปรายหลากหลายแล้ว  แต่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่อำนาจของสภาในการพิจารณาเรื่องนี้  แต่เป็นอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ  ซึ่งเมื่อฝ่ายค้านสงสัยก็สามารถใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หรือ ใช้มาตรา 272 และ 274 ตามรัฐธรรมนูญ ถอดถอน 3 รัฐมนตรีออกจากตำแหน่งได้  ส่วนปัญหาในตัวรัฐธรรมนูญ  พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจำเป็นต้องแก้ไขเนื้อหาให้รัดกุมเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่  ซึ่งในเรื่องนี้รัฐบาลก็มีแนวคิดในการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย