วันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพัก ถ.จรัญสนิทวงศ์ ของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 31 ธ.ค. 2551 มีนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจและประชาชนทั่วไป ทยอยมาอวยพรแก่นายบรรหาร
เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2552 จนกระทั่งเวลา 09.00 น. นายประภัตร โพธสุธน อดีตเลขา ธิการพรรคชาติไทย นำทีมอดีต ส.ส.พรรคชาติไทย ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เข้ามอบกระเช้าดอกไม้อวยพรและขอพรปีใหม่จากนายบรรหาร โดยกล่าวว่า อยากให้นายบรรหารเป็นมังกรสวรรค์ เป็นที่พึ่งของอดีตพรรคชาติไทย และอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป ขณะที่นายบรรหารตอบกลับว่า ไม่คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิทธิการเมืองทั้งพรรคและคน ยอมรับผิดที่ไม่สามารถรักษาพรรคไว้ได้ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ต่อไป เวลา 5 ปี ถือว่าไม่นาน
จากนั้น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา มอบกระเช้าดอกไม้อวยพรปีใหม่ ให้นายบรรหาร
พร้อมกล่าวว่า จะนำสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา 13 คน ที่รอดมาได้สู้ต่อไป จะช่วยดูแลเรือลำใหม่ ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ซึ่งนายบรรหารตอบว่า ก่อตั้งพรรคชาติไทยมา 34 ปี และรู้จัก พล.ต.สนั่นมา 28 ปี รู้สึกประทับใจ พล.ต.สนั่นมาตลอด แม้ไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังช่วยเหลือกันมาตลอด คนเราสำคัญที่สุดคือ เรื่องสัจจะ-กตัญญู ที่ทำให้คบกันได้นาน ปัญหาที่เกิดก็เพราะ คนไม่มีสัจจะ ตนยึดถือความมีสัจจะมาตลอด ขอฝาก พล.ต.สนั่นให้ดูแลพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป อยากบอกว่า พล.ต.สนั่นเป็นคนดีมากที่สุด เรียกว่า เป็นเพื่อนตายก็ได้ สถานการณ์ขณะนี้อยากจะร้องเพลง “เย้ยฟ้าท้าดิน” ที่บอกว่า “ฟ้าหัวเราะเยาะเย้ย” แต่ขอเปลี่ยนเป็น “ฟ้า หัวเราะช่วยข้าที” วอนคนไทยหยุดแบ่งแยกฝ่าย
ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่บ้าน ถ.จรัญสนิทวงศ์ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงข่าวว่า ปีใหม่นี้ ขอให้ประชาชนสามัคคีกัน อย่าแบ่งฝ่าย เป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง เพราะประเทศแย่มาพอแล้ว
ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.นั้น เห็นด้วยที่รัฐบาล ไม่สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่เป็นห่วงเรื่องการนำข้อตกลงกรอบอาเซียนเสนอต่อสภาฯในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ที่จะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และขอวิงวอนกลุ่ม นปช.ช่วยเปิดโอกาส เพราะเรื่องที่นำเข้าสภามีความสำคัญต่อชาติ ไม่เช่นนั้นภาพพจน์ประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ ส่วนการเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลที่ถูกวิจารณ์ว่าทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จนอาจเป็นโมฆะนั้นเมื่อแถลงไปแล้ว จะผิดถูกอย่างไร ต้องไปว่ากันอีกที ถ้าไม่แถลงก็ทำงานไม่ได้ เป็นเรื่องน่าเห็นใจรัฐบาล ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องทำแบบนี้ ถ้ารัฐมนตรีจะถูกแรงเสียดทานต่อต้านในการลงพื้นที่ ตัวอย่างในอดีตเคยมีมา เขาก็เอาบ้าง เรียกว่าขนมจีนผสมน้ำยา ดังนั้นต้องใช้ความอดทน
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่านโยบายรัฐบาลไม่แตกต่างกับนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว นายบรรหารตอบว่า จำเป็นต้องเหมือน สถานการณ์ยามนี้ต้องนำเม็ดเงินลงไประดับล่าง ไม่มีวิธีใดดีกว่านี้
ความจริงทำน้อยไป ถ้าเป็นตนจะทำมากกว่านี้ เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีอายุอยู่ได้นานหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า ขอให้รัฐบาลทำงานให้ดีทุกด้าน ครม.ทำงานถึงลูกถึงคน ก็จะอยู่ได้นาน หากรัฐบาลทำดี ประชาชนจะเห็นใจเอง เมื่อถามว่า การปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แต่ รัฐธรรมนูญปี 2550 บางมาตราใช้ไม่ได้ ถ้าปล่อยให้มี การเลือกตั้งก็จะวุ่นวายเหมือนเดิม จึงต้องปรับปรุงข้อบกพร่อง เช่น รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญแล้วจะเป็นจะตายให้ได้ หากบ้านเมืองไปไม่รอดจะทำอย่างไร ขณะนี้มีนอมินีเกิดทั่วประเทศ ไม่มีใครกล้าเป็นกรรมการบริหารพรรค เอาตาสีตาสามาเป็นแทน ใช้ได้ที่ไหน การเมืองยิ่งแย่ลง แทนที่จะพัฒนาให้เหมือนต่างประเทศ ก็เหมือนการเมืองชาวบ้าน พรรคประชาธิปัตย์ก็มีกรรมการบริหารพรรค 18 คน เป็นใครก็ไม่รู้ พรรคประชาธิปัตย์คราวหน้าก็ต้องระวังตัว เจอใบแดงใบเดียวก็เจ๊ง