“นายกฯ”ลั่นกม.รีดภาษีที่ดิน-มรดก รัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อสังคม ยันรีดภาษีเศรษฐีเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ใครขวางต้องเคลียร์ให้เข้าใจ ชี้“พิเชษฐ”แย้งแต่สุดท้ายต้องยอมตามพรรค
(24ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดก ว่า
ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะเดินหน้า เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการปฎิรูประบบภาษี แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังกำลังศึกษารายละเอียดอยู่ ในส่วนภาษีที่ดินอาจจะไม่ซับซ้อน เพราะมีแนวคิดเดิมอยู่แล้วเพียงแค่มาดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยหลักการใหญ่คือจะเป็นการทำให้ภาษีโรงเรือนกับภาษีบำรุงท้องที่มารวมกันแบบมีเหตุมีผลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำมากขึ้นสำหรับท้องถิ่น และต้องยกเว้นให้คนที่ความจำเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย ขณะที่คนที่มีที่ดินว่างเปล่าจำนวนมาก แต่ไม่ใช้ประโยชน์ก็ต้องจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า
ส่วนภาษีมรดกนั้นมีรายละเอียดว่าจะต้องมีการจัดเก็บอย่างไร และมีข้อยกเว้นอย่างไร จำเป็นที่จะต้องพิจารณา เพราะภาษีมรดกแม้ในต่างประเทศเองก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันตลอดเวลา ทั้งนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบายปฎิรูปภาษีต่อไป แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นๆ หลายๆเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาจะมีการดำเนินการ อย่างการปฎิรูปที่ดินก็เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เร่งรัดได้ในช่วงนี้ เพราะมีรายละเอียดที่ต้องให้ความรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายนี้จะถูกขัดขวางจากคนรวยที่ถือทรัพย์สินและที่ดินจำนวนมากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
มันมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างที่เราต้องทำหลายเรื่อง แต่เราต้องอธิบายและคิดว่าคนที่ได้รับผลกระทบก็จะเข้าใจว่าทำไมเราต้องทำอย่างนี้ อย่างกรณีภาษีที่ดินนั้นมันเริ่มต้นจากที่ว่ามีการกระจายที่ดินไปอย่างไม่เท่าเทียมกัน ถ้าเขาได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง ก็เข้าใจแต่ถ้าเป็นทรัพย์สินที่สะสมเอาไว้แล้วทิ้งไว้เฉยๆ ขณะที่คนจำนวนมากมีคนต้องการ เช่นคนมีที่ดินมากมายมหาศาลทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า ขณะเดียวกันเราต้องมาแก้ปัญหาที่ดินให้กับคนจน ก็คงไม่เป็นธรรมกับสังคม ตนเชื่อว่าเรื่องจะทำความเข้าใจได้
เมื่อถามว่า เป็นที่รู้กันว่าผู้ที่ถือที่ดินจำนวนมากในสังคมไทยคือกลุ่มนักการเมือง และนายทุนที่สนับสนุนพรรคการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการที่รัฐบาลเดินหน้าเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่เป็นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ล่าสุดคนที่ไม่เห็นด้วยคือนาย พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมช.คลัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายพิเชษฐเคยทำการศึกษาพบว่าภาษีที่ดินไม่มีปัญหา แต่ภาษีมรดกยังมีจุดท้วงติงอยู่ ซึ่งตนก็เห็นด้วยเพราะยังมีข้อโต้แย้งในการยกร่างอีกหลายเรื่อง เราต้องเอาข้อมูลข้อเท็จจริงไปให้สมาชิกพรรคได้ดูเพื่อทุกคนจะได้สบายใจ โดยอาจจะไปคุยกันในพรรค และในที่สุดเมื่อออกมาเป็นกฎหมายทุกคนก็ต้องยอมรับไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกกฎหมายนี้จะกระทบกับคนชั้นกลาง และคนชั้นสูงซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
ต้องดูให้ครบทุกด้าน รัฐบาลนี้กำลังขยายในเรื่องการสร้างสวัสดิการให้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีฐานภาษีที่กว้างกว่ารายได้มากขึ้น ทั้งนี้มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ เพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่รัฐบาลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม