เลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าวันแรก ภาคกลางเหงา ส่วนอีสานคึกคัก ผู้ใช้สิทธิ์หนาตา เฉพาะอีสาน "บุรีรัมย์" รอเข้าคิวนับหมื่น เลขาฯ กกต.เผยผู้สมัครขาดคุณสมบัติแล้ว 3 ราย "สดศรี" ชี้ครั้งนี้แข่งดุ พรรคฝ่ายค้าน-รบ.เร่งกวาดคะแนน เพื่อไทยโวย"บุญจง" ใช้อำนาจ มท.2 ประชุมแกนนำหมู่บ้านเขตเลือกตั้ง
ภาคกลางเหงา-อีสานคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งแทนตำแหน่งว่างล่วงหน้าของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 3 มกราคม วันแรกในพื้นที่ 22 จังหวัด รวม 26 เขตเลือกตั้ง กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 3 พรรค ประกอบด้วย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย พบว่า บรรยากาศการเลือกตั้งหลายจังหวัดในภาคกลางเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ขณะที่พื้นที่ทางภาคอีสาน มีผู้คนใช้สิทธิกันหนาตา และที่ จ.ร้อยเอ็ด มีกลุ่มเสื้อแดงยืนประท้วงหน้า 2 หน่วยเลือกตั้ง
บุรีรัมย์รอใช้สิทธิ1หมื่นคน
ที่ จ.บุรีรัมย์ การเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าในเขต 2 และเขต 4 เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่ อ.ลำปลายมาศ เป็นหน่วยเลือกตั้งกลางของ 1 ใน 5 อำเภอ ของเขต 4 มีผู้คนเข้าคิวรอใช้สิทธิร่วม 10,000 คน มากเป็นประวัติการณ์ของการเลือกตั้งล่วงหน้าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่ทำงานในพื้นที่ กทม.และจังหวัดอื่นๆ ที่ใช้สิทธิแล้วต้องการรีบเดินทางกลับทันที แต่เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สิทธิได้ทันท่วงที
น.ส.ชิดชนก สินรัมย์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ ทำงานที่ กทม. กล่าวว่า ได้มาใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 08.00 น. แต่มีคนเยอะมาก จนถึงเวลา 11.00 น. ยังไม่ได้กาบัตร เจ้าหน้าที่ปล่อยให้มีการลัดคิว หลายคนรอไม่ไหวต่างเดินทางกลับทันที
ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับจำนวนผู้ใช้สิทธิ ทำให้การลงคะแนนล่าช้า สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ที่ส่วนใหญ่จะเดินทางกลับ กทม.และต่างจังหวัดเพื่อไปทำงาน
ร้อยเอ็ดเจอเสื้อแดงไล่นายกฯ
ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายมงคล สิทธิวีระกุล ผอ.กต.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เผยว่า จากการตรวจสภาพการเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนจุตรพักตรพิมานรัชดาภิเษก อ.จุตรพักตรพิมาน และที่ว่าการอำเภอ อ.เมืองสรวง มีกลุ่มเสื้อแดงแห่งละประมาณ 10 คน ถือป้ายประท้วงด้วยข้อความว่า "ไม่เอาอภิสิทธิ์ พันธมิตรออกไป" แต่ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ส่วนจำนวนผู้ใช้สิทธิถือว่าอยู่ในขั้นน่าพอใจ ส่วนที่ จ.นครพนม มีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 นายธงชัย ชำนาญไพร ประธาน กกต.จังหวัดนครพนม เผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยเลือกตั้งอำเภอต่างๆ แต่ละจุดมีผู้มาใช้สิทธิกว่า 500 คน
ที่ จ.ศรีสะเกษ การเลือกตั้งในเขต 1 และเขต 2 นั้น พบว่าในพื้นที่เขต 1 โดยเฉพาะ อ.เมือง มีผู้ใช้สิทธิประมาณ 900 คน น้อยกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าครั้งที่แล้วไม่มากนัก ที่ จ.อุบลราชธานี การเลือกตั้งในเขต 2 และ 3 นายอรุณ คูณคำ ผอ.กต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 กล่าวว่า มีการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าคึกคักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่และมีวันหยุดยาวหลายวัน
ลพบุรีสับสนพรรคของผู้สมัคร
ส่วนจังหวัดทางภาคกลางที่เลือกตั้งล่วงหน้าจำนวน 12 จังหวัดนั้น พบว่าหลายจังหวัดมีผู้ใช้สิทธิบางตามาก เช่น จ.สมุทรปราการ สิงห์บุรี อ่างทอง ราชบุรี อุทัยธานี ฉะเชิงเทรา และ จ.ปทุมธานี เป็นต้น ขณะที่ จ.ลพบุรี ยังมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 คือ นายสิงห์สมุทร รัตนอำภา ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคความหวังใหม่ ที่มีชื่อสังกัดพรรคประชากรไทยด้วย ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงไม่นำรูปขึ้นติดบอร์ดประชาสัมพันธ์แต่ยังมีสิทธิลงเลือกตั้งได้เหมือนกับผู้สมัครที่เหลืออีก 3 ราย สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้สิทธิพอสมควร
อุทัยฯตัดชื่อผู้สมัครชาติไทย
ที่ จ.อุทัยธานี นายสมนึก โพธิวัลย์ ผอ.กต.ประจำเขตเลือกตั้งเขต 1 กล่าวว่า กรณีผู้สมัครหมายเลข 1 นายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ ที่ทาง กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ยอมให้ลงรับสมัคร เนื่องจากตรวจสอบไม่พบรายชื่อเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาในระบบบริหารข้อมูลพรรคการเมือง ล่าสุดนายอดุลย์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีการเมืองไปแล้ว นัดพิจารณาในวันที่ 5 มกราคมนี้ หากศาลตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ จะทำให้ผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าให้นายอดุลย์เป็นบัตรเสียโดยปริยาย
ที่ จ.นครปฐม การเลือกตั้งในเขต 1 มีผู้ใช้สิทธิกันหนาตา นายภิญโญ คชศิลา ผอ.กต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเขต 1 ทั้ง 3 อำเภอ กว่า 8,000 ฉบับ หรือร้อยละ 10 คาดว่า จะมีผู้ใช้สิทธิกว่า 5,000 คน หรือราวร้อยละ 60 ของบัตรที่เตรียมไว้ดังกล่าว
ที่ จ.นราธิวาส การเลือกตั้งเขต 2 รวมหลายอำเภออยู่ในความเงียบเหงา เนื่องจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่และมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ใช้สิทธิกันน้อยมาก โดยเฉพาะที่ อ.ระแงะ จำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนล่วงหน้า 54,950 คน แต่มีผู้ใช้สิทธิเพียง 184 คน ส่วนที่ จ.ลำพูน การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าที่หอประชุมอำเภอเมืองลำพูน มีผู้ใช้สิทธิประมาณ 600 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 18 ปี ที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้ง ศึกษาและทำงานอยู่ในต่างจังหวัด
กกต.ตั้งเป้าใช้สิทธิ์60-70%
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าวันแรกส่วนใหญ่ยังเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยเฉพาะ กทม.เขต 10 จ.อุทัยธานี จ.ลำปาง และจ.อุบลราชธานี ไม่ค่อยคึกคักมากนัก ส่วน จ.บุรีรัมย์ที่มีการเลือกตั้ง 2 เขต มีผู้มาใช้สิทธิคึกคัก โดยวันที่ 4 มกราคมจะเป็นวันสุดท้ายของการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ผู้มีสิทธิสมารถมาใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มกราคม จะไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะกฎหมายท้องถิ่นไม่ได้ระบุไว้
ส่วนใหญ่ในต่างจังหวัดตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 60 - 70 โดยเฉพาะจ.บุรีรัมย์ ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 68.4 ส่วน กทม.เขต 10 จะตั้งเป้าไว้ต่ำ เพราะเทียบเคียงการเลือกตั้งที่ผ่านมาไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 45 ส่วน จ.ลำพูน แชมป์ผู้มาใช้สิทธิมากที่สุดเมื่อครั้งเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ถึงร้อยละ 80 นั้น การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ก็ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 นายสุทธิพลกล่าว
พบผู้สมัครขาดคุณสมบัติแล้ว3ราย
นายสุทธิพลกล่าวว่า นอกจากนี้ได้รับรายงานเข้ามาว่า มีผู้สมัคร 3 ราย ที่ขาดคุณสมบัติการลงสมัคร ได้แก่ จ.ลพบุรี 1 ราย ที่เป็นสมาชิกพรรค 2 พรรค จ.ลำปาง 1 ราย ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. และ จ.อุทัยธานี 1 ราย สังกัดสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน และจนถึงขณะนี้มีการร้องเรียนเพียงการแจ้งเบาะแส บางกรณีก็ไม่พบหลักฐาน โดยเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้ให้ชุดป้องปรามและหาข่าว และผู้ตรวจการลงพื้นที่และได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ส่งชุดสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดเลือกตั้งที่เกิดขึ้น
"การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญและมีการแข่งขันสูง กกต.ได้เฝ้าระวังทุกจังหวัด เพราะ ส.ส.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมก็ไม่อยากเสียที่นั่งไป" นายสุทธิพลกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีกระแสข่าวรัฐมนตรี 2 คน จากกลุ่มเพื่อนเนวินลงช่วยหาเสียงให้ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน กกต.จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า จะต้องดูโดยแนวทางที่ ครม.ดำเนินการที่มีมติออกมาแต่ละครั้งว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนการตรวจสอบนั้นต้องมีเบาะแสก่อน ไม่ใช่เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น โดยกฎหมายเขียนไว้ว่า มีการกล่าวหาเมื่อความปรากฏอันฝ่าฝืนไม่ทำตามกฎหมายเลือกตั้ง ก็ให้ กกต.สืบสวนและให้ใช้ดุลพินิจที่เหตุสมควรตามที่ฝ่ายกิจการสืบสวนสอบสวนได้กรองเข้ามาก่อน และหากมีเหตุอันสมควร กกต.ก็ต้องดำเนินการสืบสวนโดยเร็ว
"สดศรี"ห่วงเลือกตั้งซ่อมแข่งดุ
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในวันที่ 11 มกราคม ว่าเท่าที่ดูผู้สมัครที่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมใน 26 เขต ในพื้นที่ 22 จังหวัดนั้น มีพรรคการเมืองไม่กี่พรรคที่ส่งผู้สมัคร และผู้สมัครส่วนใหญ่มีนามสกุลเดียวกับนักการเมืองหรือเป็นญาติของผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจากคำสั่งยุบพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจกันดีว่าการเมืองมีกลุ่มจำกัด จึงเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครั้งนี้ จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เพราะจำนวน ส.ส. 29 คน ที่จะได้มา จะเป็นตัวที่ทำให้คะแนนเสียงระหว่างพรรครัฐบาลกับฝ่ายค้านก้ำกึ่งกันมากขึ้น และคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิเกินร้อยละ 70 โดย จ.สมุทรปราการ จะเป็นจังหวัดที่มีการแข่งขันสูง เพราะที่ผ่านมามีการร้องเรียนกันมาก ส่วนจังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือ ไม่น่าจะมีการแข่งขันสูงมากนัก เพราะเป็นฐานเสียงของเจ้าของพื้นที่เดิม ส่วนการขายโควต้าให้กับพรรคอื่นตามที่เป็นข่าวนั้น คงไม่น่าจะมี เพราะทุกพรรคพยายามให้ได้ ส.ส.ของตัวเองกลับมา เพียงแต่เปลี่ยนตัวผู้สมัครเท่านั้น ทั้งนี้ กกต.ยังประสานงานกับทางตำรวจในการดูแลผู้สมัคร หากผู้สมัครคนใดคิดว่าไม่ปลอดภัยและมีการร้องขอเจ้าหน้าที่มาก็จะมีการส่งตำรวจไปช่วยคุ้มครอง
นางสดศรี กล่าวอีกว่า ส่วนการทุจริตการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่น่ามีเปอร์เซ็นต์สูง เหมือนการเลือกตั้งทั่วไป เพราะมีแค่ 22 จังหวัด โดยกกต.ได้ส่งองค์กรเอกชนและเจ้าหน้าที่ไปดูแลอยู่แล้ว
พท.ร้องกกต.สอบ"บุญจง"
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน ลงพื้นที่ จ.นครพนม เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รับฟังนโยบายของกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาว่า มีการเกณฑ์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. รวมถึงแกนนำชาวบ้าน เข้ารับฟังนโยบาย พร้อมทั้งให้แกนนำท้องถิ่นเสนอโครงการพัฒนาหมู่บ้านของตัวเองต่อนายบุญจง ขอร้องเรียนนายกรัฐมนตรีและกกต. ว่า นายบุญจงใช้อำนาจหน้าที่การเป็นรัฐมนตรีสร้างประโยชน์ต่อการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากมีการลงคะแนนเสียงการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 3 มกราคมนี้
"นายบุญจงนัดประชุมแกนนำหมู่บ้านใน 2 จุด แต่ถูกกลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันขับไล่ นายบุญจงจึงยกเลิกการลงพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว แต่จากนั้นไม่นาน นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ในจุดที่นายบุญจงจะเดินทางไป ดังนั้นการลงพื้นที่ของนายบุญจงครั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการไปเพื่อใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ของตัวเองอย่างชัดเจน" นายชวลิตกล่าว
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ในเขตพื้นที่เลือกตั้งซ่อมจังหวัดทางภาคอีสานหลายจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินได้แอบอ้างชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปใช้หาเสียง โดยระบุว่าผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ในสายเดียวกับพรรคเพื่อไทย หากผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินได้รับเลือกเป็น ส.ส.ก็จะเข้าไปทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อแผ่นดิน มีพฤติกรรมเข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยการขนคนมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พร้อมกับจ่ายค่าตอบแทนรายละ 200 บาท พรรคเพื่อไทยมีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิดผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดินได้
เพื่อไทยโวยมท.2 ใช้อำนาจประชุมแกนนำหมู่บ้าน กกต.ชี้เลือกตั้งซ่อมงวดนี้ดุ เผย3ผู้สมัครขาดคุณสมบัติ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เพื่อไทยโวยมท.2 ใช้อำนาจประชุมแกนนำหมู่บ้าน กกต.ชี้เลือกตั้งซ่อมงวดนี้ดุ เผย3ผู้สมัครขาดคุณสมบัติ
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday