ผบ.ทบ.หวั่นเหตุไม่พึงประสงค์ปีใหม่ สั่งทหารช่วย ตร.ดูแลความปลอดภัย สแกนบึ้ม 10 จุดเสี่ยง


"อนุพงษ์"หวั่นเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ สั่งทหารช่วยดูแลความปลอดภัย เตรียมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์พร้อมหนุนตำรวจ "นครบาล"ใช้เครื่องสแกนระเบิด 10 จุดอันตราย ระดมกำลัง 1.2 พัน ดูแลความเรียบร้อยเมืองกรุง ปิดถนนหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนการดูแลความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ราชการ สถานประกอบการ ชุมชนรอบค่ายทหาร รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เช่น สาธารณภัยและการโจรกรรม โดยให้หน่วยทหารในพื้นที่ต่างๆ ประสานกับส่วนราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนหรือช่วยกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่ต่างๆ โดยใช้ระบบเวรยาม ระบบกล้องวงจรปิดเฝ้าตรวจในพื้นที่ล่อแหลมภายในหน่วยงานรวมถึงพื้นที่สาธารณะใกล้เคียง

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ผบ.ทบ.ยังให้หน่วยทหารในต่างจังหวัดจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เมื่อได้รับการร้องขอในการดูแลความปลอดภัย และจะร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนแจ้งเตือนเหตุการณ์และให้ข่าวสารทางราชการ เพื่อร่วมกันดูแลให้การฉลองปีใหม่ 2552 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความสุขปลอดภัย

ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึง กรณีที่สำนักงานตำรวจสันติบาลออกมาเตือน 10 จุดอันตรายในช่วงปีใหม่ ว่าได้ให้กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด จากกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) เข้าตรวจทุกพื้นที่ที่มีการแจ้งเตือน พร้อมจัดกำลังตำรวจในการเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ มีการตั้งด่านตรวจ ด่านสกัด เน้นตรวจวัตถุระเบิด อาวุธ วัตถุต้องสงสัยต่างๆ ส่วนในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีคนเข้ามาฉลองเทศกาลปีใหม่กันจำนวนมากนั้น จะใช้เครื่องสแกนวัตถุระเบิดในทางเข้าออกเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่

พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการระดมกำลังตำรวจสันติบาล สารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่เทศกิจ ประมาณ 1,200 นาย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้บริเวณลานด้านหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ที่คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมากในวันที่ 31 ธันวาคม จะทำการปิดถนนช่วงแยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2552

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า รัฐบาลก็พยายามหาทางป้องกัน มีการรณรงค์ แต่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนจะต้องปฏิบัติตาม มีวินัยในการเดินทาง ไม่ดื่มสุรา ยาเสพติด และที่ผ่านมาเคยมีกรณีรถกระบะที่มีการดัดแปลงให้ผู้โดยสารนั่งได้ 3-4 ชั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำขึ้นได้ ซึ่งได้ให้ทางตำรวจจราจรพยายามกวดขันมิให้เกิดกรณีนี้อีก

นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการสุ่มสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า มีการจัดกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วางจำหน่ายหรือจัดมุมแสดงสินค้า ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีความผิดตามมาตรา 30 และอาจจะเป็นความผิด ตามมาตรา 32 กรณีที่มีการกระทำที่เป็นการโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดร่วม เช่น จัดมุมแสดงกระเช้าที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดราคา แจก แถม หรือแลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่น โทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับ 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"สธ.ไม่ได้บังคับประชาชนไม่ให้ซื้อเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ แต่ห้ามร้านค้าไม่ให้จัดกระเช้าสำเร็จรูปที่มีเหล้ามาวางจำหน่าย ซึ่งผิดกฎหมาย วิธีที่ถูกต้องคือ ต้องไม่จัดกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วยตั้งแต่แรก ถ้าประชาชนต้องการจะซื้อเหล้าต้องซื้อแยก แต่ต้องอยู่ในกำหนดเวลา คือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น." นพ.ม.ล.สมชาย กล่าว

นายอุกฤษฎ์ จันทวี นายกองค์การมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า จากการสุ่มตรวจการวางขายกระเช้าของขวัญปีใหม่ พบว่า มีห้างสรรพสินค้า 14 แห่ง 39 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ กระทำผิดกฎหมาย โดยมีการวางโชว์กระเช้าที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า สธ.ควรดำเนินตามกฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่ละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะที่ผ่านมามีการประนีประนอมมากเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการมีข้ออ้างเพื่อเลี่ยงกฎหมายตลอดเวลา ทั้งที่มีการทำประชาพิจารณ์ หารือ และเรียกมารับทราบข้อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

"ขณะนี้เลยเวลาที่จะประนีประนอมแล้ว สธ.สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันที หากมีข้อโต้แย้ง ก็ให้มีการตีความในชั้นศาล เช่นเดียวกับการบังคับใช้มาตราอื่นๆ ใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่หน่วยงานต่างๆ จะต้องประสานความร่วมมือกันเพื่อควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย เห็นได้จากหลังมี พ.ร.บ.ฉบับนี้ กลับมีการโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ปล่อยให้เกิดการกระทำผิดต่อกฎหมายขึ้น" นายคมสัน กล่าวและว่า การเปิดลานเบียร์ ก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเช่นกัน เพราะขณะนี้มีการยกเลิกกฎหมายฉบับเก่าแล้ว โดยเดิมยึดในเรื่องของการเสียภาษี โดยผู้ประกอบการต้องขออนุญาตกรมสรรพสามิต เพื่อขอใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ขณะนี้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีเจตนารมณ์ควบคุมในเรื่องของการห้ามโฆษณา ส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภค จึงถือว่าการออกใบอนุญาตของกรมสรรพสามิต เป็นการส่งเสริมให้เกิดการกระทำผิดด้วย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์