เผยผลสอบระบายข้าว3แสนตันยุคไชยามีพิรุธ ชงครม.ตั้งกก.ป้องทุจริตสินค้าเกษตรชายแดน ผบ.ทบ.นั่งรองปธ.

"พรทิวา" เสนอตั้งกก.ป้องปรามทุจริตสินค้าเกษตรตามชายแดนให้ "อนุพงษ์" นั่งรองประธาน ชง ครม.วันที่ 27 ม.ค.เผยผลสอบระบายข้าว 3 แสนตันยุค "ไชยา" มีพิรุธ เปรยขอดูอีก 2-3 วันมีเซอร์ไพรส์แน่ "อลงกรณ์" ลุยจำนำข้าวโพดต่อตรวจค้นชายแดนเหนือ-อีสาน

 
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 มกราคม ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการนำพืชผลการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านในราคาต่ำเข้ามาสวมรอยโครงการรับจำนำในราคาที่สูงกว่าว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 27 มกราคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบและแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการแสวงหาผลประโยชน์จากการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร มีตนเป็นประธาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นรองประธาน ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นกรรมการ และอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นเลขาคณะกรรมการ และในสัปดาห์เดียวกัน จะจัดพิธีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็นโอยู) ถือว่าเป็นภารกิจระดับชาติ เพื่อป้องปรามและปราบปรามการละเมิดลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและอื่นๆตามชายแดนและปราบปรามขบวนการทุจริตระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาด้วย

นางพรทิวา กล่าวต่อไปว่า มาตรการดังกล่าวเป็นกำลังเสริมในการตั้งด่านพิเศษที่นอกเหนือจากด่านตรวจสอบเดิม ทุกเหล่าทัพยินดีให้ความร่วมมือ เพราะหากไม่แก้ไขจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต อย่างที่กำลังเกิดปัญหากับการลักลอบนำเข้าข้าวโพดและข้าว นอกจากนี้ได้ขอให้แต่ละหน่วยงานสนับสนุนการนำสินค้าเกษตรไปจำหน่าย เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นและพยุงราคา อาทิ ข้าวเหนียว ผัก ผลไม้ กุ้ง เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการอนุมัติระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล 3 ล้านตันสมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการตรวจสอบตั้งโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งผลสรุปแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ขอดูรายละเอียดก่อน 2-3 วัน จะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการการรับจำนำโครงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติให้เพิ่มปริมาณรับจำนำข้าวโพดอีก 250,000 ตัน โดยให้จัดทำโควต้ารับจำนำในแต่ละจังหวัดให้เป็นธรรมและให้เสร็จภายในต้นสัปดาห์หน้า ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการลักลอบนำเข้าตามชายแดนและมาสวมสิทธิ์ส่งผลการตรวจสอบ ตรวจค้นพื้นที่ 10 จังหวัดที่มีตัวเลขการจำนำสูงกว่าคาดการณ์ ภายในวันที่ 31 มกราคมนี้ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานต่างๆเพิ่มความเข้มงวดในตรวจสอบการนำเข้าข้าวโพดตามกรอบที่ไทยให้สิทธิประเทศเพื่อนบ้าน

"เราจะเข้าตรวจค้นโกดังข้าวโพดอีก 3-4 แห่งที่ได้เบาะแสและสืบในทางลับว่ามีพฤติกรรมลักลอบนำเข้าข้าวโพดจากชายแดนภาคเหนือและอีสาน ส่วนการตรวจสอบการกระทำผิดลักลอบนำเข้าข้าวโพดที่ จ.ตากนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนรวมด้วย เร็วๆนี้จะสั่งย้ายออกจากพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ก่อนแล้วค่อยดำเนินการตามกฎหมาย"นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งหน้าในต้นสัปดาห์หน้า จะพิจารณาการปรับเงื่อนไขการให้สิทธิกับประเทศเพื่อนบ้านและเพิ่มมาตรการปกป้อง (เซฟการ์ด)สินค้าเกษตรภายในประเทศ ทบทวนเงื่อนไขการให้นำเข้าโดยไม่มีการกำหนดปริมาณและช่วงเวลา และยกเลิกระเบียบนำเข้าต้องผ่านรับรองจากผู้ว่าราชการจังหวัด ณ ด่านที่นำเข้า แต่ให้ใช้ระเบียบการนำเข้าสิทธิประโยชน์ทางภาษีแทน เพราะต้องมีการแสดงเอกสารและใบตรวจสอบผ่านศุลการกรก่อนเข้าประเทศไทยได้