หลังจากกลุ่มเสื้อแดงแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นตามไปเขย่าตีนตบตะโกนต่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ จ.นนทบุรี นอกจากนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็โดนม็อบเสื้อแดงเชียง ใหม่ บุกไปขับไล่ระหว่างเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่าครบรอบ 45 ปี ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนทางภาคอีสานม็อบเสื้อแดงร้อยเอ็ด แสดงพลังต่อต้านแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่เข้ามาจัดกิจกรรมในพื้นที่เช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์”
ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ โดยในช่วงท้ายของรายการมีประชาชนโทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดสนามบิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ขณะนี้มีการดำเนินคดีอยู่ เพราะทางการท่าอากาศยานฯ ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ได้เร่งรัดตำรวจไปว่าทุกคดีต้องเดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา และเจ้าหน้าที่ได้รายงานว่าในกรณีของการปิดสนามบินดอนเมืองนั้นมีการสอบสวนไปได้แล้วร้อยละ 80 ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิสอบได้แล้วร้อยละ 30 ไม่ได้นิ่งนอนใจ
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ รองนายกฯ ถูกคนเสื้อแดงไล่ที่ภาคเหนือ ว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงออกเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ตำรวจต้องดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง และต้องพยายามกวดขันให้มากยิ่งขึ้น ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาเคลื่อนไหวก็ถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเปิดการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่ตอบว่าคนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐบาลมีหน้าที่ให้คนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบตัวเองว่าเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามได้แต่ยิ้มเท่านั้น
“ผมให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ขณะที่การทำความเข้าใจกับประชาชนในภาคอีสานและภาคเหนือที่ต่อต้านรัฐบาลนั้นมีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยจะต้องลดเงื่อนไขความขัดแย้ง”