ป.ป.ช.ยกคำร้องข้อกล่าวหา “ สมัคร ” ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่สั่งจับกุมผู้ปลุกปั่นให้เกิดการปฏิวัติ
(28ม.ค.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องกล่าวหา นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่สั่งการให้จับกุมดำเนินคดีกับบุคคลที่ปลุกปั่นให้เกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร และล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญากรณีมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการ
โดยคำร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าวระบุว่า นายสมัคร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2551 ว่า ขณะนี้มีบุคคลไม่หวังดีต่อบ้านเมือง คือ “ไอ้หัวเถิก” ได้พยายามที่จะกุข่าว ปลุกปั่นให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่นายสมัคร เป็นหัวหน้า ครม.มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ได้ล่วงรู้ถึงแผนการและบุคคลดังกล่าวว่าเป็นผู้ใดแล้ว แต่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่สั่งการให้มีการจับกุมดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเห็นว่า เรื่องกล่าวหานี้เป็นการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ซึ่งผู้กล่าวหาจะต้องกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยตรง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 66 จึงได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้กล่าวหามายื่นคำกล่าวหายืนยันความประสงค์ที่จะกล่าวหา นายสมัคร ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง แต่ผู้กล่าวหาก็มิได้มายื่นคำกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริง หรือส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมแต่ประการใด คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อผู้กล่าวหามิได้มายื่นคำกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบกับคำร้องทุกข์กล่าวโทษของผู้กล่าวหา ก็มิได้ระบุพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ จึงมีมติไม่รับเรื่องไว้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง