เด็กแม้วดาหน้าถล่ม สตช.เสนอถอดยศ ทักษิณ พท.ตั้งกระทู้ด่วนถาม นายกฯ เทพเทือกปัดสั่งการ

เด็กแม้วดาหน้าถล่ม สตช.เสนอถอดยศ "ทักษิณ" โวย จองเวรไม่เลิก ลั่นคนล้มอย่าข้าม อ้างคนผิดมากกว่าไม่โดน-เจตนารมณ์ กม.จัดการตร.ที่ทำความเสียหาย-เสื่อมเสีย แต่อดีตนายกฯทำแต่ความดีใ ข้องใจมือชงนามสกุลเดียวนักการเมืองใหญ่ ปชป. พท.ตั้งกระทู้ด่วนถาม "เทพเทือก" ปฏิเสธสั่งการ

"สุเทพ"ปัดสั่งการถอดยศ"แม้ว"

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 มกราคม ปฏิเสธไม่ทราบเรื่องที่ พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บังคับการกองวินัย (ผบก.วน.) เตรียมนำเรื่องเสนอ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือ ผบ.ตร.ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้พิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องคำสั่งจำคุก 2 ปี จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีซื้อ-ขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก โดยกล่าวว่า เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.อ.พัชรวาทเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาแต่ ผบ.ตร.ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นจะทำให้แผนการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณยากยิ่งขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า คงจะมีปัญหาบ้างเกี่ยวกับการเจรจา ถ้าหากมีการเจรจาขึ้นมาจริง แค้ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้มีการแจ้งมาว่าจะมีการเจรจาหรือไม่

นายสุเทพกล่าวตอบคำถาม การทำเช่นนี้รุนแรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ว่า ไม่ทราบว่ารุนแรงหรือไม่รุนแรง แต่ก็เป็นไปตามกฎกติกา ถ้าถามว่าคิดอย่างไรนั้นไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ได้ไปผลักดันให้เกิดการดำเนินการ และส่วนตัวก็ไม่ได้มีความโกรธเคืองกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนจะสั่งระงับการดำเนินการถอดยศหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปดูก่อนว่าที่ทำนั้น ถูกต้องตามกฎเกณฑ์หรือไม่ จะผลีผลามไม่ได้เพราะการใช้อำนาจรัฐก็มีจำกัดจะใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมายไม่ได้

อ้างมีแต่ไมตรีไม่เคยคิดบีบคั้น

"รัฐบาลจะเดินหน้ามนแนวทางสมานฉันท์ต่อไป แต่อะไรที่จะต้องยึดตามกฎเกณฑ์ก็ต้องเดินต่อไปเช่นกัน อย่างเช่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องคำพิพากษาของศาลก็ต้องว่าไปตามคำพิพากษาของศาล ส่วนเรื่องจะมีการเจรจาพูดคุยกันก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องที่จะอาจคิดว่าถูกกระทำ ไม่ใช่การกระทำของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่เรื่องของนายกฯหรือของผมเพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ แต่ถ้าจะมองว่ารัฐบาลคุมกลไกอยู่นั้นรัฐบาลต้องคุมด้วยความถูกต้องถ้าสื่อหรือประชาชนเห็นว่ารัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้องมาบอกมาท้วงติงกันได้ ซึ่งถ้ามีใครมองว่าผมไปบีบคั้นคุณทักษิณขอบอกว่าท่านมองผิด เพราะผมไม่ได้มีเจตนาไปบีบคั้นอะไรคุณทักษิณ ในเรื่องอะไรทั้งสิ้นมีแต่ไมตรีที่จะพูดคุยกัน นายสุเทพกล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าวเสนอขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปพิจารณาทุกแง่ทุกมุมให้เกิดความชัดเจน ต้องดูเจตนาของระเบียบ รวมถึงพิจารณาว่ารายละเอียดของระเบียบดังกล่าวเขียนไว้ว่าอย่างไร ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอย่างรอบคอบมากที่สุด

ทนาย"ทักษิณ"โวยจองเวรไม่เลิก

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า กรณี้นี้เหมือนเป็นการจองเวร พ.ต.ท.ทักษิณไม่เลิก ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง อ้างว่าฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ตรวจสอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติและระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว พบว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายที่เขียนเอาไว้เรื่องการถอดยศนายตำรวจนั้นเพื่อใช้ดำเนินการกับตำรวจที่ได้สร้างความเสียหาย เสื่อมเสียกับ สตช. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยได้สร้างความเสียหายให้กับ สตช.เลย ซ้ำยังสร้างความดีงามให้ สตช.มากมาย ซึ่งเรื่องนี้สังคมทั่วไปมองออกว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร เพราะแม้กระทั่งตำรวจที่ดำเนินการเรื่องนี้ยังนามสกุลเดียวกับนักการมืองใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ อีกทั้งคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลสั่งจำคุกก็ไม่ใช้คดีอาญาปกติ แต่เป็นคดีการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีใครถูกถอดยศจากคดีการเมือง

นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยอมรับว่า พล.ต.ท.ปัญญาเป็นญาติกับตนจริง แต่ที่ผ่านมาไม่เคยสั่งหรือขอร้องให้กระทำการดังกล่าว โดย พล.ต.ต.ปัญญาไม่เคยมาปรึกษา ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งทางการเมืองแน่นอน 

ข้องใจอ้างทีผิดร้ายแรงกว่าไม่โดน

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของ สตช. และมีการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันว่าหากใครทำผิดลักษณะเช่นนี้ ต้องถูกถอดยศทุกคน ก็ถือเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็ยอมรับได้ แต่ปัญหาคือ ระเบียบของ สตช.เรื่องนี้มีการบังคับใช้อย่างเสมอภาคหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ไม่เห็นเคยมีข่าวการถอดยศตำรวจ ทั้งที่บางคนกระทำผิดร้ายแรงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณอีก ซึ่งเป็นคำถามคาใจ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นประเด็นการเมือง เพราะขณะนี้มีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำมากมาย โดยเฉพาะการเอาผิดกับเหตุการณ์ยึดสนามบินสุวรรณภูมิที่สร้างผลกระทบกับประชาชนมากมาย แต่คดีเหล่านี้กลับไม่มีความคืบหน้าเลย ทั้งนี้ ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่ได้ติดต่อกันในช่วงนี้

บอก"พัชรวาท"คนล้มอย่าข้าม

นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยากถามไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท ว่าการเสนอถอดยศเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ เพราะขณะที่บ้านเมืองและประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนมากมาย แต่ทางตำรวจกลับมีข้อเสนอเช่นนี้ออกมา เห็นชัดเจนว่าต้องการไล่บดขยี้ พ.ต.ท.ทักษิณให้หมดหนทางต่อสู้ ในเชิงกฎหมายที่เป็นกฎระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่ในเรื่องนี้ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีเคยทำคุณประโยชน์มากมายให้บ้านเมือง การกระทำของตำรวจและผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในขณะนี้ "ผมขอฝากคำโบราณว่าไว้ว่า คนล้มอย่าข้าม การถอดยศตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความยุติธรรมหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่าตำรวจที่ได้กระทำความผิดต้องติดคุกในขณะนี้ จะมีการดำเนินการถอดยศเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่" นายนพดลกล่าว

พท.ตั้งกระทู้-ขู่รับมือกองเชียร์ฮือ

ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงการยื่นกระทู้ถามด่วนถามนายอภิสิทธิ์ ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปที่จะมีขึ้นวันที่ 21 มกราคม กระทู้ดังกล่าว ร.ต.ท.เชาวรินเตรียมถาม 3 ประเด็นคือ 1.นายกฯเคยอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวหรือไม่ 2.รัฐบาลมีส่วนรู้เห็นกับการออกข่าวของหน่วยงานของรัฐที่มักออกข่าวในทำนองว่าอดีตนายกฯมีความผิดในคดีทุจริตซื้อที่ดินซึ่งเป็นการกล่าวที่ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากมีคำพิพากษาคดีดังกล่าวปรากฏชัดเจนในหน้า 37 ว่า อดีตนายกฯไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 142 และมาตรา 157 ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีส่วนรู้เห็นย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหลักความยุติธรรมที่รัฐบาลหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล และ 3.รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หากกรณีดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนที่ยังรักและศรัทธาต่อผลงานอดีตนายกฯออกมาประท้วงหรือแสดงความไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ สตช. 
 
แจกเอกสารผลสอบกล่าวหาผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลง ร.ต.ท.เชาวรินได้นำเอกสารทำถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 กันยายน 2551 ประทับตราลับมาก เพื่อขอทราบความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบ พล.ต.อ.พัชรวาท เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับพวกรวม 3 คน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงแจกจ่ายสื่อมวลชน โดยเป็นการกล่าวหากระทำความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ ข้อ 18 (6) และข้อ 21, ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 6,12,13 และ 16 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และ 12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 15,152,157 ประกอบมาตรา 83,84,86,90 และ 91 รวมถึง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2247 มาตรา 86 และ 79 (1) ตามที่บริษัทผู้ผลิตรายการรายหนึ่งร้องเรียนกล่าวหา ถูกกีดกันไม่ให้เสนอราคาการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่รายการของ สตช.3 รายการ โดยได้จัดซื้อและจัดจ้างด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์โดยมีเจตนากระทำการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอ็น-เอส-มีเดีย-แอสโซซิเอทส์ จำกัด

ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า หาก สตช.ว่างมาก ก็อยากฝากติดตามเรื่องนี้ และฝากถึงนายกฯขอให้ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องผิดวินัยร้ายแรง ในฐานะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาเพื่อตรวจสอบด้วย เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณของรัฐ ทั้งนี้ งบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์สูงถึง 114 ล้านบาท