หลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายของ "รัฐบาลมาร์ค 1" ไม่มีเวลาฮันนีมูนต้องเร่งสร้างผลงานทันที เพราะมารับตำแหน่งในช่วงที่ประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ "ทีมเศรษฐกิจ" ของรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ต้องรับภาระหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างหนัก แล้วรัฐมนตรีที่ถูกจับตาเป็นพิเศษในรัฐบาลนี้ คงไม่พ้น "วีระชัย วีระเมธีกุล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลงานด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศ
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การที่ "วีระชัย" ได้รับตำแหน่ง "รัฐมนตรี" ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ ส.ส.บางคนที่ "หลุดโผ" ไม่พอใจ
ดังนั้น "วีระชัย" จึงต้องเร่งสร้างผลงาน เพื่อกลบข้อครหาเป็นตัวแทนกลุ่มทุน "เครือเจริญภัณฑ์" (ซีพี) และบริจาคเงิน 80 ล้าน เพื่อแลกกับตำแหน่ง
งานแรกที่ "วีระชัย" เตรียมผลักดันยุทธศาสตร์ที่จะร่วมทำกับประเทศจีน ในฐานะที่เคยเข้าไปทำงานธุรกิจเอกชนในประเทศจีนมานาน
โดยจะต้องดูเรื่องระยะสั้นและระยะยาว โดยปัญหาเฉพาะหน้าที่จะรับแก้ไข คือ ให้ประเทศจีนยกเลิกคำเตือนห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย อาศัยความสนิทสนมเป็นพิเศษระหว่างไทย-จีน และการทำ "โรดโชว์" โดยให้ "นายกรัฐมนตรี" เดินทางไปเปิดงานด้วยตัวเอง เพื่อยกระดับความสำคัญของการทำโรดโชว์ในประเทศจีน
นอกจากนี้ "วีระชัย" ยังมีแนวความคิดจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ในระดับที่มี "รองนายกรัฐมนตรี" เป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นกรรมการ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงาน และดูเหมือนว่า "วีระชัย" ได้เตรียมแผนงานนี้ไว้นานแล้ว เพราะได้นำเรื่องไปหารือกับ "กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ" รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรอดูการตัดสินก่อนจะพูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ส่วนทางด้านฝ่ายจีน "วีระชัย" ก็ได้คุยกับเอกอัครราชทูตจีนไป 2-3 ครั้ง และหลังแถลงนโยบายเตรียมนัดหารือกันอีกครั้ง การเร่งทำงานครั้งนี้ "วีระชัย" ต้องการพิสูจน์ตามคำที่เคยประกาศไว้ว่า พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งทันที หากมีการตรวจสอบพบการทำงานไปเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคเอกชนรายใดรายหนึ่ง
"อยากให้คนคิดว่า อย่างน้อยผมได้พยายามทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ จะทำได้มากจะทำได้น้อย เพราะมันมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยเราก็พยายามทำ ถ้าคนเข้าใจตรงนี้ได้ก็จะทำงานด้วยความสบายใจ แน่นอนเราอยากประสบความสำเร็จในการทำงาน ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันให้คนนึกถึงเราว่า เราได้ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง ดังนั้นความอดทนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบางทีเราทำงานแล้วบางคนไม่เข้าใจ เราก็ต้องอดทนและชี้แจง โดยเฉพาะการทำงานการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องอดทนเยอะ"
และที่สำคัญ การเข้ามารับตำแหน่ง "รัฐมนตรี" ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ "วีระชัย" จะต้องสร้างผลงานเพื่อพิสูจน์คำว่าตัวแทน "กลุ่มทุน" แล้ว "วีระชัย" ต้องทำงานพิสูจน์ความสามารถ เพื่อลบคำสบประมาทและกอบกู้หน้าให้แก่ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยอมถูกสมาชิกพรรคต่อว่าที่ "สอดไส้" นำชื่อกลุ่มทุนมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทนที่จะเป็น ส.ส.ของพรรค