ตีนตบฮือขับไล่ เทพเทือกเผ่น


จี้"มาร์ค"ปลด"กษิต" สปน.เร่งทำคดีพธม.

"เทพเทือก"เจอดีจนได้ โดนม็อบเสื้อแดงถือตีนตบแห่ไล่ที่อุบลราช ธานี เผยม็อบนปช.ครึ่งร้อยฮือประ ท้วงหน้าโรงแรมจนเจ้าหน้าที่ต้องพา"เทพเทือก"เผ่นออกด้านหลังโรงแรม อดีตส.ส.ชาติไทยจี้มาร์คปลดกษิตพ้นเก้าอี้รมต.ต่างประเทศ ชี้ไม่เหมาะที่รมต.เห็นด้วยกับการยึดทำเนียบ ส่วนรมต.กษิตแจงคณะทูตหลายประเทศให้มั่นใจในความปลอดภัยของสนามบิน จี้จีนยกเลิกคำเตือนห้ามมาเมืองไทย สปน.เร่งดำเนินคดีพันธมิตรยึดทำเนียบ คาดหลังปีใหม่สรุปความเสียหายได้ทั้งหมด แฉแกนนำพธม.ต่อรองขอให้ถอนคดีบุกรุก แต่ไม่เคยรับปากว่าจะชดใช้ค่าเสียหาย แกนนำนปช.ประกาศชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงก่อนเคลื่อนพลไปที่สภากดดันมาร์คยุบสภา ขู่แฉปชป.เรื่องเงิน 300 ล้าน

-กษิตยาหอมทูต-คุมเข้มสนามบิน

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ คณะทูตจากนานาประเทศเข้าเยี่ยมคารวะนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยนายอีริก จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบว่า หารือนโยบายหลักในภูมิภาคทั้งในด้านการค้าและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ของนายกษิตที่ใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตร จะส่งผลกระทบกับการทำงานหรือไม่ นายอีริกกล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นว่านายกษิตชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว และเชื่อว่าน่าจะชัดเจนมากขึ้นในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยส่วนตัวรู้จักกับนายกษิตมากว่า 3 ปีจากที่ดำรงตำแหน่งเอกอัคร ราชทูตมาแล้ว 5 ประเทศ เห็นว่านายกษิตมีความเหมาะสมกับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศมากที่สุดคนหนึ่ง ไทยและสหรัฐต่างมีเป้าหมายตรงกันที่อยากเห็นรัฐบาลที่โปร่งใสและทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

นายกษิตกล่าวว่า หารือกับทูตสหรัฐถึงแนวทางคลี่คลายปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ซึ่งไทยจะตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหานี้และเพื่อแสดงถึงความจริงใจในการแก้ปัญหาโดยทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ตนยังให้ความมั่นใจด้านการดูแลความปลอดภัยสนามบินด้วย ซึ่งตนเสนอแนะให้รองนายกรัฐมนตรีเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งสนามบินและสถานที่ต่างๆ แล้ว อีกทั้งยังจะบรรจุเรื่องนี้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งสัญญาณความเชื่อมั่นไปยังนานาชาติ

-จี้จีนยกเลิกคำเตือนห้ามมาไทย

ต่อมาคณะเอกอัครราชทูตอาเซียน 9 ประเทศ เข้าพบนายกษิต โดยนายอันโตนีโอ วี. โรดริเกซ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทนอาเซียนหวังว่า รัฐบาลใหม่ของไทยจะมีความมั่นคงในระยะยาวเพราะสถานการณ์ในไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออาเซียน พร้อมทั้งอวยพรให้รัฐบาลประสบความสำเร็จในการทำงานในฐานะประธานอาเซียนด้วย ขณะนี้ ประเทศไทยเสนอเวลาไป 2 ช่วงสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน คือ 20-22 ก.พ. และปลายเดือนก.พ.ถึง 1 มี.ค. 2552 พร้อมยืนยันว่าอาเซียนจะเป็นหลักในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทย ส่วนการดำเนินความสัมพันธ์ทวิภาคีจะแก้ปัญหาด้วยการพูดจาสันติวิธีและจะไม่ดำเนินนโยบายความสัมพันธ์หรือการทูตผ่านจอทีวี หากมีอะไรก็โทรศัพท์มาพูดจาหรือพบปะกัน ไม่ควรบอกกล่าวกันผ่านสื่อ การเป็นเพื่อนก็ควรจะพูดกันตรงๆ ได้

ขณะที่นายจาง จิ่วหวน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า นำจดหมายแสดงความยินดีจากรัฐมนตรีต่างประเทศจีนมามอบให้ และย้ำว่าไทยและจีนมีความสัมพันธ์อันดีและเป็นมิตรกันตลอดมาซึ่งทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่าจะต้องพยายามผลักดันความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคีและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ให้พัฒนาต่อไป ตนเห็นว่าปัจจุบันสถานการณ์ในไทยกำลังเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งทางการจีนกำลังเชื้อเชิญคนจีนให้กลับมาเที่ยวประเทศไทยในเร็วๆ นี้ และจีนพร้อมสนับสนุนไทยในฐานะประธานอาเซียนด้วย

ส่วนนายกษิตกล่าวว่า ขอให้รัฐบาลจีนโดยเฉพาะกระทรวงท่องเที่ยว เร่งรัดตัดสินใจเรื่องการเตือนคนจีนไม่ให้มาเที่ยวไทยหลังเกิดเหตุยุ่งเหยิงที่ผ่านมา แต่ขณะนี้เสถียรภาพกลับมาแล้ว รัฐบาลไทยสามารถให้ความมั่นใจต่อพี่น้องชาวจีนได้ว่ามาเที่ยวไทยแล้วปลอดภัย ไทยพร้อมและยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจีนให้กลับมาประเทศไทย

-จี้"มาร์ค"ปลด"กษิต"พ้นรมต.

นายเอกพจน์ ปานแย้ม อดีตรองโฆษกพรรคชาติไทย กล่าวถึงนายกษิตระบุพูดเรื่องอาหารดี ดนตรีดีจริง ซึ่งเป็นการพูดบนเวทีพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ได้พูดที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า ไม่อยากให้นาย กษิตเป็นคนไขสือ พลิกลิ้น ในเมื่อม็อบชุดที่ยึดทำเนียบกับสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพันธมิตรเหมือนกัน ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศมากเพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศทั่วโลก และการเสนอข่าวการชุมนุมของพันธมิตรที่ผ่านมานั้นเสนอไปทั่วโลกในลักษณะเป็นการก่อการร้ายต่อประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกว่าสนุก

นายเอกพจน์กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องเข้าตัวของทั้งนายกฯ และนายกษิตเอง นายกฯพยายามปกป้องว่าพูดก่อนได้รับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ซึ่งไม่ต่างจากนายกษิตระบุพูดขณะที่ม็อบอยู่ในทำเนียบ ไม่ได้อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อเป็นการพูดของคนๆ เดียวกัน ม็อบชุดเดียวกัน ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสและทำได้ดีกว่านี้น่าจะรีบทำ ไม่ใช่ทำออกมาให้ดูว่าเป็นลักษณะการตอบแทนกัน รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ควรมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่านี้

นายเอกพจน์กล่าวว่า นายกฯ ต้องดูเรื่องนี้เป็นสำคัญ เพราะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ความจริงคนในพรรคประชาธิปัตย์เหมาะสมจะนั่ง รมว.ต่างประเทศมีอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แต่กลับไปดึงเอาคนนอกที่มีอคติ คนที่พัวพันกับกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทุกฝ่ายย่อมรู้ที่มาของนายกษิตดีอยู่แล้ว ถ้านายอภิสิทธิ์ยังปล่อยให้เป็นอยู่ในสภาพนี้ต่อไปรัฐบาลยิ่งจะมีปัญหา ดังนั้น นายกฯ ต้องทบทวนโดยเร็วเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม นายกฯ ไม่ควรเปลืองตัวอีกต่อไป อยากให้นายกฯ พิจารณาปลดนายกษิตโดยเร็ว โดยการปรับ ครม.ทันที ไม่ต้องให้เวลาหรือให้โอกาสอีกต่อไปแล้ว เพราะยิ่งจะสร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อสายตาชาวโลก นายกษิตไม่ควรมานั่งบริหารงานประเทศอีกต่อไป และนายกฯ ต้องรีบพิจารณา

-สปน.เร่งดำเนินคดีพันธมิตร

เวลา 11.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรกรณีทำลายทรัพย์สินของทางราชการว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอฟังการสรุปผลสำรวจความเสียหายจากคณะกรรมการสำรวจความเสียหายที่มีนายวัชระ เพ่งผล ผู้ตรวจราชการฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการ สรุปตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง จากนั้นจึงจะมอบให้สำนักงานคดีกฎหมายรับไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งสำนักปลัดฯ ได้ประสานกับตำรวจท้องที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สาเหตุที่เราต้องแจ้งความดำเนินคดีเพราะทรัพย์สินที่สูญหายเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ถ้าสำนักปลัดฯ ไม่แจ้งความจะต้องรับผิดเองทั้งหมด จึงต้องแจ้งความเพื่อหาผู้รับผิดชอบ คาดว่าจะแจ้งความได้ภายในวันที่ 5-6 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีเพียงทรัพย์สินราชการและของข้าราชการเท่านั้น ส่วนเอกสารสำคัญต่างๆ นั้น จากการสำรวจแล้วพบว่าไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

เมื่อถามว่านายกฯ ได้ให้นโยบายในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายนัทีกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อถามว่าจะแจ้งความกับแกนนำผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่ นายนัทีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนไม่ทราบว่ามีใครเป็นแกนนำเข้ามาทำความเสียหายบ้าง ส่วนแจ้งความไปแล้วจะหวังผลแพ้ชนะทางคดีได้หรือไม่นั้น อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการจะพิจารณาว่าสำนวนหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอจะจัดการและสาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้มากน้อยแค่ไหน

-แฉพธม.ขอให้ถอนคดีบุกรุก

ต่อข้อถามว่า แกนนำพันธมิตรได้ติดต่อเข้ามาเพื่อแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้บ้างหรือไม่ นายนัทีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อมาเพียงครั้งเดียว เพื่อให้สำนักปลัดฯ ถอนแจ้งความในข้อหาบุกรุกทำเนียบ แต่เรื่องการชดใช้ค่าเสียหายไม่ได้พูดถึง

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ว่ามีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลมาจากพันธมิตรจะทำให้การดำเนินคดีมีปัญหา นายนัทีกล่าวว่า พูดได้เพียงว่าไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาแต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปคงอยู่กันลำบาก

เมื่อถามถึงข่าวตำรวจไม่รับแจ้งความ และล่าสุดพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ผบ.ตร. ระบุถ้าหลักฐานไม่เพียงพอก็แจ้งความไม่ได้ ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะพูดคุยกับพล.ต.อ.จงรักด้วยตนเอง เพราะเรามีหลักฐานเป็นบัญชีรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งรูปถ่ายจากตำรวจที่ยืนยันได้ว่าทรัพย์สินสูญหายจริง ดังนั้นตำรวจจะไม่รับแจ้งความไม่ได้

ด้านนายวัรชะ เพ่งผล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายพบว่ามีส่วนทรัพย์สินของทางราชการส่วนกลาง ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปาและกล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหายจำนวนมากรวมมูลค่า 12 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีความเสียหายของข้าราชการ คาดว่าจะสรุปทั้งหมดได้หลังจากปีใหม่นี้

-มาร์คยังเชื่อม็อบต้านไม่รุนแรง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพบชมรมคนรักอุดรว่า ขณะนี้พยายามทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มว่าอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า แต่ใครอยากมาแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกก็ทำได้ เท่าที่ฟังดูขณะนี้ยังเรียบร้อยดี การมาชุมนุมเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ดูแล้วไม่น่ามีอะไรรุนแรง

เมื่อถามว่าการที่นายสมชายลงไปยังจังหวัดอุดรฯ ถือว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสมชายคงมีความคิดของท่านเอง แต่รัฐบาลจะยึดถือผลประโยชน์ของส่วนรวม และขอให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้ ยังเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้เราก้าวพ้นเรื่องความขัดแย้ง ตนและรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าเราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกกลุ่มและจะดูแลเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตยโดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม จึงอยากให้รัฐบาลเดินหน้าในเรื่องเหล่านี้ได้

ต่อข้อถามว่า ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายปฏิบัติอย่างไรในการดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดความรุนแรง นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีความชัดเจนว่าให้เก็บเกี่ยวบทเรียนเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. แม้แต่คณะกรรมการสอบสวนชุดต่างๆ ก็เห็นตรงกัน คือเจ้าหน้าที่ต้องให้ความระมัดระวังศึกษาขั้นตอนเรื่องการชุมนุม การจัดการการชุมนุมให้ได้ตามมาตรฐานสากล บุคลากรก็ต้องได้รับการฝึกฝนมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน

-ยังย้ำให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ายังจะไม่มีการเปลี่ยนสถานที่ประชุมในการแถลงนโยบายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ประธานรัฐสภาทำหนังสือนัดประชุมที่อาคารรัฐสภา เมื่อถามว่าทางกลุ่มเพื่อนเนวินได้ช่วยแก้ปัญหาด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่าได้ประสานไปยังแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมบ้างหรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พยายามทำทุกทาง ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนย้ำมาตลอดใน 3 ประเด็น คือเรื่องของคดีความ เรื่องการปฏิรูปการเมืองที่ให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม และการทำงานของรัฐบาลที่พร้อมทำให้กับคนทุกกลุ่มทุกภาค

เมื่อถามว่าแต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่สร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกระบวนการ แต่เมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้วตนจะพิจารณาการมีกลไกเสริมเข้าไปช่วยให้ทุกฝ่ายได้เห็นถึงภาพรวมของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งปี ซึ่งจะมีเรื่องการสนับสนุนองค์กรอิสระ และถ้าจำเป็นต้องมีกลไกอะไรพิเศษก็จะพิจารณา

เมื่อถามว่า แสดงว่าจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนระดับชาติตามที่ได้รับปากไว้กับกลุ่มเอ็นจีโอใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องสอบถามหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในเรื่องนี้ก่อนว่าคืบหน้าไปแค่ไหนอย่างไร ที่ผ่านมามีคณะกรรมการและหน่วยงานหลายชุดที่ทำหน้าที่ ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ตำรวจและป.ป.ช. รวมทั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

-มท.1 เชื่อเสื้อแดงมาไม่มาก

ที่สโมสรกองทัพบก นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเฝ้าจับตาดูกลุ่มนปช.ที่อาจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และปิดล้อมสภาในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันที่ 29-30 ธ.ค.ว่า เชื่อว่าผู้ชุมนุมยังมีจำนวนไม่มาก ซึ่งเป็นหน้าที่ทางตำรวจที่ได้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ส่วนตนไม่ได้วิตกกังวลเพราะเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรง กลุ่มผู้ที่มาชุมนุมน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าอะไรดีหรือไม่ดี ส่วนที่ว่าจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือจังหวัดไหนนั้น ก็ได้สั่งการเพียงให้ผู้ว่าฯ รายงานทุกจังหวัด ไม่ได้เจาะจงจังหวัดไหน

เมื่อถามว่ากลุ่ม นปช.ประกาศจะชุมนุมไปจนกว่ารัฐบาลจะยุบสภา นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่น่าห่วงอะไร เพราะทุกคนรู้หน้าที่กันอยู่แล้วว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ไม่ได้ห้ามการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย แต่ขอให้ชุมนุมอยู่ในวินัยที่เรารับได้ ถ้าเป็นการชุมนุมถูกต้อง เราให้ความสนับสนุนด้วย ส่วนกรณีหากวันแถลงนโยบายไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้จะมีการเปลี่ยนวาระการประชุมหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกทีเป็นเรื่องที่ประธานสภาจะต้องวินิจฉัย และจะมีการประเมินครั้งสุดท้ายว่าควรจะมีการเปลี่ยนสถานที่ประชุมหรือไม่ เมื่อใกล้ๆ ช่วงเวลาประชุม

-วอนเสื้อแดงให้โอกาสรัฐบาล

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือสถานการณ์วันที่ 29 ธ.ค.ที่รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาลว่า แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยนายกฯ แจ้งทุกฝ่ายไปแล้วว่าให้เตรียมการตามปกติ หากชุมนุมสงบ ปราศจากอาวุธ สามารถชุมนุมได้ แต่ถ้าเกิดความรุนแรงเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการจัดการ แต่ถ้ามีเหตุการณ์วุ่นวายอย่างวันที่โหวตเลือกนายกฯ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะจัดการเพื่อทำให้เหตุการณ์คลี่คลายและเกิดความเรียบร้อย โดยแนวทางคือไม่ให้เกิดความรุนแรง ถ้าแถลงได้ให้ทำต่อไป ถ้าทำไม่ได้หารือกันแล้วว่าจะต้องเลื่อนออกไป ซึ่งหารือกับประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว

"การแถลงนโยบายครั้งนี้จะแตกต่างจากในยุคของนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายไปมากแล้ว และประชาชนอยากเห็นความสงบ ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย และขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงในหลายจังหวัดที่ประกาศจะให้โอกาสรัฐบาลก่อน ถ้าทุกฝ่ายให้โอกาสรัฐบาลจะต้องทำงาน และเหตุการณ์ความไม่สงบถ้าเบาลงก็เป็นผลดีกับประเทศโดยรวม การข่าวของเจ้าหน้าที่นั้นมีรายงานการลงพื้นที่ไปปลุกระดมอยู่เหมือนกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแล และกระทรวงมหาดไทยพยายามประสานกันอยู่ และมีส่วนที่เจรจาเพื่อขอร้องให้โอกาสรัฐบาลก็ทำอยู่โดยฝ่ายต่างๆ รัฐบาลไม่ได้หวั่นไหว นายกฯอยากให้ทุกอย่างราบรื่น และเป็นการขอความร่วมมือที่จะทำให้ประเทศสงบและเดินไปข้างหน้ารัฐบาลจะได้ทำงาน" นายสาทิตย์กล่าว

-บุญจงสั่งเตรียมพร้อมวันแถลง

ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาที่หน้ารัฐสภาในวันแถลงนโยบายรัฐบาลว่า จากรายงานพบว่าในบางพื้นที่มีการชุมนุมกันอยู่บ้างพอสมควร ซึ่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นการแสดงความเห็นตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และไม่ได้จับตามองจังหวัดไหนเป็นพิเศษ เท่าที่ติดตามสถานการณ์เชื่อว่าประชาชนทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และเชื่อว่าประชาชนเคารพกฎหมาย หากจะเดินทางมาคงไม่มีใครไปควบคุมได้ ตนได้แต่ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวก เช่น การจัดรถสุขาเคลื่อนที่ และหน่วยพยาบาลเตรียมไว้ สำหรับเหตุผลที่ให้แต่ละจังหวัดรายงานเข้ามาทุก 6 ชั่วโมงนั้น เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยได้รับทราบและรายงานข้อมูล จะได้หาทางดูแล หากรู้ข้อมูลก่อนที่ประชาชนจะเคลื่อนไหวปิดถนน จะหาทางแก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้าได้ เมื่อถามว่าจะร้องขอให้ทหารมาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยหน้ารัฐสภาหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า แล้วแต่ประธานสภาจะพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย (ศปก.มท.) ได้รายงานสถานการณ์ของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองและกลุ่มเกษตรกรที่เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาพืชผล โดยที่จังหวัดยโสธรมีรายงานว่า กลุ่มพังพอนยโสธร มีนายสนอง สมปัญญา และนายวิรัช ทองบ่อ เป็นแกนนำ มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 10 คน ซึ่งแกนนำกลุ่มแจ้งบนเวทีปราศรัยว่าได้จัดเตรียมรถตู้ 1 คัน เพื่อนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมที่ กทม. ในวันที่ 28 ธ.ค. โดยจะออกเดินทางวันที่ 27 ธ.ค.

-เสื้อแดงหลายจว.เริ่มเข้ากรุง

ที่ จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่า นางกัญญาภัค มณีจักร แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้จัดสถานที่ลงทะเบียนแสดงความต้องการที่จะมาร่วมชุมนุมที่ กทม. โดยแกนนำกลุ่มตั้งเป้าไว้ที่ 500 คน ขณะนี้มีคนมาลงทะเบียนไว้แล้ว 70 คน และเตรียมรถโดยสารปรับอากาศไว้แล้ว 10 คัน โดยจะเดินทางวันที่ 27 ธ.ค.ซึ่งแกนนำยืนยันว่าจะชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะยุบสภา สำหรับการปราศรัยหน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ อ.เมืองเชียงใหม่ และมีการถ่ายทอดสัญญาณเสียงผ่านวิทยุชุมชน คลื่นเอฟเอ็ม 92.5 มีมวลชนมาร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 100 คน โดยมีเนื้อหากล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มแจ้งว่าจะมีมวลชนจาก จ.ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน ชลบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น และบุรีรัมย์ เดินทางมาร่วมชุมนุมที่ กทม.เป็นจำนวนมาก

ที่ จ.สระบุรี มีรายงานว่านายกัณตภณ เฉลิมยุทธ ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมหินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้นัดสมาชิกในกลุ่ม 60-70 คน เพื่อเตรียมชุมนุมปิดถนน สายพหลโยธิน ช่วงระหว่าง ต.หินกอง อ.หนองแค ถึง อ.เมืองสระบุรี เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาน้ำนมโคล้นตลาด ซึ่งทางจังหวัดได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุม

-เสื้อแดงอุบลฯฮือไล่"เทพเทือก"

เวลา 14.15 น. ที่หน้าโรงแรมลายทอง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มีกลุ่มชาวบ้านเสื้อแดงประมาณ 50-60 คน นำโดยนายธีระภัทร วัชรพล หรือดีเจ.ต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่ม นปช. จ.อุบลราชธานี มารวมตัวขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาทำภารกิจส่วนตัวที่ อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อช่วงเช้า และแวะเข้ามารับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรมดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงชุดแรกประมาณ 20 คนมาถึง เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของนายสุเทพได้นำนายสุเทพเดินออกไปทางด้านหลังโรงแรมที่เป็นลานจอดรถ และนำรถตู้สีขาวพร้อมด้วยรถสปอร์ตไรเดอร์สีเขียวที่เป็นรถคุ้มกันมารับนายสุเทพออกไปจากโรงแรม โดยชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดงพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงมารวมตัวที่หน้าโรงแรมตะโกนด่าทอนายสุเทพและพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ สภ.เมืองอุบลราชธานี มาคอยควบคุมดูแลความสงบ

ต่อมานายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.อุบลราชธานี และพล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้รุดเข้ามาเจรจาขอร้องไม่ให้ชาวบ้านเสื้อแดงสร้างความวุ่นวายและความเสื่อมเสียชื่อเสียงของจังหวัด สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่มาประท้วง แต่ได้พากันสลายตัว พร้อมขู่ว่าจะเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวนายสุเทพขณะที่มาอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี เพราะถือเป็นพวกโจรปล้นส.ส.ของพรรคอื่น

-ตร.ประเมินมากันไม่เกิน 2 หมื่น

ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่ม นปช.ซึ่งมีนัดชุมนุมใหญ่ท้องสนามหลวงตั้งแต่คืนวันที่ 28 ธ.ค.นั้น จำนวนคนที่จะมาเราจะประเมินอีกครั้งวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ตามข่าวหลายฝ่าย เช่น กลุ่มชมรมคนรักอุดรจะไม่มา ถ้าเป็นจริงก็จะทำให้คนมาร่วมชุมนุมไม่น่าจะมากเท่าไร ส่วนที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไปพบแกนนำคนรักอุดร เรารู้ว่าไปพบ แต่ไม่รู้เรื่องอะไร การข่าวเราจะต้องติดตามวันต่อวันในช่วงนี้

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมของนครบาล ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนระดับ ผบ.หมู่ ผบ.หมวด ผบ.ร้อย ไปฝึกทบทวนที่สนามฝึกศาลายา จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 25-26 ธ.ค. จากนั้นจะให้พักผ่อนก่อนเป็นเวลา 48 ช.ม. ส่วนที่ผบ.ตร.บอกว่าจะให้คนมาชุมนุมที่หน้ารัฐสภาได้แค่ 2 หมื่นคนนั้น ไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าคนจำนวน 2 หมื่นคนมาจะสามารถยืนได้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามรัฐสภาด้านสวนสัตว์ดุสิต จะไม่ข้ามมาฝั่งรัฐสภา เท่าที่ทราบจะไม่มีการปิดประตูทางเข้า-ออกรัฐสภา ส่วนจะชุมนุมอย่างไร เราก็ต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อยในการชุมนุม การประชุมรัฐสภาที่กำหนดแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 29 ธ.ค.เท่านั้น ไม่มีการประชุมสภาต่อ ณ เวลานี้ตำรวจยังไม่จำเป็นต้องประกาศปิดการจราจร โดยเฉพาะถนนราชวิถี เราจะต้องดำรงไว้เพื่อเป็นเส้นทางเสด็จฯ ด้วย สำหรับอิฐตัวหนอนพื้นที่โดยรอบสภาได้ให้ดูแลเอาไว้อย่างดีแล้ว

-จตุพรโวยเสื้อแดงตัวปลอม

ก่อนหน้านี้ เวลา 12.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำ นปช. ร่วมแถลงความพร้อมในการชุมนุมของกลุ่ม นปช.บริเวณหน้ารัฐสภา

นายจตุพรกล่าวว่า วันที่ 28 ธ.ค.นี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดรวมตัวกันที่สนามหลวง ก่อนจะเคลื่อนไปที่รัฐสภา ทั้งนี้ ทราบว่าที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่รัฐบาลพยายามใช้กลไกเดียวกับที่คมช.สกัดกั้นประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. ซึ่งอยากบอกว่านอกจากจะมีธนบัตร 1,000 บาทปลอมแล้ว ยังมีพวกเสื้อแดงปลอม ที่ไปบอกกับประชาชนว่าจะไม่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กทม. ทั้งที่ตนไม่เคยไปชักชวนให้มาร่วมชุมนุม ดังนั้น ถ้าวันดังกล่าวจะมีการใช้ความรุนแรง ใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม ถ้ารัฐบาลอยากท้าทายเสียงสวรรค์ก็เชิญ

"การที่รัฐมนตรีกระจงหลงทางที่นักการเมืองกลุ่ม 16 เคยจับได้แถวๆ จ.ภูเก็ต ตั้งด่านสกัดมากเท่าไหร่ประชาชนยิ่งจะต่อต้าน ขอบอกรัฐมนตรีกระจงว่า ไม่มีทางไปสกัดคนเสื้อแดงได้ แต่ถ้าจะทำต้องไปล็อกประตูบ้านคนเสื้อแดงทุกคน" นายจตุพรกล่าว

-ขู่แฉปชป.เรื่องเงิน 300 ล้าน

นายจตุพรกล่าวว่า ในการชุมนุมวันที่ 28 ธ.ค. คนเสื้อแดงได้ประสานให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ร่วมเวทีปราศรัย นอกจากนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เคยอภิปรายถึงกรณีบริษัททีพีไอสร้างหลักฐานเท็จ โดยตั้งบริษัทประชาสัมพันธ์บริษัทหนึ่งที่มีรายรับไม่กี่ล้านบาท ก่อนจะโอนเงินรายได้ให้พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตร ซึ่งนายสุนัยเคยนำหลักฐานสลิปการเบิกจ่ายเงินมายื่นให้ส.ส.ปชป.เพื่อเป็นการยืนยัน แต่ปรากฏว่าเรื่องเงียบกริบทุกคน ดังนั้นในวันปราศรัยจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาปราศรัยด้วย

ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเชิญชวนคนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปที่ต้องการทราบความจริงเรื่องเงิน 200-300 ล้านบาท ที่ไหลเข้าพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีการแจ้งให้ กกต.ทราบหรือไม่ รวมทั้งการแจกจ่ายเงินนอกระบบภายในพรรคประชาธิปัตย์ การยักยอกเก้าอี้รัฐมนตรีไปให้กับนายทุนและทหาร ให้มารับฟังได้ในวันดังกล่าว เพราะจะมีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกให้กับประชาชนได้รับทราบ ซึ่งระหว่างการปราศรัยตนอยากให้นาย อภิสิทธิ์อยู่ใกล้ๆ รมว.สาธารณสุขไว้ เพราะถ้าเป็นลมจะได้เตรียมหาหยูกหายาเอาไว้ได้ทัน ส่วนรัฐมนตรีที่ขยันออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมนั้น ยิ่งออกมาพูดมากเท่าไหร่เหมือนจะยิ่งเชียร์แจก ยิ่งทำคนยิ่งมาเยอะ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบสันติ ปราศจากอาวุธ

-จยย.เสื้อแดงบุกร้องปชป.

เมื่อถามถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล คนชื่อ "ดิ่ง" ว่าเป็นคนชวนแกนนำชาวบ้านไปเก็บตัว จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 27 ธ.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้เดินทางมาร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องถามนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ว่ารู้จักชื่อบุคคลที่ตนเคยบอกผ่านสื่อหรือไม่ แต่ยืนยันว่าบุคคลนี้มีตัวตนจริง และมีพฤติกรรมเชิญชวนแกนนำชาวบ้านไปเก็บตัวอยุธยาจริง ถ้ายังไม่เชื่อให้ย้อนไปดูข่าวเก่า สมัยปิดล้อมสำนักข่าวเนชั่น

แหล่งข่าวจากแกนนำ นปช.ถึงบุคคลชื่อนายดิ่งว่า บุคลลดังกล่าวเคยเป็นลูกน้องของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งจุดประสงค์ที่แกนนำ นปช.ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะต้องการส่งสัญญาณไปถึงนายเนวิน ว่า นปช.ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเพื่อนเนวินเช่นกัน

เวลา 13.15 น. กลุ่มแกนนำรถจักรยานยนต์รับจ้างกรุงเทพฯ และปริมณฑล กว่า 200 คน นำโดยนายสุรัช ไชยพันธุ์ แกนนำกลุ่ม ได้มาชุมนุมที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 5 ตัดกับถนนเศรษฐศิริ บริเวณที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยนำรถกระบะติดเครื่องขยายเสียง มาปราศรัยเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ให้ดำเนินการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มาเรียกเก็บค่าคุ้มครองกว่า 50 เขต ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมที่มามีการถือธงชาติ และธงสีแดงที่มีข้อความว่า "คิดถึงทักษิณ" และ "นปช.ห้วยขวาง-ดินแดง" นอกจากนี้ มีผู้ชุมนุมบางคนโพกผ้าปิดหน้าปิดตา สวมเสื้อแดงและถือตีนตบ

-แฉมีส.ก.-ส.ข.ทำตัวเป็นมาเฟีย

นายสุรัชกล่าวว่า มีกลุ่มส.ก.และส.ข.ของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งประธานชุมชนที่เป็นหัวคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งตนเป็นมาเฟียเก็บค่าคุ้มครองวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยบางพื้นที่มีการตั้งวินขึ้นมาแย่งผู้โดยสาร เป็นเหตุให้พวกตนได้รับความเดือดร้อนมาก ดังนั้น จึงต้องการมายื่นหนังสือต่อนายกฯ ให้รับทราบและช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย โดยทางกลุ่มตนจะให้เวลา 3 วัน จากนั้นจะมาชุมนุมที่ทำการพรรคอีกครั้ง ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ เพื่อมารับฟังคำตอบว่านายกฯ จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร

นายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า จะนำเรื่องดังกล่าวส่งให้ถึงมือนายกฯ โดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนจะมีการแก้ไขอย่างไรนายกฯ จะเป็นผู้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้จัดการเอง

-หน่วยข่าวคาดเสื้อแดงไม่เยอะ

รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ในการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์ของการจัดรายการความจริงวันนี้ครั้งที่ 4 ที่จะมีขึ้นที่สนามหลวงในวันที่ 28 ธ.ค. และต่อเนื่องถึงการชุมนุมหน้าสภา ซึ่งตรงกับวันที่รัฐบาลจะแถลงนโยบาย เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์การชุมนุมจะไม่รุนแรงและต่อเนื่อง เพราะคนที่มาร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงส่วนใหญ่ต้องการมาฟังการจัดรายการความจริงวันนี้มากกว่าที่จะต้องการไปร่วมชุมนุมหน้าสภา จึงเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่มีการเคลื่อนตัวไปที่หน้าสภาเพื่อปิดล้อมไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบาย ทั้งนี้ มีการประเมินว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงไม่มีความเป็นเอกภาพเท่าที่ควร ทำให้การชุมนุมเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างมา คาดว่าเมื่อรายการความจริงวันนี้เสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนกลุ่มที่ชุมนุมหน้าสภาจะเป็นอีก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์