มาร์คยันรบ.ชอบธรรม ไม่ได้ตอบแทนคุณพธม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยสามัญทั่วไป ครั้งที่ 1 ในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ฝ่านค้านกล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ชอบธรรมนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้มาถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญ และตามหลักการประชาธิปไตยที่ประเทศในระบบรัฐสภาพึ่งปฏิบัติ นั่นหมายความว่า เมื่อมีเหตุทางกฎหมาย มีเหตุโดยรัฐธรรมนูญ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่มีผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล  ก็เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะเป็นผู้สรรหานายกฯ และรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก็ได้ดำเนินการไปตามนั้น โดยการประชุม ส.ส. แห่งนี้ อย่างเปิดเผย รวมถึง รัฐธรรมนูญฉบันปัจจุบันยังได้คุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ในความเป็นอิสระ ในการที่มีความคิดเห็น และก็ลงมติ เพราะฉะนั้น เรื่องตรงนี้เป็นเพียงการมองต่างมุม เท่านั้น ซึ่งท่านก็มีสิทธิที่จะมองได้ แต่ของยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ

นอกจากนี้ ประการที่ 2 กรณีของนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ ที่ยกขึ้นมาบอกว่า

เป็นเรื่องของการไปตอบแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือกลุ่มอะไรก็แล้วแต่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นความจริง เพราะว่าในความจริงแล้ว ส่วนตัว เป็นคนชวนรัฐมนตรีท่านนี้เข้ามาสู่การเมือง เพียงแต่ว่ารมต.ท่านนี้ไม่ได้มีโอกาสลงรับสมัครการเลือกตั้ง ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ว่าได้ติดตาม และมีประวัติเหมือนที่ฝ่านค้านมี ถึงประสบการกร์การทำงาน ซึ่งแน่นอนว่า การทำงานอาจจะถูกใจคนบ้าง ไม่ถูกใจคนบ้าง แต่ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประมาณ 1  เดือนที่ทผ่านมา ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสามารถเดินหน้าการประชุมสุดยอดอาเซียน ด้วยการเลื่อนกำหนดให้เข้ามาเร็วขึ้น และผู้นำของทุกประเทศก็ได้ตอบกลับการเข้าร่วมการประชุม

ทั้งนี้ ส่วนการทำงานของรัฐมนตรีท่านอื่นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า

เป็นหน้าที่ของตนในการที่จะติดตาม และประเมิน ตามที่ได้เคยย้ำต่อสาธารณะ และจะเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องติดตามดูแลว่า รมต.ทุกท่านทำงานได้อย่างสัมฤทธิ์ผล

“แน่นอนครับ เราต้องมีการเตรียมการ  และในส่วนของการประชุมสุดยอดอาเซียน ก็มีการประชุมเตรียมการกันทุกสัปดาห์ โดยรมต. ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน จะต้องเข้ามาประชุม เพื่อที่จะรับทราบถึงการจัดการประชุม และเนื้อหาสาระต่างๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนกรณีของข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับเขตการค้าเสรี นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มว่า

ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายมองไม่ต่างกัน เพราะยังมีความเชื่อว่า การเปิดเขตการค้าเสรี จะเป็นในกรอบของทวิภาคี หรือจะเป็นในกรอบของพหุภาคีนั้น มันเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และตนก็เคยเป็นหนึ่งที่เรียกร้องว่า การดำเนินการให้ด้านนี้นั้น ต้องให้การเตรียมการ และมีการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น คงไม่มีข้อตกลงไหนที่ไม่มีผลในทางลบเลย แต่ว่าต้องเตรียมการ

สำหรับเรื่องที่ทางรมต.เกษตร และรมต.สาธารณะสุข กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า

การทำงานดังกล่าวไม่ใช่เพียงการแก้ไปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการเสริมความเข้มแข็ง รวมทั้งการที่มีกองทุนที่จะมาดูแลเรื่องผลกระทบจากเขตการค้าเสรีทั้งที่กระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ขอให้มีการบูรณาการเพื่อการบริหารจัดการที่ดี และหากมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนอะไร ขณะนี้รมต. ก็ได้มีการเห็นชอบ ที่จะมีระเบียนสำนักนายกฯ ผู้แทนทางการค้า ก็จะได้มีการนำเอาบุคคลที่ สามารถมาทำงานทางด้านการต่างประเทศเป็นกาลเฉพาะ มาช่วยดูแลอีกชั้นหนึ่งด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า

ทั้งหมดนี้มีความเข้าใจ ความห่วยใยของท่านสมาชิก เข้าใจมุมมองของท่าน แต่ก็ขอยืนยันว่า รัฐบาลได้ติดตาม ไม่ได้ละเลย พร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหา และต้องการการสนับสนุนในเรื่องของข้อตกลงต่างๆ ขออนุญาตบางเรื่องจะไม่ตอบ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ และไม่มีโอกาสตอบในครั้งหน้า โดยเฉพาะเรื่องเขาพระวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ระหว่างการอภิปรายของนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยกล่าวว่า

รัฐบาลอภิสิทธิ์ มีความไม่ชอบธรรมในการเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้ถอดคำพูด โดยเรียกร้องผ่านประธานรัฐสภาฯ ให้นายสุนัย ถอนคำพูดที่รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมแต่นายสุนัยไม่ถอนคำพูด