กรุงเทพฯ 22 ม.ค. - รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 ม.ค. )ได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีดีดตัวขึ้นทันทีหลังเปิดตลาด และยืนแดนบวกทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 441.60 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 434.57 จุด จนมาปิดตลาดที่ 438.27 จุด เพิ่มขึ้น 7.04 จุด หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1.63 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13,540.88 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 169.65 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 142.54 ล้านบาท
ด้านสัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิที่ 816.41 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 288.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 528.23 ล้านบาท โดย นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผอ.อาวุโส บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทไอบีเอ็ม ซึ่งออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า จึงทำให้ดัชนีฟื้นตัวตามแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร แต่เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นในบางช่วงต้องเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของตลาด
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 23 ม.ค.นี้ มองว่า
ดัชนียังแกว่งตัวผันผวน แต่คงปรับขึ้นหรือลดลงไม่แรงมากนัก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับฐาน ซึ่งนักลงทุนอาจเทขายทำกำไรออกมา เพื่อรอข่าวใหม่ๆ โดยเฉพาะความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายบารัค โอบามา ประเมินแนวรับที่ 422-434 จุด และแนวต้านที่ 444-446 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มรับเหมา ส่วนระยะยาวที่ลงทุน 3 เดือนขึ้นไป แนะนำรอผลประกอบการไตรมาส 1 จากนั้นเข้าซื้อเดือน มี.ค.-เม.ย.ปีนี้. -สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
