จี้แก้ปัญหาอุทนฯ-ปทุมวันฯตีกัน จุรินทร์รับยากเหตุเรื้อรังนาน

"จุรินทร์ ” สั่งเลขาธิการอุดมศึกษาเร่งแก้ปัญหาเด็กอุทน-ปทุมวันตีกัน รับเป็นเรื่องยากเพราะปัญหาซับซ้อนเรื้อรังมานาน

(28ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการก่อความรุนแรงระหว่างนักศึก ษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ว่า

วันนี้ตนมอบหมายให้เลขาธิการการอุดมศึกษานัดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของผู้บริหารทั้งสองสถาบันและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหารือร่วมกันว่าจะหาทางแก้ปัญหาอย่างไร แต่ตนคิดว่าคงไม่มีสูตรสำเร็จว่าถ้ามีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วปัญหาจะยุติได้ครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งเราต้องใช้มาตรการป้องปรามและการลงโทษอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องและกระทำความผิดควบคู่กันไปด้วย แต่ทั้งนี้สถาบันและอาจารย์ต้องเข้ามาดำเนินการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งถ้าสถาบันเข้าไปกวดขันอย่างจริงจังและครูอาจารย์ชี้นำนักศึกษาในทางที่ถูกต้องก็ดว่าจะคลี่คลายปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงศึกษาธิการได้เข้าไปดูปัญหาของทั้งสองสถาบันอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า

คณะกรรมการการอุดมศึกษาเข้าไปดูเป็นการเฉพาะอยู่แล้วแต่ปัญหามันมัความซับซ้อนและเรื้อรังอยู่พอสมควร ซึ่งทั้งสองสถาบันก็เป็นระดับอุดมศึกษาแล้วไม่ใช่ระดับอาชีวะเหมือนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงศึกษาธิการจะมีนโยบายต่อปัญหาเด็กและเยาวชนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรงมากขึ้นอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า

ในส่วนเยาวชนกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาร่วมกันดูแลปัญหาด้วย แต่กระทรวงศึกษาธิการจะเข้าไปดูในสถานศึกษาเป็นหลักซึ่งก็มีมาตรการลงโทษกรณีที่มีการกระทำความผิดทั้งด้านวินัยและกฎหมายอาญา นอกจากนี้หากสถานศึกษาใดไม่สามารถแก้ปัญหาได้และเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อคณะกรรมการการอุดมศึกษาก็สามารถเสนอมาตรการลงโทษสถานศึกษาตามความเหมาะสมจนถึงการสั่งปิดสถาบันการศึกษา

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงศึกษาธิการจะมีนโยบายอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ให้เด็กมีพฤติกรรมที่รุนแรงรมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า

หัวใจสำคัญคือสถานศึกษาต้องเข้าไปอบรมดูแลและชี้นำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับนักศึกษา เพราะการลงโทษถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็ต้องใจเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่เด็กก่อเหตุมากขึ้นเป็นเพราะโทษที่ได้รับเบาเกินไป นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกฎหมายในภาพรวม แต่เราต้องหาทางป้องกันและป้องปรามที่มาของต้นเหตุ