วันนี้ (21 ม.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามาในรายการสถานีโทรทัศน์ดีทีวี
หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์” ว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถสื่อสารได้ ไม่ได้กังวลว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานรัฐบาล ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินและติดต่อกับผู้ชุมนุมเป็นระยะ เป็นเรื่องปกติที่คนรู้จักกันจะติดต่อพูดคุย แต่จะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเน้นคุยเรื่องวิสัยทัศน์ นโยบายรัฐบาล เกรงหรือไม่ว่าจะถูกนำมาเปรียบเทียบ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี อยากให้นำมาเปรียบเทียบ จะทำให้รัฐบาลทำงานระมัดระวังมากขึ้น เมื่อถามว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอิน เพราะมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดี นายสาทิตย์ตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงคิดได้เอง ส่วนผู้จัดรายการที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาออกรายการ ต้องมีความรับผิดชอบ หากมีการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
เมื่อถามว่า ส.ส.ที่ประสานให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาร่วมรายการต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหรือไม่ เพราะเข้าข่ายรู้ที่อยู่พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่แจ้งให้ตำรวจดำเนินการ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส.ส.ที่ยังติดต่อพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ เข้าใจว่ายังมีความผูกพันกันอยู่ แต่ ส.ส.ควรคิดได้เองว่า การดำเนินการอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมหรือไม่ ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความสงบ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณแค่แสดงความคิดเห็นผ่านโทรทัศน์ก็ทำได้ แต่ถ้ามีสิ่งใดนอกเหนือขอบเขตดังกล่าวต้องรับผิดชอบ
เมื่ออีกถามว่า การออกรายการของ พ.ต.ท.ทักษิณมีจุดประสงค์เพื่อต้องการสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ในการออกรายการ
ส่วนจะสั่นคลอนรัฐบาลได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราไม่กังวล และไม่จำเป็นต้องจับตาดูเรื่องนี้เป็นพิเศษ เป็นการดำเนินการตามปกติของคนกลุ่มดังกล่าว เพียงแต่ต้องการสร้างข่าวให้มากขึ้น จึงต้องพูดให้มีสีสัน ชวนติดตาม ซึ่งประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดในรายการจะถูกบันทึกเป็นหลักฐาน ถ้าไปละเมิดสิทธิและพาดพิงบุคคลอื่นต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การโยกย้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย
โดยระบุว่า การโยกย้ายกรณีนี้จะแตกต่างจากการโยกย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่มีผลกระทบกับคดีเอสซีแอสเสท พร้อมย้ำการโยกย้ายทำได้หากมีอำนาจและมีเหตุผล ซึ่งได้มีการชี้แจงแล้วว่า การโยกย้าย นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ เพื่อความเหมาะสมในการบริหารงาน และคงไม่เกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่หวังผลหลายเรื่อง