กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับนางกาญจนา วงศ์ไตรรัตน์ ภรรยา นำเงินงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไปแจกให้ผู้ยากไร้ที่ขอรับการสงเคราะห์ พร้อมแจกนามบัตรของตัวเอง ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะ ส.ส. เป็นการกระทำอันเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 266 วรรคหนึ่ง อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(6) หรือไม่นั้น
เช้าวันนี้ (28 ม.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น
โดยตั้งข้อสังเกตว่า หากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย ดังนั้นนโยบายการแจกเงิน 2,000 บาทให้กับประชาชนที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทของรัฐบาล และการแจกถุงยังชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ถือเป็นความผิดด้วย ส่วนตัวมองว่า เงินที่นำไปช่วยเหลือประชาชน เป็นเงินที่ออกมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการตีความข้อกฎหมาย หากมีผู้ร้องเรียนมา กกต.ก็จะดำเนินการพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่
ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การจะเรียก นายบุญจง และภรรยา มาชี้แจงหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีของ กกต.ต่อกรณีนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวพรรคยังไม่ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ ดังนั้น กกต.ไม่ควรออกมาแสดงท่าทีก่อนเพราะไม่เหมาะสม อาจทำให้ถูกมองได้ว่าเป็นการตรวจสอบแบบ 2 มาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า จะยื่นเรื่องของนายบุญจง ให้ กกต.ตรวจสอบแน่นอนภายในสัปดาห์นี้ ว่าเป็นการทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 หรือไม่
แม้ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา จะยื่นไปแล้วก็ตาม แต่ตนจะยื่นซ้ำอีกเพราะถือเป็นการสะสมออมทรัพย์ เพื่อดำเนินการกับนายบุญจง ในหลายช่องทางที่สามารถจะทำได้