โฆษกทบ.ไล่หมวดเจี๊ยบอยากทำตามฝันให้ลาออก

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภัควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ

กล่าวถึงการเรียก”หมวดเจี๊ยบ”เข้าพบเพื่อชี้แจงการเข้าร่วมดำเนินรายการกับ ดีทีวี. ว่า เรื่องนี้จะชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบภายหลังเรียก ร.ท.หญิงสุณิสา มาพบในวันพรุ่งนี้ (20 มค.) พร้อมจะเชิญ ฝ่ายเสนาธิการของกรมกำลังพลทหารบก เพื่อดูตามกฎระเบียบข้อบังคับของกองทัพว่า การดำเนินรายการร่วมกับ ดีทีวี.ของหมวดเจี๊ยบ สามารถดำเนินการได้หรือเข้าข่ายผิดระเบียบของกองทัพ ก็ต้องดูกันต่อไป ให้สื่อมวลชนใจเย็นๆ ไปทำข่าวที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติดีกว่า เรื่องนี้เรื่องเล็ก

ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมเรื่องข้าราชการกลาโหมกับเรื่องการเมือง ปี 2499

ระบุว่า ข้าราชการกระทรวงกลาโหมไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลได้ จึงต้องพิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวขัดต่อระเบียบหรือไม่ ส่วนการสอบวินัยกรณีขาดราชการเนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศนั้น ขณะนี้ผลสอบเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นพิจารณาลงโทษ ซึ่งไม่หนักหนาอะไร
   
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา หมวดเจี๊ยบโทรศัพท์มาขออนุญาตท่านเลขานุการกองทัพบกไปจัดรายการนี้ ซึ่งท่านเลขาฯก็บอกว่าให้เอารายละเอียดมาว่าเป็นรายการแบบไหน


แต่ก็ไปแถลงข่าวร่วมกับสถานีดังกล่าวก่อน ถ้ายังยืนยันที่จะทำก็ต้องตั้งเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาให้ถูกต้องตามระเบียบ แต่การเป็นข้าราชการกระทรวงกลาโหมจะไปวิจารณ์การทำงานรัฐบาลไม่ได้ ถ้าน้องยังอยากทำตามฝันก็ต้องลาออก กองทัพบกไม่คัดค้าน เพื่อน้องจะได้ตามฝัน และกองทัพบกไม่ต้องแบกภาระ ที่ผ่านมาที่คัดค้านเรื่องการลาออกเพราะต้องรอให้การสอบสวนเสร็จก่อน และน้องก็ขอยกเลิกใบลาออกเองด้วย
     
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการนำกรณีดังกล่าวไปเทียบเคียงกับกรณีที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ออกรายการขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การออกรายการดังกล่าวไปตามคำเชิญของผู้จัดรายการ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ แต่ ผู้จัดรายการกลับสอบถามความเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ซึ่งผบ.ทบ.ได้ให้ความเห็นว่าถ้าเป็น “ผม” (พล.อ.อนุพงษ์)...” และไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์อะไรต่อจากนั้น ส่วนการเสนอให้รัฐบาลนายสมชายยุบสภา เป็นการดำเนินการในฐานะของประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม(คตร.) ที่มีหน้าที่ในการเสนอข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
      
ส่วนที่มีการนำไปเทียบเคียงกรณีพล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุดขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะที่ยังอยู่ในราชการ

โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า การดำเนินการกับร.ท.หญิงสุณิสาอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน เพียงแต่กรณีพล.อ.ปฐมพงษ์ ซึ่งเป็นนายทหารชั้นนายพล มีโทษการลงทัณฑ์เพียงการว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งระหว่างนั้นพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.ขณะนั้นได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนตามที่ระเบียบกำหนดแล้ว และพล.อ.ปฐมพงษ์ ก็ยุติบทบาทนั้น และได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ขณะที่บทลงโทษของกำลังพลทั่วไปจะมีหลายระดับตั้งแต่ภาคทัณฑ์ กักขัง จำขัง และหากเป็นคดีอาญาที่ถึงที่สุดแล้วก็ต้องถูกปลดออกจากราชการและถอดยศ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์