นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (29 ม.ค.) ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีปลากระป๋องเน่าในถุงยังชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการ พม. ไปรวบรวมหลักฐานเอกสาร ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาชี้แจง ว่ามีความถูกต้องหรือผิดตรงไหน และยังต้องนำหลักฐานไปชี้แจงต่อรัฐสภา และสาธารณชน “นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จะตรวจสอบข้อมูลของนายวิฑูรย์ ด้วย แต่เราให้โอกาสนายวิฑูรย์ ได้ไปรวบรวมข้อมูลมาก่อน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกลับจากต่างประเทศ คงจะได้รู้ว่าเอกสารทั้งหมดที่นำมาแสดงเป็นเหตุเป็นผลขนาดไหน” นายสุเทพ กล่าว
สุเทพ ปัดข่าว“สุทัศน์”ให้ข้อมูลฝ่ายค้านเลื่อยเก้าอี้
ส่วนจะมีการส่งสัญญาณให้นายวิฑูรย์ แสดงสปิริตหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนนอก ไม่ได้อยู่ใน พม. ดังนั้น นายวิฑูรย์ จึงเป็นคนที่รู้ดีที่สุด จึงขึ้นอยู่กับนายวิฑูรย์ ว่าจะพิจารณาตัวเองอย่างไร
แต่ในเบื้องต้น เราต้องให้โอกาสไปรวบรวมเอกสารมาแสดง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่ว่าพอถูกกล่าวหา ก็จะเล่นงานทันที “เราต้องให้ความนับถือ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีคนหนึ่ง เมื่อถูกกล่าวหาก็ต้องประมวลข้อกล่าวหา และจะต้องชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีเป็นข้อ ๆ จะได้ดูว่าข้อชี้แจงฟังขึ้นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านกล่าวหาใคร เราก็เล่นงานหมด ก็จะแย่” นายสุเทพ กล่าว ต่อกระแสข่าวว่า นายสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนให้ข้อมูลฝ่ายค้านเพื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ให้นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ พม. แทน นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีมูล ไม่ต้องมาถาม นายสุทัศน์ ไม่ได้มีหน้าที่ในเรื่องนี้ คนที่มีหน้าที่คือ คณะกรรมการบริหารพรรค 19 คน ข่าวนี้จึงเป็นไปไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวไม่เชื่อข่าวนี้
นายสุเทพ กล่าวว่า ขอปฏิเสธข้อสังเกตที่ว่า นายวิฑูรย์ เป็นเด็กในสังกัดของนายสุเทพ จึงไม่มีใครกล้าแตะ
และว่า “ผมมักจะโดนแบบนี้ ที่จริงผมดูแลคนทั้งพรรค และพรรคไม่มีสายไหน ก๊วนไหน” และเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายค้านจะนำไปเป็นประเด็นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าไม่ทำก็จะถือว่าบกพร่อง อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่กังวล เมื่อนำเรื่องของนายวิฑูรย์ ไปรวมกับเรื่องของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่นำเงินสงเคราะห์ของ พม. ไปแจกชาวบ้าน พร้อมกับแนบนามบัตรส่วนตัว จะทำให้ภาพพจน์รัฐบาลเสีย เพราะยังไม่เห็นว่ามีหลักฐานอะไรที่ทำให้รูสึกว่านายบุญจง ทำความผิด ส่วนเหมาะสมหรือไม่ที่มีการแจกเงินที่บ้านของตัวเอง นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงลึกไปถึงเรื่องสถานที่ แต่ได้เตือนนายบุญจง เรื่องการทำงานแล้ว