สภาเดือดแต่เช้า ส.ส.พท.-เพื่อนเนวิน ฟัดกันนัว

สภาเดือดแต่เช้า ส.ส.พท.-เพื่อนเนวิน ฟัดกันนัว แฉขายตนเพื่อตำแหน่ง ทำบรรยากาศวุ่นจี้ถอนคำพูด ด้าน “ประสิทธิ” ขู่นับองค์แต่ไก่โห่

(27ม.ค.) เวลา 09.35 น.การประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 1 สมัยสามัญทั่วไป เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบความร่วมมือการเจรจาเอกสารสำคัญและข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิท ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.และ 1 มี.ค.นี้ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม เริ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา 09.30 น.องค์ประชุมยังไม่ครบ มีส.ส.เข้าประชุมไม่ถึง 250 คน ประธานจึงเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาในพื้นที่

จนกระทั่งเวลา 09.47 น. ครบองค์ประชุม ประธานจึงสั่งเปิดการประชุมเพื่อพิจารณากรอบความร่วมมือการเจรจาข้อตกลงการประชุมอาเซียน โดยเริ่มจากนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวตำหนิประธานว่า ได้สั่งปิดการประชุมไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้นายศุภชัย โพสุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นขอให้นายนายจุมพฎ ถอนคำพูดว่าองค์ประชุมไม่ครบ เนื่องจากการประชุมดำเนินไปจนดึก สมาชิกทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้อภิปรายอย่างพอสมควรแล้วจึงสั่งปิดการประชุม จึงไม่สมควรกล่าวหาว่าองค์ประชุมไม่ครบ เพราะจะทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่า ส.ส. ส.ว. เป็นขี้เกียจสันหลังยาว

จากนั้นนายจุมพฎ ได้ลุกขึ้นกล่าวโต้ว่า ตนกับนายศุภชัย เดิมเคยอยู่พรรคเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน แต่วันนี้เป็นคนละพวก ต่างเลือดต่างสีต่างวิญญาณ เป็นพวกขายตนเพื่อเงินตรา จารึกชื่อบนหนังหมา ประจานนามชั่วหลานเหลน ทำให้นายศุภชัย ไม่พอใจลุกขึ้นประท้วงให้นายจุมพฎถอนคำพูดอีกครั้ง เพราะทำให้ตนเสียหาย เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ใครเป็นคนทรยศ อย่าคิดว่าตัวเองวิเศษ แล้วคนอื่นชั่วหมด เพราะกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ จึงอยากให้นายจุมพฎถอนคำพูดเพราะเท่ากับเป็นการดูถูกการทำหน้าที่ของสมาชิกโดยยืนยันว่านายจุมพฎต้องถอนคำว่าองค์ประชุมไม่ครบ และขายตนเพื่อเงินตรา

จากนั้นได้เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนายศุภชัยและนายจุมพฎ โดยนายจุมพฎได้ถามประธานว่าจะให้ถอนคำพูดไหน เพราะยังไม่มีการดูถูกใคร โดยนายศุภชัย ระบุว่าให้ถอนคำว่าองค์ประชุมไม่ครบ กับขายตนเพื่อเงินตรา แต่นายจุมพฎ พยายามบ่ายเบี่ยงและถามกลับประธานให้วินิจฉัยว่าจะให้ถอนคำพูดไหน และหากจะให้ตนถอนก็ให้นายศุภชัย ถอนคำว่าตนเป็นคนวิเศษวิโสกว่าคนอื่นด้วย อย่างไรก็ตามตนขอถอนพูดเรื่องการขายตนเพื่อเงินตรา

ทั้งนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานในที่ประชุมพยายามไกล่เกลี่ยว่าไม่มีใครวิเศษวิโสกว่าใคร จึงขอให้ทุกคนถอนคำพูด เพราะคำว่าวิเศษวิโสไม่ได้เสียหายอะไร แถมเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วย และการที่ตนสั่งปิดการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะองค์ประชุมไม่ครบ แต่เห็นว่าเวลาล่วงเลยมาพอสมควรแล้วจึงได้ปิดการประชุมไป ดังนั้นจึงควรขอให้เข้าสู่วาระการประชุมได้แล้ว แต่นายประสิทธิ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูม พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า ถ้าประธานพูดยั่วยุแหย่รับรององค์ประชุมไม่ครบแน่นอน ทำให้นายชัย ได้สั่งนับองค์ประชุมในเวลา 10.10 น. ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม โดยผลการนับองค์ปรากฏว่ามีสมาชิกเข้าประชุมจำนวน 337 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จากนั้นจึงได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในเวลา 10.15 น. โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบปิดอภิปรายกรอบความร่วมมืออาเซียนกรอบ 1 ที่อภิปรายค้างมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มการอภิปรายในกรอบ 2 โดยมีวาระสำคัญคือร่างความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ