เด็กเซ็งอดถ่ายรูปนั่งเก้าอี้นายกฯ ด้าน“อภิสิทธิ์” เนื้อหอมฝูงชนรุมของลายเซ็น รปภ.นายกฯต้องหิ้วปีกแหวกหนี ขณะเสื้อแดงบุกเดี่ยวชูหัวใจตบไล่นายกฯที่เชิงสะพานชมัยฯ
(10ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้บรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติภายในทำเนียบรัฐบาล เริ่มขึ้นเวลา 08.00 น.มีประชาชนหลายพันคนต่างทยอยนำบุตรหลานมาร่วมงานวันเด็กในทำเนียบฯ โดยเจ้าหน้าที่จัดให้ผู้ที่มาร่วมงานวันเด็กเข้าออกบริเวณประตู 2 ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ เพียงประตูเดียว
ขณะที่ตำรวจสันติบาลได้นำเครื่องตรวจอาวุธและโลหะจำนวน 2 เครื่อง มาติดตั้งเพื่อรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการตั้งโต๊ะตรวจสอบกล้องถ่ายภาพ และกล้องถ่ายวีดีโอทุกเครื่อง ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบฯมีตำรวจสันติบาล ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่จากหน่วยสรรพาวุธ เดินตรวจตราทั่วบริเวณ
ทั้งนี้ภายในทำเนียบฯไม่มีสัญญลักษณ์ของกลุ่มเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ยกเว้นบริเวณชมัยมรุเชฐขณะที่เมื่อขบวนรถยนต์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงทำเนียบฯ ได้มีชายสวมเสื้อแดง 1 คน นำหัวใจตบ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงมายืนตบ เพื่อขับไล่นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนได้เข้ามาตั้งเต๊นท์จัดกิจกรรมเล่นเกม แจกอาหาร เครื่องดื่ม ของขวัญ และหนังสือ ให้กับเด็กทุกคนที่เข้ามาร่วมงานวันเด็กในทำเนียบฯ ทางด้านตำรวจสันติบาลได้นำรถมอเตอร์ไซด์ฮาร์เลย์ ที่ใช้เป็นรถนำขบวนบุคคลสำคัญทั้งคนไทย และชาวต่างประชาติ จำนวน 20 คัน มาจัดแสดง พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาถ่ายภาพ โดยตำรวจสันติบาลได้ตั้งกล้องถ่ายรูป เพื่อถ่ายรูปและอัดภาพฟรี ให้กับทุกครอบครัวที่มาร่วมงาน เบื้องต้นเตรียมกระดาษอัดภาพไว้ 2,000 แผ่น หากไม่เพียงพอก็จะนำมาเพิ่มเติม นอกจากนี้ สมาคมช่างผม และเสริมสวยไทยได้นำช่างตัดผมกว่า 10 คน มาให้บริการตัดผมฟรีให้กับเด็กและผู้ปกครองด้วย
สำหรับไฮไลท์ของงานอยู่ที่ห้องทำงาน และเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรีภายในตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งบรรดาผู้ปกครองจำนวนมากได้นำบุตรหลานมายืนต่อแถวยาวกว่า 500 เมตร เพื่อทยอยเข้าเยี่ยมชมห้องทำงานของนายกฯ แต่เมื่อถึงคิวเจ้าหน้าที่กลับแจ้งให้ผู้ปกครองและเด็กเก็บกล้องถ่ายภาพทุกชนิด เพราะไม่อนุญาตให้บันทึกภาพภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำให้ผู้ปกครองหลายคนไม่พอใจที่ไม่สามารถถ่ายภาพบุตรหลานขณะนั่งเก้าอี้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายกฯกำลังจะเข้าไปร่วมงานในตึกสันติไมตรี มีหญิงวัยกลางคน 1 คน พยายามจะเข้าไปให้ถึงตัวนายกฯ เพื่อมอบของขวัญ ทำให้นายอิศรา สุนทรวัฒน์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ามาสอบถาม และขอเป็นตัวแทนรับของขวัญไปมอบให้กับนายกฯ แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ยินยอม โดยอ้างว่า ต้องมอบของขวัญให้ถึงมือนายกฯ
เจ้าหน้าที่จึงต้องกันตัวหญิงคนดังกล่าวออกไป จึงทำให้ไม่ได้มอบของขวัญให้นายกฯ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนของเยาวชนในศูนย์ผู้ลี้ภัยพยายามจะยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอโอกาสให้เด็กในค่ายลี้ภัยได้มีโอกาสออกจากค่ายมาเรียนหนังสือร่วมกับเด็กไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังนายกฯรับฟังความคิดเห็นจากสภานักเรียนไทย และประกาศวาระเด็กแห่งชาติ ได้เดินเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมวันเด็กภายในอาคารสันติไมตรี และได้อ่านความในใจของเด็กภายใต้หัวข้อ หนูอยากทำอะไรเพื่อเมืองไทยของเรา โดยส่วนใหญ่เด็กๆจะเขียนว่าอยากทำความดีเพื่อในหลวง เป็นเด็กดีไม่ทิ้งขยะ อยากเป็นทหาร ตำรวจ หรืออยากเป็นทนายความเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น จากนั้นในระหว่างที่นายกฯเดินทักทายเยาวชนและผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมวันเด็ก ทำให้ผู้ปกครองและเยาวชนจำนวนมากรุมล้อมเข้าไปเพื่อใกล้ชิดนายกฯให้ได้มากที่สุด ทำให้บรรยากาศค่อนข้างชุลมุนเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกฯไม่สามารถต้านทานฝูงชนที่รุมล้อมเข้าไปขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นนายกฯได้ โดยในบางช่วงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องหิ้วปีกนายอภิสิทธิ์ออกจากวงล้อมของประชาชน
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.นายอภิสิทธิ์ได้เข้าไปในตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบปะกับเด็กที่เข้ามาเยี่ยมชมห้องทำงานนายกฯ โดยมีนักเรียน 2 คน คือ ด.ช.ณัฐพล สุวรรณเพชร นักเรียนชั้น ม.3 จากโรงเรียนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และด.ญ.ชัสมา ไตรสุริยธรรมา นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ โดยเด็กทั้ง 2 คนเป็นผู้ที่เขียนบทความเสนอแนะมายังนายกฯ และนายกฯได้คัดเลือกให้เข้าพบในวันเด็ก ทั้งนี้ นายกฯได้สอบถามถึงอุปกรณ์การเรียนว่ามีความขาดแคลนอย่างไร โดยด.ช.ณัฐพล กล่าวว่า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีแต่ไม่เพียงพอ ซึ่งนักเรียน 3-4 คน ต้องใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน 1 เครื่อง จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมุยเป็นพื้นที่พิเศษ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีค่าใช้จ่ายแพง บางครั้งอาจแพงกว่าไปเที่ยวต่างประเทศด้วยซ้ำ คนในพื้นที่ก็มีคนฐานะดี ที่ผ่านมาตนเดินทางไปสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ที่เกาะสมุย มองว่าพื้นที่เกาะสมุยนั้นไม่เฉพาะแค่การศึกษาเท่านั้นที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องถนนหนทางด้วย
ด.ช.ณัฐพล กล่าวอีกว่า โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนในฝันในยุครัฐบาลทักษิณ ตนคิดว่าเป็นโรงเรียนเพ้อฝันมากกว่า โรงเรียนในฝันยังอยู่ห่างไกลเกินไป เมื่อถามว่าหากได้เป็นนายกฯและจะทำอะไรเพื่อบ้านเมือง ด.ช.ณัฐพล กล่าวว่า ตนจะทำทุกด้านเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย ถ้าวันนี้ได้นั่งเก้าอี้นายกฯก็จะอธิษฐานว่า
ในอนาคตจะขอกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯอีกครั้ง และเมื่อถามว่า หากเล่นการเมืองจะสังกัดพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ด.ช.ณัฐพล กล่าวว่า ครับ ๆๆๆ จากนั้นนายอภิสิทธิ กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ที่สุราษฎรธานี มี ส.ส.ชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ ในอนาคตอยากให้เข้ามาเป็นส.ส.แทนนายสุเทพ
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายอภิสิทธิ์ได้เข้าไปในตึกนารีสโมสร เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมผู้ประกาศข่าวตัวน้อย และเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวน้อย ซักถามได้ 2 คำถาม โดยคำถามแรกถามว่า คำขวัญวันเด็กมีความหมายเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร ซึ่งนายกฯยอมรับว่าแปลยากมาก เพราะภาษาไทยละเอียดอ่อนกว่าภาษาอังกฤษ ส่วนคำถามที่ 2 ถามว่าจะปราบคอรัปชั่นในรัฐบาลไทยอย่างไร โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คนทุจริตกลัวแสงสว่าง รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนออกมาช่วยกันตรวจสอบ เพื่อมองให้เห็นคนทุจริต