"เพื่อไทย"เปิดซักฟอกรัฐบาล ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 21 ม.ค. จับมือ"เสื้อแดง"ตระเวนเคลื่อนไหวตามพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม "อภิสิทธิ์"ไม่หวั่น มั่นใจเลือกตั้งซ่อมได้เสียงเพิ่ม แก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำได้ "สุเทพ"รับต่อสาย"แม้ว"ยังไร้ผล ได้คุยแค่คนใกล้ชิด ลุยต่อผ่านช่อง"ผดุง"-หลานเขย"ณัฐวุฒิ"
รับคุยคนใกล้"แม้ว"ยังไร้ผล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 3 มกราคม ถึงการเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กำลังดำเนินการอยู่ แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นติดต่อในระดับคนใกล้ชิด เพื่อให้ไปขอร้อง พ.ต.ท.ทักษิณบอกคนสนิทให้ยุติการสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ ตนหวังให้ พ.ต.ท.ทักษิณหยุดการเคลื่อนไหว ที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ซึ่งตอนนี้ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรก็ตาม แต่ตนจะตั้งใจทำไปเรื่อยๆ หากได้พูดคุยตนจะขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หันมาร่วมมือกัน หากต้องการให้ประเทศชาติสงบ เพราะเชื่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมมือสถานการณ์บ้านเมืองจะคลี่คลาย และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น
"ตอนนี้ผมได้คุยเพียงคนใกล้ชิด ยังไม่ได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการมองว่า เงื่อนไขที่พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมเจรจาด้วยคือ การยุบสภา นายสุเทพกล่าวว่า "อย่าไปคิดในแง่ร้าย อย่าพูดอะไรที่ลึกไปกว่าการทำเพื่อบ้านเมือง ส่วนการที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายนอกสภา รัฐบาลก็พร้อมรับฟังเสมอ"
แหล่งข่าวใกล้ชิดนายสุเทพ เปิดเผยว่า นายสุเทพได้พยายามติดต่อพ.ต.ท.ทักษิณในหลายช่องทาง โดยเฉพาะผ่านทางนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีความสนิทกับนายสุเทพ รวมทั้งติดต่อผ่านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเขยของนายสุเทพ และนายสุเทพ เคยเป็นประธานงานแต่งงานของนายณัฐวุฒิ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย
"บัญญัติ" รับแก้เสื้อแดงไม่ง่าย
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้ากลุ่มทศวรรษใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงหลังปีใหม่ ว่า ต้องยอมรับความจริงว่า ไม่ง่ายนัก แต่การที่นายกฯยืนยันว่า จะบริหารประเทศตามแนวทางที่ได้แถลงนโยบายไว้ ว่าจะเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ฝ่ายการเมืองต้องทุ่มเทกันหนัก ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และการให้ข้อมูลข้าวสารตามความจริงอย่างมีเหตุผล
ยันไม่มีฮั้วรถเมล์4พันคัน
เมื่อถามว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยันเดินหน้าโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ขณะที่ตอนนี้ดูเหมือนรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว เสียงอ่อยลง นายบัญญัติกล่าวว่า ที่เขาอ่อย เพราะยังไม่มีเรื่องนี้เข้ามา ที่ตนเคยบอกว่า รัฐบาลต้องไม่พูดจาท้าทายกับประชาชนทุกกลุ่มนั้น หมายถึงไม่พูดจาท้าทายในหมู่นักการเมืองด้วยกันเองด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า จะปล่อยให้ใครทำตามใจชอบได้ เชื่อว่าจะไม่มีใครปล่อยปละละเลย และยิ่งต้องระวังกันให้มาก การเมืองขณะนี้ยังเปราะบางอยู่ อะไรที่ไปกระทบหรือสวนกับความรู้สึกประชาชน จะมีปัญหาทันที
เสธ.หนั่นให้รักษาน้ำใจพรรคร่วม
อีกด้านหนึ่ง ที่บ้านสนามบินน้ำ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่น่ากังวล คือ จำนวนเสียงของส.ส.รัฐบาลในสภา ที่ได้เสียงเพียง 235 เสียง ถือว่าปริ่มมาก และส.ส. 30 กว่าคนยังเป็นรัฐมนตรีอีก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะจัดการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยอันดับแรกควรรักษาเสียงเดิมเอาไว้ให้ได้ และหาเสียงมาเพิ่มเติมอย่างน้อย 30-35 เสียง จึงจะปลอดภัย และอยู่ได้ครบเทอม ถ้าไม่แตกแยกกัน แต่สิ่งที่น่าห่วงหลังแถลงนโยบายคือ การรักษามิตรภาพในพรรคร่วมรัฐบาล ที่แกนนำรัฐบาลต้องรักษาไว้ให้ดี ต้องเอาใจใส่พรรคร่วมบ้าง แม้การเรียกร้องจะสูง แกนนำต้องเสียสละบางอย่าง บางส่วนออกไป
"ถ้ารัฐบาลนี้จะล้ม ไม่ใช่ล้มเพราะคนอื่น ต้องล้มเพราะตัวเอง อย่างที่ผมพูดเอาไว้ว่า ต้องมีหลักในการบริหารจัดการผู้ที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล" พล.ต.สนั่น กล่าว
พท.ซัด"สุเทพ"เลิกสร้างภาพ
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ากำลังพยายามติดต่อเพื่อขอเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเรื่องที่อิมพอสสิเบิ้ล หรือเป็นไปไม่ได้อย่างมาก สิ่งที่นายสุเทพพูดเป็นการสร้างภาพเพื่อเดินเกมทางการเมืองชิงไหวชิงพริบเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะทำตามคำพูด เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและอมาตยาธิปไตย ทำลายกลุ่มการเมืองหนึ่งผ่านช่องทางของตุลาการ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจากันระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณและนายสุเทพแม้จะมีเงื่อนไขอะไรก็ตาม
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นไปไม่ได้ และขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกสร้างภาพเสียที การออกมาพูดเรื่องนี้ของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นการเล่นละครฉากหนึ่งเท่านั้น แม้จะยื่นเงื่อนไขนิรโทรษกรรมหรือแก้รัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปไม่ได้
ลั่นเปิดซักฟอกครม.21ม.ค.นี้
นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 มกราคมนี้ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ พรรคประชาราช จะยื่นญัตติต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ทั้งคณะและจะแยกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลด้วย โดยจะเน้นการโจมตีการจัดตั้งรัฐบาลที่มาอย่างไม่ชอบธรรม ทั้งนี้ หากนายชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานลูกอุ้มชะลอการบรรจุญัตติดังกล่าวจะถือเป็นกระทำการที่ไม่เหมาะสมซึ่งสังคมจะคอยตจับตาอยุ่ว่านายชัยจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
ส.ส.กาฬสินธุ์รับ"พท."เสียงแตก
นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ส.ส.บางส่วนของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา จะอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกรัฐสภา ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ในวันที่ 5 มกราคม เพราะเหมือนเล่นการเมืองมากเกินไป อีกทั้งรัฐบาลแถลงนโยบายแต่ยังไม่ได้ทำงาน ยังไม่รู้จุดบกพร่อง และในเมื่อประเทศอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่อยากให้ไปสร้างปัญหาให้กับประเทศเพิ่มขึ้นอีก จึงน่าจะให้โอกาสรัฐบาลทำงานไปก่อน
"ขณะนี้ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ต่างคนต่างคิด ต่างทำงานแล้วก็ออกมาแถลงข่าว แต่ก็ไม่ถึงขั้นแตกแยกและยังปรับแก้ได้ ดังนั้นหลังปีใหม่อยากให้พรรคจัดสัมมนาใหญ่เพื่อระดมความเห็นที่แตกต่างและกำหนดเป็นทิศทางทำงานของพรรคในฐานะฝ่ายค้านต่อไป" นายประเสริบ กล่าว
เสื้อแดงจับมือพท.ปลุกม็อบอีสาน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและแกนนำผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้จะมีการประชุมกันในวันที่ 5 มกราคม เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวใหญ่หลังปีใหม่ 2552 จนกว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะยุบสภา โดยจะตัดสินใจว่าจะชุมนุมใหญ่เป็นรายครั้งหรือจะชุมนุมยืดเยื้อ โดยจะเริ่มหลังวันที่ 11 มกราคม เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม นอกจากนี้จะพูดคุยเรื่องการนัดชุมนุมสัญจรในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเบื้องต้นได้ประสานให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่าง ๆ มาร่วมเคลื่อนไหวไปพร้อมกับคาราวานหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่จะตระเวนหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน วันที่ 6-9 มกราคม
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ยังยืนยันว่า การเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำหลังจากยุบสภาแล้ว ส่วนการที่มีข่าวปองร้ายนายกฯ นั้น เป็นเหมือนละครดาวพระศุกร์ ภาค 2 ที่นายอภิสิทธิ์ ทำตัวเป็นนางเอกเพื่อบีบน้ำตาให้เกิดความสงสาร เหมือนนายชวน หลีกภัย ที่เป็นตัวเอกดาวพระศุกร์ภาค 1 เมื่อครั้งเป็นนายกฯ ที่ชอบอภิปรายในสภาถึงความลำเค็ยของตัวเองเพื่อกลบข้อกล่าวหาต่าง ๆ
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียกร้องให้ส.ส.ช่วยพาเดินทางเข้ามายัง กทม.จำนวนมาก เพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเอาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับคืนมา สมมุติคร่าวๆ ว่าส.ส. 200 คน เดินนำหน้าพาประชาชน 2,000 คน ก็จะมีคนมารวมตัวกันหลายแสนคน ระยะนี้เป็นช่วงว่างงานหลังฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตรแล้ว ดังนั้นพวกตนจะนำเรื่องนี้กลับไปคิดและหารือในพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมตัดสินใจและกำหนดท่าทีในเร็วๆ นี้
"มาร์ค" เผยชีวิตส่วนตัวน้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 มกราคม รายการบอกข่าวเล่าเรื่อง ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ "คุยสบายสไตล์นายกฯ อภิสิทธิ์" ซึ่งบทสัมภาษณ์เป็นแบบสบายๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัว โดยนายอภิสิทธิ์เล่าว่า ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้ไปไหนมาไหนกับครอบครัวน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย แต่ถือเป็นบททดสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของตนพยายามรักษาความเป็นส่วนตัว อย่างตัวภรรยา พูดชัดว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคู่สมรส แบบไม่ให้บกพร่องอย่างแน่นอน ส่วนลูกๆ จริงแล้วในระยะหลังมานี้ คือหลบ ไม่ค่อยอยากไปไหนกับตน อาจเพราะลูกเริ่มโต และไม่อยากเป็นเป้าสายตาประชาชน
ฝาก"แม้ว"คลี่ปมขัดแย้ง
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกฯ ได้กล่าวฝากความห่วงใยถึงประชาชนคนไทย ว่า หลายคนคงมีความทุกข์กับ 1 ปีที่ผ่านมาหลายๆเรื่อง แต่ในปี 2552 นี้ เราต้องมีความหวัง และต้องทำความหวังให้เป็นความจริง ตนกับรัฐบาล มีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด จะทำให้ความหวังของพี่น้องประชาชนเป็นความจริง และยังฝากไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า "ให้คิดถึงบ้านเมือง เนื่องจากบ้านเมืองและประเทศไทยของเรา น่าจะเดินไปข้างหน้าได้แล้ว บรรดาความขัดแย้งทั้งหลายในอดีต ให้เป็นเรื่องคลี่คลายกันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ท่านก็เคยเป็นอดีตผู้นำของประเทศ คงไม่อยากเห็นประเทศจมกับความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น"
มั่นใจรับมือฝ่ายค้านซักฟอกได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2552 ที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำ ว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองบริหารจัดการได้ และถือว่าเสถียรภาพของรัฐบาลนิ่งพอที่จะทำงานได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญ เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะถือเสียงที่ไม่ไว้วางใจเป็นหลัก เสียงไม่ไว้วางใจต้องเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนส.ส. และเมื่อถึงวันที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยังไม่ทราบว่าตัวเลข ส.ส.ในสภาจะเป็นอย่างไร เพราะยังมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 22 เขตเลือกตั้ง
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ถือเป็นหน้าที่ที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐสภา ต้องได้รับการตรวจสอบ แม้จะคุมเสียงข้างมาก ผมคิดว่าในวิถีทางรัฐสภา ผมในฐานะหัวหน้าพรรค และยังมีพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่น หรือเพื่อน ส.ส.ในสภา ก็ต้องมาแก้ไขปัญหาในการรวบรวมเสียงข้างมากในการที่จะเดินหน้าต่อไป ผมยังคิดว่า เรื่องสำคัญกว่าคือปัญหาของประชาชน ถึงมีเสียงข้างมาก แต่ถ้าไม่สามารถทำให้เงื่อนไขในสังคมหมดไป ก็อยู่ไม่ได้ ในทางกลับกันเสียงที่น้อย หรือเสียงปริ่มน้ำอย่างที่ว่า แต่ถ้าการทำงานดี ผมยังมั่นใจว่ายังเป็นหลักประกันที่ดีกว่าสำหรับรัฐบาล" นายกรัฐมนตรี กล่าว
วอนเอกชนเข้าใจข้อจำกัดครม.
เมื่อถามว่า ถ้าสุดท้ายรัฐบาลทำงานเต็มที่แล้ว แต่ยังถูกบีบ จะทำให้ตัดสินใจยุบสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผลประโยชน์ของบ้านเมือง หากมีความเหมาะสม เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ก็ต้องถือว่ามาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่แล้ว หากเข้ามาทำงานแล้วทำไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะทำต่อ และได้บอกสิ่งนี้กับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งจะเป็นตัวกดดันรัฐมนตรีเองในการทำงาน และยืนยันว่า หากมีรัฐมนตรีคนใดปฏิบัติไม่ถูกต้อง ก็พร้อมที่จะปรับออก เพราะหากไม่ปรับ ในที่สุดเสถียรภาพของรัฐบาลก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี เรื่องนี้ถือเป็นกติกาที่ได้พูดคุยกันตั้งแต่วันแรกที่มีการประชุมครม.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในสายตาของภาคเอกชนนั้น ต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของรัฐบาลในการตั้งรัฐมนตรี ซึ่งตนได้ไปพูดคุยมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะต้องเลือกว่าหากจะพยายามให้ได้ครม.ตามสเปคของนักธุรกิจ แล้วเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอีก จะรับไหวหรือไม่ หรือในวันนี้ขอให้รัฐบาลสร้างเสถียรภาพก่อน แล้วมีนโยบายที่ชัด มีกติกาการทำงานที่ดี แล้วเดินหน้าต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่อย่างน้อยตนก็โปร่งใสในการเปิดอกพูดคุยกับภาคเอกชนในวันที่ไปพบก่อนเสนอชื่อรัฐมนตรี
เสื้อแดงลำปางม็อบไล่"สมเกียรติ"
เวลา 13.00 น. กลุ่มเสื้อแดง จ. ลำปาง ประมาณ 300 คน นัดรวมตัวกันหน้าห้างเสรีสรรพสินค้า อ.เมือง จ.ลำปาง หลังทราบว่านายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดินทางมาร่วมประชุมกับแกนนำกลุ่มพันธมิตร ลำปาง โดยกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีและท้าทายให้นายสมเกียรติออกมาเผชิญหน้ากัน ทำให้ทางห้างปิดประตูเข้าออกด้านหน้าทันที มีตำรวจจำนวน 50 นาย คุมสถานการณ์อยู่ด้านนอก โดยเวลา 15.00 น. นายสมเกียรติ ได้มาที่ชั้น 5 ของห้างและร่วมประชุมกับพันธมิตรลำปางประมาณ 300 คน ก่อนจะออกทางด้านหลังของห้างที่เป็นลานจอดรถ ด้วยรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน และกล่าวเพียงว่า จะเดินทางไปอ.แม่สอด จ.ตก เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือที่ชัดเจนและพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
เชียงใหม่ล้อมรร.พ่อตาเนวิน
เวลา 13.45 น. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จ.เชียงใหม่ กว่า 100 คน นำรถขยายเสียง พร้อมรถสี่ล้อแดงและรถตุ๊กตุ๊ก ปิดล้อมโรงแรมรอยัลล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของนายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน ชิดชอบ หลังมีข่าวว่านายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาพักที่โรงแรมดังกล่าว เพื่อช่วยนายขยัน วิพรหมชัย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์ จ.ลำพูน หาเสียงเลือกตั้งซ่อม โดยมีตำรวจ 20 นายนำแผงเหล็กมากั้นไว้ไม่ให้บุกเข้าไปในอาคาร โดยกลุ่มเสื้อแดงปิดล้อมทางเข้าออกทุกด้านจนทำให้แขกที่มาพักไม่สามารถขับรถยนต์ออกมาได้ แต่หลังจากตรวจสอบพบว่านายไพฑูรย์เดินทางออกจากโรงแรมไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงสลายตัว เวลา 16.00 น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
