ปชป.ตั้ง 2 องครักษ์ช่วย กษิต-วิฑูรย์ นายกฯ ตั้งกฎเหล็กใครติดงานต้องแจ้งก่อน กันเหตุสภาล่มซ้ำ


ปชป.ตั้ง 2 องครักษ์ป้อง"กษิต-วิฑูรย์" หวั่น"เพื่อไทย"ใช้โอกาสประชุมรัฐสภาโจมตี กำชับลูกพรรคอย่าโดดประชุมสภา ตั้งกฎใครติดภารกิจต้องแจ้งก่อน ส.ว.พร้อมอุดช่องโหว่องค์ประชุมไม่ครบ ฝ่ายค้านแนะกมธ.ศึกษากรอบอาเซียนก่อน โวยแค่ 2 วันอ่าน กม. 20 ฉบับไม่ทัน

 
"สุเทพ"รับแขกงานเลี้ยง ส.ส.
 
หลังเกิดเหตุสภาล่มตั้งแต่เมื่อครั้งประชุมสภาครั้งแรก ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เกิดความคิดที่จะหารือนอกรอบกับพรรคร่วม เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสภาล่มซ้ำรอยเดิม จึงได้เกิดแนวความคิดเรื่องการรับประทานอาหารร่วมกันขึ้น โดยบรรยากาศงานพบปะสังสรรค์ระหว่าง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เมื่อวันที่ 25 มกราคม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นเจ้าภาพจัดงานนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรค ได้เดินทางมาเตรียมความพร้อมของงานตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยได้ตรวจสอบความเรียบร้อย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม โต๊ะ-เก้าอี้ ซึ่งมีการจัดโต๊ะจีนขนาด 10 ที่นั่ง ทั้งหมด 33 โต๊ะ รวม 330 ที่นั่ง เพื่อรองรับ ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด นอกจากนี้ นายสุเทพยังออกมายืนบริเวณหน้าห้องที่จัดงานเพื่อรอรับแกนนำพรรคต่างๆ และ ส.ส.ที่มาร่วมงานด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเวทียังมีการจัดอุปกรณ์คาราโอเกะไว้เพื่อความบันเทิง ฉากหลังเวทีมีการนำโลโก้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย รวมใจไทยชาติพัฒนา เพื่อแผ่นดิน และกิจสังคม มาติดเรียงต่อกัน โดยมีข้อความขนานดยาว 3 บรรทัด ด้านล่าง ความว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ให้เกิดความรักความเข้าใจอันดีต่อกัน มีความเป็นเอกภาพในการทำงาน อันจะส่งผลให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลบรรลุผลสำเร็จ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และนำพาประเทศชาติก้าวพ้นภาวะวิกฤตไปได้อย่างมีประสิทธิภาพŽ

"ชวน"ร่วมงานแค่20นาที

เวลา 18.00 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงก่อนเข้าจะทักทายกับนายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นนายสุเทพ ได้ชักชวนนายชวนและ พล.อ.ประวิตรเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะพูดคุยกัน และยังชวนรัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนเนวินไปร่วมโต๊ะด้วย นอกจากนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับแกนนำกลุ่มทศวรรษใหม่ อาทิ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร นายนิพนธ์ บุญญามณี อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่านายบัญญติได้แยกตัวไปนั่งร่วมกับ ส.ส.กลุ่มที่สนิท โดยไม่ได้เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับนายสุเทพ ทั้งนี้ นายชวนได้ใช้เวลาเพียง 20 นาทีร่วมงาน ก่อนที่จะขอตัวกลับไปก่อน โดยมีนายสุเทพ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ไปส่งขึ้นรถ

กระทั่งเวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงและเข้าทักทายแกนนำและ ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเดินมาถึงโต๊ะใหญ่ ที่มีแกนนำจากทุกพรรค ทำให้มีการแซวกันถึงกรณีสภาล่ม จนนายสุเทพต้องกล่าวขึ้นมาว่า "คราวนี้ครบตลอด" ทำให้ทั้งหมดหัวเราะพร้อมกันอย่างครื้นเครง

"มาร์ค"วอนผ่านงบกลาง-อาเซียน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที และเครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 มกราคม ถึงเหตุการณ์สภาล่ม เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมาว่า ยืนยันหลักการว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อสภา และที่ฝ่ายค้านใช้สิทธินับองค์ประชุม ก็ต้องยอมรับว่า ในส่วนของพรรครัฐบาลทุกพรรค เนื่องจากไม่สามารถที่จะอยู่กันครบองค์ประชุมได้ก็ต้องถือว่ามีความบกพร่อง แต่ไม่นึกว่าจะเกิดปัญหาขึ้น เพราะว่าปกติการนับองค์ประชุม จะเกิดขึ้นเวลาที่มีความขัดแย้งกันมาก แต่ว่าวาระที่พิจารณาในขณะนั้นกำลังเป็นวาระในเรื่องการรับทราบรายงานของศาลปกครองและเตรียมที่จะพิจารณา พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ไม่นึกว่าจะมีปัญหาความขัดแย้ง

"การประชุมสภาเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ได้ถือโอกาสพูดคุยกับคณะประธานกรรมการประสานงาน หรือวิปฝ่ายค้าน ได้ขอความร่วมมือเป็นกรณีพิเศษ สำหรับเรื่องของอาเซียนและเรื่องของงบประมาณกลางปี เพื่อที่จะให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ขอถือโอกาสนี้ขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกรัฐสภาและเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่าช่วยกันผ่านเรื่องสำคัญๆ ของรัฐบาลเพื่อที่จะให้การแก้ไขปัญหาและการเรียกความเชื่อมั่นต่างๆ กลับคืนมาได้" นายอภิสิทธิ์กล่าว

มั่นใจฝ่ายค้านให้ความร่วมมือ

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดแกนนำพรรคร่วมมาพูดคุยกันว่า เป็นการพบปะกันเพื่อให้การทำงานร่วมกันมีความใกล้ชิดมากขึ้นและคงต้องย้ำความสำคัญของการประชุมสภา เพราะเหตุการณ์สภาล่มในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ การแก้ไขปัญหานี้ ต้องอาศัยความร่วมมือของ ส.ส.ทุกพรรค การเสนอนับองค์ประชุมหรือการเดินออกจากห้องประชุมเป็นสิทธิที่ ส.ส.ฝ่ายค้านสามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าฝ่ายค้านต้องการป่วนสภาจนทำงานไม่ได้ กระทั่งนายกฯต้องยุบสภาใช่หรือไม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะมีงานหลายอย่างที่ประชาชนต้องการเห็นความก้าวหน้า โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการผ่านงบกลางปี จึงยังมั่นใจว่าฝ่ายค้านจะให้ความร่วมมือ เมื่อถามว่า แต่ฝ่ายค้านยังไม่มีแม้แต่ "หัว" จะคุมให้เป็นไปตามที่ตกลงได้หรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประธานวิปฝ่ายค้านรับปากแล้วว่าจะไปคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยให้ เป็นเรื่องภายในที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปตกลงกันเอง

ไม่โทษวิปรัฐบาลบกพร่อง

เมื่อถามว่า ถ้าสภาล่มบ่อยๆ จะกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะกระทบเพราะเรื่องนี้ทุกรัฐบาลเจอมาตลอด เป็นหน้าที่ของการจัดระบบ ส.ส.เพื่อให้มันไปได้ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องงัดมาตรการห้องเย็น โดยเรียก ส.ส.เข้าห้องเพื่ออบรมกลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าทางวิปรัฐบาลคงต้องไปดูแล แต่ละพรรคคงมีวิธีการของตัวเอง ในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์คงได้พูดคุยกันว่าจะใช้มาตรการใดดูแล ส.ส.

"ผมไม่เห็นว่าเหตุสภาล่มเป็นความบกพร่องของวิปรัฐบาล เพราะเพิ่งทำงานได้ไม่นาน และเดิมก็คิดว่าบ่ายวันพฤหัสฯไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งผมก็เห็นใจวิปรัฐบาล แต่จากนี้ไปต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นให้ได้"นายอภิสิทธิ์กล่าว

ตั้งองครักษ์ป้อง"กษิต-วิฑูรย์"

ต่อมา นายอภิสิทธิ์เป็นประธานประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าร่วมประชุมรัฐสภา พิจารณากรอบข้อตกลงที่จะใช้ในการประชุมอาเซียนซัมมิท โดยมีแกนนำ และ ส.ส.ของพรรค เข้าร่วมการประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยภายหลังการประชุม นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า มีการกำชับให้ ส.ส.ทุกคนให้ความสำคัญต่อการเข้าร่วมประชุมสภา โดยนายอภิสิทธิ์ได้ย้ำว่า ถ้า ส.ส.คนใดติดภารกิจ ก็ขอให้แจ้งให้วิปรัฐบาลทราบก่อนทุกครั้ง

แหล่งข่าวระบุว่า ที่ประชุมประเมินว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสการประชุมรัฐสภาพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน อภิปรายโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะต้องถูกพาดพิงถึงกรณีปลากระป๋องเน่าอย่างแน่นอน จึงมีการตั้งองครักษ์อย่างไม่เป็นทางการขึ้นมาชี้แจงแทนรัฐมนตรีทั้ง 2 คน นำทีมโดย น.ต.สุธรรม ระหงส์ ส.ส.สมุทรสาคร และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก
ฮิต 2

ส.ว.พร้อมอุดช่องโหว่องค์ประชุม

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ในฐานะวิปวุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมสามัญร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาข้อตกลงอาเซียนที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 มกราคม ที่อาจจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมว่า เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการประชุมร่วมระหว่างสองสภาที่การประชุมจะต้องมีสมาชิกเกินครึ่ง ถ้าหาก ส.ส.ขาดไม่กี่คน ส.ว.ที่มีสมาชิก 150 คน ก็ทำให้องค์ประชุมครบได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ คิดว่าการประชุมเพื่อพิจารณาข้อตกลงอาเซียนถือเป็นเรื่องสำคัญไม่คิดว่าจะมีใครเล่นเกมด้วยการนับองค์ประชุม โดยการประชุมครั้งนี้จะมีการโหวตเพื่อรับรองข้อตกลงทั้ง 40 ฉบับ ในช่วงเย็นวันที่ 27 มกราคม หากโหวตในช่วงเวลาดังกล่าวไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร

ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม พรรคชาติไทยพัฒนาได้หารือกันถึงปัญหาการร่วมประชุมสภา โดยได้ขอร้องให้ ส.ส.ทุกคนเข้าประชุมสภาอย่างพร้อมเพรียงกันและทุกคนก็ได้รับปากแล้ว โดยพรรคชาติไทยพัฒนามีวิป 5 คน ก็จะประสาน ส.ส.ที่มีกว่า 20 คน ให้มาประชุม คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

พท.ตั้งกมธ.ดูกรอบอาเซียน

ด้านพรรคเพื่อไทย ได้ประชุม ส.ส.นัดพิเศษ ก่อนการเข้าร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการลงนามในกฎบัตรอาเซียนและกฎหมายประกอบในวันที่ 26-27 มกราคมนี้ โดย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ก่อนเข้าประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการลงนามในกฎบัตรอาเซียนและกฎหมายประกอบในวันที่ 26-27 มกราคมนี้ เอกสารร่างกฎหมาย 20 ฉบับ ที่ต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีเนื้อหาสำคัญหนากว่าหมื่นหน้า ปรากฏว่า ส.ส.และ ส.ว.เพิ่งได้รับแจก เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อให้ได้อ่านทำความเข้าใจในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ก่อนการประชุม

"เอกสารเหล่านี้จะพิจารณากฎหมายสำคัญเกี่ยวกับประโยชน์ของประเทศและประชาชน ถามว่ารัฐบาลทำแบบนี้ถูกไหม ผมมั่นใจว่าแม้แต่นายกฯก็พิจารณาเอกสารกองนี้ได้หมด หากผลกระทบที่มาจากการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ รัฐบาลไปยืนยันกับ 10 ประเทศอาเซียนว่าจะประชุมทัน หากมีการรับรองแล้วมีผลเสียเกิดขึ้น การรีบร้อนทำโดยไม่รอบคอบและรีบลงนามมันไม่สมเหตุสมผล พรรควิตกเรื่องนี้ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้พรรคน่าจะโหวตแพ้ แต่ผมจะขอเสนอว่าควรตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณากฎหมายเหล่านี้เพราะอาจเกิดผลเสียกับประเทศ" ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์