เบื่อม็อบ

มีสติ๊กเกอร์คำขวัญของม็อบเสื้อแดง ประมาณว่า "เบื่อพันธมิตร" ใช่เลย ถูกต้อง กระแสสังคมตอนม็อบพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบฯ ยืดเยื้อ และลามหนักไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิกับดอนเมือง

ผู้คนเบื่อม็อบพันธมิตรฯ จริง เหมือนที่ม็อบเสื้อแดงว่านั่นแหละ

ดูจากโพลที่เพิ่งสำรวจออกมา ชาวบ้านเข็ดขยาดม็อบพันธมิตรฯ จนกระแสความนิยมดิ่งเหว ไม่ค่อยจะมีแนวร่วมจากฝ่ายเป็นกลางมาสนับสนุนเหมือนตอนกำเนิดม็อบใหม่ๆ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ม็อบเสื้อแดงต้องรับรู้ไว้

ว่าอารมณ์เบื่อม็อบนั้น ไม่ได้จำกัดแค่ม็อบพันธมิตรฯ

แต่เบื่อลามไปถึงฝ่ายพวกคุณเสื้อแดงด้วย

ความเบื่อม็อบไม่เลือกหน้านั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่องค์ประกอบอื่นๆ ก็ไม่เอื้อให้กับการประท้วงทางการเมืองไปเสียทั้งสิ้น

กล่าวคือ นอกจากคนเสื้อแดง คนรักทักษิณ และเครือข่ายของพรรคเพื่อไทยแล้ว

อารมณ์หรือกระแสสังคมทั่วไป อยากให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้บริหารประเทศก่อน

ทุกคนรับรู้ถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ก่อตัวจากอีกฟากโลก และลุกลามมาถึงเมืองไทยแล้ว

โรงงานแล้วโรงงานเล่า ปลดคนงานแบบยกกระบิ

ความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังขยายตัวทุกขณะ

สภาพเช่นนี้ คนไทยย่อมต้องการให้รัฐนาวาฝ่าคลื่นลมไปได้

สังคมต้องการความร่วมมือร่วมใจ ในการตั้งรับภาวะข้าวยากหมากแพง

แค่ไม่มีม็อบ ก็ถือเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติแล้ว

ม็อบเสื้อแดงควรทำใจยอมรับให้ได้ ว่าชื่อทักษิณนั้นกลายเป็นอดีตแล้ว

ตราบใดที่ไม่รีบกลับมารับโทษอาญาที่ก่อไว้ เพื่อจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง

เท่ากับเวลา จะค่อยๆ พรากตัวพ.ต.ท.ทักษิณให้ห่างไปจากมวลชนที่รักเขา

อีกประเด็นที่ไม่เอื้อต่อม็อบเสื้อแดง ก็คือช่วงเวลา

บรรยากาศของการเฉลิมฉลองปีใหม่ ที่จะมีวันหยุดยาวให้เที่ยวพักผ่อนกัน ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษของปีนี้

คงจะกระชากอารมณ์ผู้คนไม่น้อย หากว่าวันแถลงนโยบายต่อสภาของรัฐบาลอภิสิทธิ์ 29-30 ธ.ค.นี้

เกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการปะทะกันนองเลือดแถวหน้ารัฐสภา

แก๊สน้ำตา กระบอง โล่ ตลอดจนก้อนอิฐตัวหนอน ควรจะมีกาลเทศะในการห้ำหั่นกันด้วย ไม่ใช่ลุยกันไม่เลือกจะเป็นวันปีใหม่หรือสงกรานต์

รัฐบาลหรือตำรวจ ที่มองว่าจำนวนคนเสื้อแดงหนนี้อาจมากันไม่มากนัก ไม่น่าก่อปัญหาวุ่นวายน่าหนักใจ

จริงๆ แล้ว ความวุ่นไม่วุ่นอาจไม่ได้ขึ้นกับจำนวนคนอย่างเดียว แต่ขึ้นกับอารมณ์ของม็อบด้วย

ม็อบแค่ไม่กี่ร้อย ถ้าดุเดือดเอาจริง

รับรองว่าวุ่นกว่าม็อบนับหมื่นที่ชุมนุมโดยสันติ