4 เต็งผู้ว่าฯกทม. ประชันกึ๋นชิงดํา

อาทิตย์นี้แล้วที่คนกรุงเทพฯ จะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกครั้ง โดยผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 11 ม.ค.2552 ว่า

เมื่อเวลา
10.00 น. วันที่ 9 ม.ค.ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. 4 คน ที่มีโอกาสได้รับชัยชนะได้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งจัดโดยสถานีข่าวทีเอ็นเอ็น 24 ชั่วโมง สถานีวิทยุบิสเนสเรดิโอ คลื่น 98.0 เอฟเอ็ม และหนังสือพิมพ์สยามรัฐ


ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข
2
พรรคประชาธิปัตย์ แสดงวิสัยทัศน์เริ่มด้วยการกำจัดขยะในพื้นที่ กทม. ว่า

จะนำรูปแบบของโรงกำจัดขยะจากประเทศญี่ปุ่นมาปรับใช้ซึ่งทำเป็นระบบปิด ไม่ทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงกำจัดขยะได้รับผลกระทบ  ส่วนการบริหารหน่วยงานของ กทม.นั้น บางส่วนจะให้เอกชนดำเนินการ เช่น การอบรมข้าราชการ การพัฒนาฐานข้อมูลของ กทม. และงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากองค์กรภาคเอกชน นอกจากนั้น จะขยายเมืองไปยังจังหวัดที่อยู่โดยรอบพื้นที่ กทม.ด้วย โดยรัฐบาลจะต้องริเริ่มวางแผน ซึ่งมี
5 เรื่องที่จะดำเนินการคือ 1. เชื่อมโยงระบบขนส่ง 2. สร้างถนน 3. จัดโซนนิ่งพื้นที่สีเขียว 4. การกระจายคน และ 5. ทำแผนจัดการเรื่องมลภาวะ

ด้าน ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล หมายเลข 8 กล่าวว่า
 
หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ภารกิจแรกที่จะทำคือ ออกตรวจสถานบันเทิงที่อยู่ในพื้นที่ กทม. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอย่างซานติก้าผับ หรืออาคารเสือป่าพลาซ่า นอกจากนั้นแล้วจะใช้อำนาจที่มีอย่างเด็ดขาด ด้วยการสั่งปิดสถานบันเทิงที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีแผนการอพยพคนออกจากตึกหากเกิดเพลิงไหม้

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ยังกล่าวถึงแนวทางการหารายได้เข้า กทม. ว่า


จะออกพันธบัตร กทม. เพื่อนำไปก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ เช่น รถไฟฟ้า บีอาร์ที นอกจากนี้จะจัดเก็บภาษีให้เป็นไปอย่างครบถ้วน เบื้องต้นต้องประสานกับภาคเอกชน ส่วนหนี้สินที่เกิดกับองค์กรต่างๆ เช่น ขสมก.ที่เป็นหนี้อยู่หากดึงให้มาอยู่ในสังกัด กทม. จะปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้ภายใน
4
ปี

ขณะที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
 
เห็นด้วยที่จะต้องทำโรงกำจัดขยะในระบบปิด เพื่อป้องกันเชื้อโรค และกลิ่น ไม่ให้เกิดกับประชาชนรอบข้าง ทั้งนี้ จำเป็นที่ต้องให้เอกชนที่มีประสบการณ์เข้ามาดำเนินการ เบื้องต้นตนจะแจกถุงขยะ
2 ใบ เพื่อเก็บขยะที่ต้องฝังกลบ และขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ส่วนมาตรการป้องกันเหตุอัคคีภัยในอาคารนั้น ทุก 3 เดือน กทม.จะต้องเข้าไปตรวจสอบ ที่สำคัญโรงภาพยนตร์ ออฟฟิศ โรงแรมจะต้องมีการซ้อมหนีภัยอย่างสม่ำเสมอ

นายแก้วสรร อติโพธิ หมายเลข
12
กล่าวว่า
 
งานบางอย่างที่ต้องให้เอกชนเข้ามาช่วยดำเนินการ ต้องยึดการแข่งขันที่คุณภาพมากกว่าที่ราคา และต้องทำสัญญาเป็นระยะสั้น มีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ส่วนเรื่องของการพัฒนาเมืองจะดึงเอกชนที่เป็นมืออาชีพ เช่น ด้านสถาปัตยกรรม ด้านระบบขนส่งลอจิกส์ติก มาช่วยวางแผนนำเสนอแผนแม่บทให้กับรัฐบาล ส่วนของการควบคุมจะจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต คอรัปชัน และที่สำคัญการให้ใบอนุญาตอาคารเป็นสถานบันเทิง จะต้องมาขอใบอนุญาตจาก กทม. และต้องตรวจสถานบันเทิงทุกแห่ง หากพบว่าไม่ได้มาตรฐานต้องสั่งปิดทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ในช่วงสุดท้ายผู้ดำเนินรายการได้ถามผู้สมัครแต่ละคนในประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองระดับชาติ เริ่มต้นด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ถูกถามว่า หากแพ้การเลือกตั้งหมายความว่า คน กทม.ต้องการเลือกผู้ว่าฯ กทม.คานอำนาจกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ตอบว่า หากประชาชนไม่เลือกตน เพราะอยากได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่คานอำนาจกับรัฐบาล ตนก็ยินดี เพราะอยากเห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จบนเวทีการเมือง ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ตนพร้อมรับคำตัดสิน

ขณะที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ตอบคำถามที่ว่า


หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำงานร่วมกับรัฐบาล หรือ ส.ส. ส.ก. ส.ข. ที่สังกัดพรรคได้หรือไม่ ว่าตนไม่มีอคติกับนักการเมืองที่ตั้งใจทำงาน ซึ่งหากนายอภิสิทธิ์มีจุดยืนทางการเมืองที่จะพัฒนาประเทศ หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยจะมีหัวหน้าพรรค ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมไปถึง ส.ก. ส.ข.ที่สังกัด พรรค ตนเชื่อว่าจะทำงานร่วมได้อย่างราบรื่นแน่ หากเป็นนักการเมืองที่ไม่โกงกิน และจงรักภักดีต่อระบอบกษัตริย์

ด้านนายยุรนันท์ตอบข้อถามที่ถามถึงการดึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามาร่วมทำงานว่า


ตนไม่ปฏิเสธว่าบุคคลที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ได้เข้ามาช่วยตนทำงาน และตนเชื่อว่าจะไม่ถูกวิจารณ์ทางแง่กฎหมาย เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ ระบุถึงขอบเขตการที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และที่สำคัญตนมองว่าอดีตกรรมการบริหารนั้น เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และสามารถเข้ามาร่วมพัฒนากรุงเทพฯได้

ส่วนนายแก้วสรรกล่าวว่า

 
พรรคประชาธิปัตย์อย่า ใช้ตรรกะที่ว่าเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่สังกัดพรรคเดียวกันจะถือว่าเป็นโอกาสทองของคนกรุงเทพฯในการที่จะได้เห็นโครงการใหญ่ๆ สำเร็จ เพราะอำนาจในการบริหาร กทม. และรัฐบาล เป็นคนละส่วนกัน ซึ่งหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เชื่อเช่นนั้นก็หมายความว่า หากภายใน
3 เดือนรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ล่ม ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ก็ต้องออกจากตำแหน่งด้วยใช่หรือไม่ ส่วนผู้สังกัดอิสระก็อย่าอ้างว่าพรรคการเมืองโกงกิน เพราะพรรคการเมืองก็มีความรักชาติ อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาเช่นกัน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์