เรื่องส่วนตัวหรือรัฐบาล

บทนำมติชน

ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดนครราชสีมา นำมาเปิดเผยที่สวนลุมพินี ในการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คอนเสิร์ตการเมืองเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นับว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยนายไกรศักดิ์ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เขียนจดหมายลับถึงนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2549 มีเนื้อหาทำนองว่าประชาธิปไตยของไทยกำลังโดนคุกคาม มีคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญกำลังทำลายระบอบประชาธิปไตย

ไม่เพียงแต่นายไกรศักดิ์เท่านั้นที่บอกว่า "รับไม่ได้" กับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ปฏิเสธความรับผิดชอบของตัวเองทั้งหมด แต่กลับไปโยนความผิดให้บุคคลอื่นและสถาบันอื่น ผู้ที่ติดตามความเป็นไปของบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่องและมีใจเป็นธรรมย่อมประจักษ์แก่ตนเองดีว่า ปัญหาความไม่ปกติของบ้านเมือง การเกิดข้อขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวงจนก่อให้เกิดผลกระทบในหลายๆ ด้าน สาเหตุมาจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล "ทักษิณ" ไม่เป็นไปตามกฎกติกาแห่งรัฐธรรมนูญ และแม้จะถูกประชาชนชุมนุม เดินขบวนขับไล่ก็ยังไม่ยอมออกจากตำแหน่ง ครั้นจะจัดการเลือกตั้งใหม่ที่มีความชอบธรรมก็กระทำไม่ได้เพราะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเหลืออีก 3 คน ยังไม่ลุกจากเก้าอี้ ปล่อยให้การแก้ไขปัญหาอยู่ในภาวะตีบตัน

การกลับมาปฏิบัติงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถูกตั้งคำถามว่า เป็นไปโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเคยประกาศด้วยวาจาและเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่ปฏิบัติงานในตำแหน่งนายกฯจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ พร้อมกับเดินทางไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การไปพบผู้นำประเทศต่างๆ ในครั้งนั้นก็เกิดปัญหาขึ้นอีกว่า กระทำในนามส่วนตัวหรือในนามของรัฐบาล เช่นเดียวกับการมีจดหมายไปถึงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกากระทำในนามรัฐบาลหรือส่วนตัว

หากกระทำในนามรัฐบาลก็ชอบที่จะต้องดำเนินการไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการโดยทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศควรจะร่วมรับรู้ แต่ในข้อเท็จจริงสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มีความลึกลับซับซ้อนไม่เพียงแต่ต้องการปกปิดประชาชนคนไทยให้ล่วงรู้เท่านั้น แม้กระทรวงการต่างประเทศก็ยังเคลือบแคลงสงสัยในการกระทำของฝ่ายทำเนียบรัฐบาลว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังกระนั้นถึงไม่กล้าจะเปิดเผยออกมา และเท่าที่ทราบ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ส่งไปถึงเฉพาะสหรัฐหากยังมีอีกหลายประเทศที่ส่งจดหมายไปถึง

หาก พ.ต.ท.ทักษิณกระทำในนามรัฐบาลโดยถือว่าตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีก็เท่ากับกระทำในนามของประเทศไทยและประชาชนคนไทย

ซึ่งเนื้อหาที่เขียนในจดหมายก็ควรจะยืนอยู่บนข้อเท็จจริงและจะต้องเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย เมื่อพินิจพิเคราะห์ดูแล้ว เนื้อหาในจดหมาย พ.ต.ท.ทักษิณได้เขียนอะไรบ้างก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จริง ดังกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า บุคคลผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ซึ่งถูกสังคมแสดงปฏิกิริยาต่อต้านพร้อมกับกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณชี้ชัดออกมาว่าหมายถึงใคร ด้วยเหตุนี้ควรที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้นำจดหมายลับนั้นมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบเพื่อความสบายใจ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอีกปมเงื่อนหนึ่งที่เพิ่มความไม่ไว้วางใจต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้เกิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น

กล่าวสำหรับชาวต่างประเทศอาจจะงุนงงและไม่เข้าใจว่าประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น ประชาชนถึงมีการรวมพลังกันเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี "ทักษิณ" เช่นเดียวกับเนื้อหาในจดหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณคงจะพูดแต่เฉพาะในสิ่งที่คิดว่าจะเป็นผลดีต่อตัวเอง

แต่ประเทศชาติและประชาชนโดยรวมอาจจะเสียหายอันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดของผู้นำประเทศสหรัฐหรือประเทศอื่นๆ ที่ได้รับจดหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งถือเป็นการฟังความข้างเดียว เพื่อความเป็นธรรมทั้งต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งจะต้องมาทีหลังความเป็นธรรมของประเทศชาติ ควรที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ชี้แจงและนำรายละเอียดในจดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีบุชและประเทศอื่นๆ มาบอกเล่ากับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ อย่าได้ทำลับๆ ล่อๆ ให้ชาวบ้านสงสัย เพราะถ้ากลายเป็นความหวาดระแวงมากเข้าจนถึงจุดหนึ่งที่ไม่อยากจะทนต่อไปแล้ว เมื่อนั้นพ.ต.ท.ทักษิณก็จะอยู่ไม่ได้