เทพเทือก ยันไม่คิดเด้งล้างบาง บิ๊กขรก.ขั้วอำนาจเก่า

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์การล้างบางข้าราชการในสายขั้วอำนาจเก่า

หลังย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นรายแรก ว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดจะปลดข้าราชการระดับสูง เพราะนั่นหมายความว่าข้าราชการต้องกระทำความผิด แต่การโยกย้ายไปอยู่ที่เหมาะสมกว่า ถือเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ยังมีซีเท่าเดิม มีงานให้ทำเหมือนเดิม รัฐบาลชุดก่อนๆ ก็ทำมาทั้งนั้น

"คนวิจารณ์เพราะเอานิสัยเดิมๆ มากล่าวหาคนอื่น ต้องไปดูก่อนว่าข้าราชการเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผมไม่สนใจหรอก ข้าราชการต้องทำตัวเป็นข้าราชการของประชาชน เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าข้าราชการทำตัวดีก็สามารถเป็นหลักของบ้านเมือง ถ้าไปยอมสยบ เอาใจนักการเมือง จนลืมภาระหน้าที่และเกียรติยศศักดิ์ศรีตัวเอง มันก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าเรามีข้าราชการอย่างนั้น เราก็ต้องจัดการ" นายสุเทพกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงวิจารณ์ว่ารัฐบาลเตรียมย้าย พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อป้องกันคดีความต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ค้างอยู่

นายสุเทพย้อนถามว่า "แล้วเขากลัวอะไร ถ้าเขาคิดว่า มีคดีความอะไรเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ได้ 8-9 ปีที่ผ่านมาเขาเอาตายแล้ว" เมื่อถามว่า รัฐบาลไม่ได้คิดว่าข้าราชการบางคนอาจเป็นไส้ศึกให้ขั้วอำนาจเก่าใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้สนใจ ใครจะเป็นไส้ศึกให้นายใหญ่ นายหญิง ไม่เกี่ยวกับตน ที่เกี่ยวคืออยู่ตรงไหนถึงจะทำประโยชน์ให้แก่ทางราชการได้มากกว่ากัน


ส่วนกรณีที่การตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือโยกย้ายนายพีรพล ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

และแต่งตั้งนายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดกระทรวงเป็นปลัดกระทรวงนั้น ไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเลขหนังสือทั้ง 2 ฉบับห่างกัน 280 เลข และมีทั้งตัวเลขไทยและอารบิคนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นข้อพิรุธ เป็นคนให้เจ้าหน้าที่พิมพ์หนังสือเสนอย้ายนายพีรพลเอง ไม่เห็นมีอะไรเป็นพิรุธเลย มีสำเนาอยู่ ดูได้ ส่วนที่ตัวเลขโดดก็เพราะเป็นหนังสือที่พิมพ์จากทำเนียบ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโยกย้ายนายพีรพล เป็นรายการคุณขอมาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครใช้คำว่าคุณขอมา

แต่เรื่องนี้ตนกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ปรึกษากัน เมื่อต้องขอตัวมาทำเนียบ ตนต้องเป็นผู้เสนอขอ และให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนาม