ทักษิณชี้ถ้าอยากให้ปัญหายุติ ต้องคืนความเป็นธรรมให้ก่อน

สถานีโทรทัศน์ประชาธิปไตย ดีสเตชั่น หรือดีทีวี ได้ถ่ายทอดสดรายการ "ความจริงวันนี้" นัดพิเศษ

โดยเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามาเป็นแขกรับเชิญ โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นพิธีกรซักถามในรายการ
นายวีระได้ซักถามถึงการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ร่อนเร่พเนจร อยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เป็นนกขมิ้นตะลอนทัวร์ เดิมสมัยเป็นนายกฯ เคยตะลอนเดินทางไปช่วยเหลือประชาชน แต่ตอนนี้ต้องเดินทางไปพบปะเพื่อนฝูง บางทีก็เหงา เพราะไม่ได้อยู่กับครอบครัว ต้องพลัดพราก นานๆ ลูกจะมาหาบ้าง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพ่อไปอยู่ที่ไหน เรื่องสุขภาพตนแข็งแรงดี จิตใจเข้มแข็ง เพราะการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และความยุติธรรม ซึ่งตนและครอบครัวถูกรังแก จุดนี้จึงยอมรับไม่ได้และจะขอต่อสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม
 
"ผมตั้งใจว่าจะหาความเป็นธรรมให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นในสวรรค์หรือนรก ต่อให้มีการส่งมาฆ่าผมในต่างประเทศ ก็จะมีคนอีกมากลุกขึ้นมาต่อสู้ จนกว่าจะมีความเป็นธรรม มีคนถามว่า ทำไมผมไม่ยอมหยุด ที่หยุดไม่ได้ เพราะต้องการความเป็นธรรมให้ตัวเองและครอบครัว ที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ตัวปัญหา จะผิดก็ตรงที่ผมชนะการเลือกตั้ง จึงมีความพยายามยัดข้อหาว่าผมคอรัปชั่นเงินตัวเอง และกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี จนทุกคนระแวงและหันมาโจมตี เดินหน้าซัดผมจนไม่นึกถึงกติกา ทำทุกอย่างเพื่อให้ผมพ้นจากอำนาจ โดยไม่อายสายตาชาวโลก ถ้าอยากจะให้ปัญหายุติก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้ผมก่อน มิเช่นนั้นถึงผมตายไปก็จะไม่มีใครยุติ รังแกกันอย่างนี้มันยอมกันไม่ได้" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว 


ต่อมาผู้ดำเนินรายการได้ซักถามว่า หากเป็นนายกฯ จะเตรียมแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างไร

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมองอย่างครบวงจร โดยยอมรับว่าการเมืองมีบทบาทสำคัญต่อการแก้ปัญหา บางประเทศการเมืองมีส่วนช่วยพลิกนรกให้เป็นสวรรค์ แต่บางประเทศสถานการณ์ดีอยู่แล้ว การเมืองกลับพลิกสวรรค์ให้เป็นนรก หากคนมีอำนาจรักประชาชน จะทำสิ่งดีให้ประชาชน แต่ถ้านักการเมืองรักที่จะแสวงหาอำนาจก็จะสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเอง


พ.ต.ท.ทักษิณยังหยิบยกคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่เคยเปรียบเทียบวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่าเหมือนไฟกำลังไหม้

จึงต้องนำน้ำที่มีอยู่ไปดับไฟ ว่า การแก้ด้วยวิธีการนี้ นอกจากทรัพย์สินจะไหม้ไฟไปทั้งหมดแล้ว เราจะอดตาย เพราะไม่มีน้ำกินหรือใช้หุงข้าว ดังนั้น จึงขอให้ทำอะไรแบบพอหอมปากหอมคอ การแก้ปัญหาจะต้องลงไปในพื้นที่ ดึงชาวบ้านและภาคเอกชนมาสอบถามว่า พวกเขาต้องการให้รัฐบาลช่วยอย่างไร ไม่ใช่นั่งสั่งการอยู่บนหอคอย เหมือนที่ตนเคยทำสำเร็จกับโมเดลอาจสามารถ หากตนได้สานต่อโครงการ เชื่อว่าจะทำให้คนไทยหายจนได้ภายในปี 2552 แต่ถึงตอนนี้เราคงย้อนเวลากลับมาอีกไม่ได้

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า คนไทยจะต้องร่วมกันกอบกู้ดึงความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมา หลังเหตุการณ์ปิดสนามบิน

โดยทหารไปเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากนั้นก็ส่งคนในพันธมิตรมาเป็นรัฐมนตรี และที่ปรึกษามากมาย คดีความต่างๆ ก็ไม่ดำเนินการ จึงทำให้ต่างชาติไม่มั่นใจ เพราะรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังสถานการณ์วุ่นวายในประเทศไทย ดังนั้นการที่รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณ 500 ล้านบาท ให้กระทรวงการต่างประเทศไปใช้กอบกู้ชื่อเสียงของประเทศ คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นนอกจากทำให้งบประมาณหมดไปโดยเปล่าประโยชน์


"ผมไม่หนักใจว่าใครจะมาลอกเลียนแบบนโยบายประชานิยม เพราะคนทำต่างกันผลที่ได้ก็จะต่างกัน ผมเข้าไปสร้างเศรษฐกิจภาคชนบท เพื่อไม่ให้คนจนในชนบทเป็นภาระของระบบเศรษฐกิจ เราเข้าใจปัญหาและทำนโยบายประชานิยม เพื่อแก้ปัญหาความยากจน หากคิดเพียงว่าประชานิยมของใครเหนือกว่าก็คงเจ๊ง สุดท้ายเงินที่หว่านลงไปจะละลายไปหมด โดยคนชนบทยังคงจนอยู่เหมือนเดิม" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์