ที่ดินส.ป.ก.4-01 ปชป.เดินเข้าดงระเบิด

การเปิดประเด็นเรื่อง ส.ป.ก.4-01 ให้กับเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกิน 16 ล้านไร่ของ "ถาวร เสนเนียม" รมช.มหาดไทย ลูกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลในภาวะที่ทุกอย่างกำลัง "นิ่ง"

เพราะไปแตะเข้ากับเรื่อง "ละเอียดอ่อน" และ "สะเทือนจิตใจ" อันเป็นฝันร้ายของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรีมาตลอด จนเจ้าตัวไม่ให้สัมภาษณ์ไปหลายวัน พร้อมกับเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน ได้กระโจนเข้า "ฮุบเหยื่อ" เปิด "แผลเก่า" ที่เคยทำให้รัฐบาลชวน 1 ล้มลงมาแล้ว เมื่อปี 2538

ย้อนรอยการแจก ส.ป.ก.4-01 เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร กรรรม พ.ศ.2518 โดยให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นผู้จัดสรรที่ดินจำนวน 35 ล้านไร่ ที่รกร้างว่างเปล่าให้กับเกษตรกรที่ยากไร้ได้มีที่ดินทำกิน

แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 19 พ.ย. 2537 เมื่อ "สุเทพ" รมช.เกษตรและสหกรณ์ขณะนั้น เดินทางมามอบที่ดิน ส.ป.ก. ที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 592 แปลง ให้กับเกษตรกร 489 ราย พื้นที่กว่า 10,000 ไร่

หลายพื้นที่เป็นที่ "ทำเลงาม" ทั้งติดหาดทรายหรืออยู่เชิงเขา พร้อมมีการให้เอกสารสิทธิกับตระกูลใหญ่ในภูเก็ต 11 ตระกูล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนให้กับ ปชป.ด้วย โดยเฉพาะตระกูลเทพบุตร ที่ นายทศพร เทพบุตร สามีของ นางอัญชลี เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ และเลขาฯส่วนตัวนายสุเทพขณะนั้นได้ไป 98 ไร่

จนทำให้ "สุเทพ" กลายเป็น "เป้านิ่ง" ของฝ่ายค้าน ถูกสมาชิกกลุ่ม 16 ของพรรคชาติไทยและพรรคชาติพัฒนาที่นำโดย "เนวิน ชิดชอบ" รุมอภิปรายไม่ไว้วางใจถล่มจนหมดสภาพ พร้อมกับเกิดตำนานการปล่อยกระจง

กระทั่งนายชวนต้อง "ยุบสภา" ในที่สุดการประกาศแจกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 รอบใหม่ ด้านหนึ่ง ปชป.จึงหวังลบแผลในอดีต ซึ่ง นโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องดีที่ให้เกษตรกรที่ยากจนมีที่ทำกิน เพียงแต่รัฐต้องเขียนหลักการ รวมถึงการโควต้าที่ดินในการจัดสรรให้ชัดเจน

โดยเฉพาะที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 3 ล้านไร่ ที่ "อนันต์ ภู่สิทธิกุล" เลขาธิการ ส.ป.ก.ระบุว่า จะต้องจัดสรรให้หมดภายใน 2 ปี ต้องไม่มีการให้ต่าง "ตอบแทน" ให้กับ "อีแอบ" ที่ใช้ชื่อนอมินีรุ่น 3 รุ่น 4 รุ่น 5 เข้าไปสวมสิทธิ

ที่สำคัญการตีความคำว่า "เกษตรกรผู้ยากไร้" ไม่ผิดจากตัวอักษร จนทำให้ที่ดินตกไปอยู่กับกระเป๋าเงินพรรคการเมืองบางพรรคอย่างที่เคยเกิดในอดีต เช่น กรณีของ "ทศพร" โดยต้องระบุว่า แต่ละคนรับที่ได้ไม่เกินกี่ไร่ ต้องยากจนซ้ำซากขนาดไหน ฯลฯ

เพราะคล้อยหลังเลขาฯ ส.ป.ก.ระบุว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ทั้งหมดที่จัดสรรในปีหน้าต้องมีความพร้อมเรื่องแหล่งน้ำและ 70% อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ก็มีเสียงจากผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯแสดงความเป็นห่วงสวนมาทันทีว่า อาจมีคนกว้านซื้อที่ดินแล้วขายให้รัฐแพงๆ

ขณะที่รู้กันดีว่า "แลนด์ลอร์ด" ในภาคกลางมีสัมพันธ์อันดีกับเจ้ากระทรวงคนปัจจุบันที่มาจากพรรคเดียวกัน ในระดับย้ำปึ้ก!

การแถลงข่าวของฝ่ายค้านว่า ขณะนี้มีที่ดินของ 4 จังหวัดอันดามันคือ สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และภูเก็ตอาจมีปัญหา เพราะมีนายทุนให้นอมินีเข้าไปถือที่ดินกว่าแสนไร่ เพื่อตีปลาหน้าไซของพรรคเพื่อไทย ที่หวังต่อย "สุเทพ" ให้สะเทือนถึง "เนวิน" ที่หันมาจูบปากกันตั้งรัฐ เป็นความพยายามน่าชื่นชม

เพียงแต่ถ้าตรวจสอบให้ลึก จะรู้ว่าที่ ส.ป.ก.ในภาคใต้แทบไม่เหลือแล้ว!!?

สิ่งที่ฝ่ายค้านน่าจะทำแทนการนำ "อดีตมาต่อย" คือการไปตรวจสอบนโยบายที่ดินของรัฐ ซึ่งจะทำควบคู่กับ ส.ป.ก.คือเรื่อง "ธนาคารที่ดิน" ที่มีแนวคิดว่ารัฐจะเข้าไปกว้านซื้อที่ดินรกร้างและนำมาให้เกษตรกรเช่าทำกิน เพราะอาจเข้าทาง "เหลือบไร" ให้โกงกินแบบ "อนาล็อก" นั่นคือการกว้านซื้อที่ไว้เพื่อนำมาปั่นราคา จากนั้นก็ขายให้รัฐแพงๆ ฟันกำไรหลายต่อ

เพราะมีกระแสข่าวว่า ขณะนี้คนในรัฐบาลเริ่มขยับตัวกว้านซื้อที่กันแล้ว!

เกม ส.ป.ก.4-01 อาจทำให้ "แผลเก่า" อาจเป็น "แผลใหม่" ด้วยปัญหาเดิม หากคน ปชป. "มูมมาม" ทั้งการตกรางวัลพรรคร่วม หรือแลกกับโครงการของกลุ่มเพื่อนเนวิน เช่นรถเมล์ 4,000 คัน หรือซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต อย่างโฉ่งฉ่างไม่เกรงใจประชาชน

ทั้งที่นโยบายเรื่องที่ดิน หากทำได้ดี ปชป.อาจจะเป็นรัฐบาลได้อีกยาว และยังอาจช่วยลบภาพ "ทักษิณ" ในใจคนจนทั่วประเทศให้เลือนรางไปเรื่อยๆ!


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์