พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าววันนี้ (13 ม.ค.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี
กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองว่า ขณะนี้ คดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 70 โดยสอบปากคำพยานแล้วมากกว่า 300 ปากและอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า หากคดีนี้ พาดพิงถึงใคร โดยเฉพาะแกนนำ ซึ่งมีการบันทึกภาพว่า เป็นผู้นำประชาชนเข้าบุกยึดสนามบินก็จะต้องถูกออกหมายจับทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ยืนยันคดีนี้ไม่เคยถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง หรือ จากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ โดยตำรวจทำตามพยานหลักฐาน ไม่เลือกปฏิบัติ ทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ล่าช้า และคดีนี้ จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูเด็ดขาด
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนจะนำกรณีที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท และการบินไทยฟ้องเรียกค่าเสียหาย 18,000 ล้านบาท จากกลุ่มพันธมิตรฯ
มาประกอบสำนวนการสอบสวนด้วยเพื่อให้ทราบถึงพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและค่าเสียหายทั้งหมด สำหรับกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึดทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา 9 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการไปแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา