พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงภาระงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า มีคณะเยาวชนที่เกิดและเติบโตจากรัฐต่าง ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมผู้ปกครอง และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยม ช่วงบ่ายได้ไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราช สมบัติครบ 60 ปี ครั้งที่ 6/2549 โดยเป็นการขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งได้ติดตามงานที่ตกค้าง และงานที่สืบเนื่องต่อถึงปลายปีนี้ เช่น งานพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ และในวโรกาสมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จะมีการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพระราชพิธีและชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การจัดถึงการพิมพ์โปสเตอร์พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3 แบบ และเรื่องการประชุมมอบนโยบายมาตรการและแนวทางการดำเนินงานการควบคุมโรคไข้หวัดนก โดยเน้นย้ำว่าให้มีการเฝ้าระวังต่อไป ขอให้ทำต่อไป เนื่องจากทีมงานทำงานเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก รวมทั้งได้เล่าถึงศ. ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นำแชมป์โลกทีมหุ่นยนต์กู้ภัยและอาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันเข้าพบ โดยให้นโยบายไปว่า ให้ทำเป็นเชิงพาณิชย์ ทางรัฐบาลจะจัดงบประมาณสนับสนุนให้เพื่อจะได้นำมาใช้งานได้จริง ๆ รวมทั้งการไปเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4 01) ให้เกษตรกรที่ได้รับเอกสารสิทธิไปคำนึงถึงเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เรื่องที่ดิน ผมได้ให้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งดาวเทียม ภาพถ่ายเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันหมด จัดใหม่ให้ลงตัว เพื่อที่ดินจะได้ไม่มีปัญหา จะทำให้สามารถจัดสรรเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ทุกคนจะได้มีหลักประกันชีวิตที่มั่นคง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และเล่าถึงนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอีเล็กทรอนิกส์ หรือ อีอ๊อกชั่น ของรัฐบาลว่า ในช่วง 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่า หน่วยงานราชการมีการประมูลกว่า 2 แสนล้านบาท และพบว่า รัฐสามารถประหยัดงบประมาณได้กว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบดังกล่าวได้ผล และยอมรับว่า การควบคุมการทุจริตโดยตัวบุคคลนั้นทำได้ยาก จึงต้องนำระบบดังกล่าวมาใช้ในการบริหารจัดการถึงได้ผล
ส่วนปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกกระทรวงเร่งการทำงานให้เต็มสูบ เพราะการต้องเป็นรัฐบาลรักษาการนาน ๆ ทำให้การทำงานไม่ค่อยเต็มสูบ อาทิตย์หน้าจะมีการพูดคุยกับคณะทำแผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 โดยจะเชิญนักวิชาการมานั่งคุยกับนักวิชาการของรัฐบาล เพื่อให้นำไปสู่การพัฒนาประเทศที่มีทิศทาง
อยากเล่าเรื่องของพลังงาน ฟันธงค่าเอฟทีงวดใหม่ (ต.ค.49ม.ค.50) จะไม่ปรับขึ้นแน่นอน เพราะได้สั่งการให้ดูแลเรื่องการปรับใช้พลังงาน นอกจากนี้ยังได้เร่งนำก๊าซที่สำรวจแล้วต่อท่อขึ้นมาให้ใช้ให้ทัน ระยะยาวจะใช้การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน จะลดต้นทุนการผลิตจากน้ำมันเตาได้ ทำให้เรารักษาค่าไฟฟ้าไม่ให้ขึ้นราคาได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะหลังจากมีการรณรงค์ประหยัดพลังงาน นำมาสู่การประหยัดดีเซลลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 26,000 ล้านบาท น้ำมันเบนซิลมีปริมาณการใช้ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ ประหยัดไป 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนคนไทยหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี โดยระบุว่า สิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี 200 กว่าแห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 127 แห่ง เส้นทางขนส่งหลักในภาคกลาง 45 แห่ง ภาคเหนือ 41 แห่ง ภาคอีสาน 9 แห่ง และภาคใต้ 8 แห่ง จะทำให้การใช้ก๊าซเอ็นจีวีสะดวกขึ้น อีกทั้งไทยเราสามารถผลิตได้เอง
ส่วนเรื่องการใช้แก๊สโซฮอลล์ มีการใช้วันละ 3,500,000 ลิตรแล้ว มีปั๊มมากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ และ 1 มกราคม 2550 จะมีการยกเลิกเบนซิน 95 ทั้งหมด จะใช้แก๊สโซฮอลล์ 95 แทน ส่วนเบนซิน 91 ใช่ต่อไป ปี 2552 จะเลิกใช้เช่นกัน นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือที่ผ่านมา ที่เห็นเศษไม้ไหลมารวมกันที่อ่างเก็บน้ำแม่มาน กับอ่างเก็บน้ำแม่จั๊วะ จ.แพร่ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการให้พี่น้องประชาชนช่วยกันขนไม้ขึ้นมา และนำขายให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เพื่อนำมาทำเป็นไม้อัด และจะนำไปสร้างบ้านให้ประชาชนที่อยู่ในอ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ขณะที่ปรากฏว่า การขนได้เสร็จไปแล้ว 97 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพน้ำจะกลับสู่สภาพเดิมได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
