เสื้อแดงยันชุมนุมใหญ่28ธ.ค. หวังกดดันยุบสภา มาร์คไม่ห่วง-เชื่อผ่านราบรื่น

หมายเหตุ - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้แถลงถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 28 ธันวาคมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ร้านสภากาแฟ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกไม่เป็นห่วงการชุมนุมระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 29-30 ธันวาคม และเชื่อว่าเหตุการณ์จะผ่านไปอย่างราบรื่น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ในวันที่ 28 ธันวาคม จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง จะมีการจัดตั้งคนเสื้อแดงทั้งประเทศ เพื่อต่อต้านรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน นอกจากนี้จะมีการตั้งทีมทนายเสื้อแดง มาดูแลด้านกฎหมาย และกลุ่มนักวิชาการเสื้อแดงที่คอยให้ความรู้กับประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และภายในต้นปี 2552 จะมีการเปิดช่องทางการสื่อสารสำหรับคนเสื้อแดงทั้งประเทศ จะเชิญคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศมาสื่อสารกับประชาชน

การเคลื่อนไหววันที่ 28 ต่อวันที่ 29 หรือ 30 ธันวาคม และในวันต่อๆ ไป จะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นมากกว่าทุกครั้ง รูปแบบก็จะแปลกแตกต่างกับการชุมนุมครั้งใดที่เคยเกิดขึ้น แต่จะไม่ใช้วิธีการเหมือนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธปไตยเคยทำ โดยเฉพาะการดาวกระจายแล้วไปยึดสถานที่สำคัญต่างๆ

ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ประสานงาน แต่คาดว่าจะได้ความชัดเจนก่อนวันที่ 28 ธันวาคมแน่นอน

ขอชื่นชมนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่วางอำนาจบาตรใหญ่ แสดงความเด็ดขาดตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยการสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงทุก 6 ชั่วโมง แต่นายบุญจงซึ่งครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างๆ เวทีคนเสื้อแดง ขณะที่พวกตนยืนอยู่บนเวที ไม่ทราบว่าบทบาทของนายบุญจงเป็นรัฐมนตรีหรือคนเชียร์แขกให้กลุ่มคนเสื้อแดง

ที่สำคัญคือไม่ทราบว่ามีใครไปรายงานให้นายบุญจงทราบหรือยังว่า ขณะนี้มีบุคคลลึกลับ พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ชวนแกนนำคนเสื้อแดง แกนนำวิทยุชุมชน และแกนนำชาวบ้านในต่างจังหวัดที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับคนเสื้อแดงให้ไปพักผ่อนเก็บตัวกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงวันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยบุคคลลึกลับคนนั้นชื่อ "ดิ่ง" เราได้รับการแจ้งมาจากแกนนำคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ และบุคคลเหล่านี้ได้ปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่ไปเก็บตัวตามคำชักชวน

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เรียกร้องให้ยุติการแบ่งสีของคนไทยนั้น พล.อ.อนุพงษ์พูดแบบนี้คิดว่าตัวเองวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจนประชาชนไว้ใจได้แล้วหรือ โดยเฉพาะการงอมืองอเท้าให้กลุ่มพันธมิตรเข้ายึดสนามบินโดยไม่ทำอะไร แล้วเอาแต่ออกโทรทัศน์เพื่อกดดันรัฐบาล แอบไปจัดตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารเหมาะสมแล้วหรือ สิ่งแรกที่ควรจะต้องถอยออกจากการเมืองในระบอบประชาธิปไตคือสีเขียวของ พล.อ.อนุพงษ์


นายจตุพร พรหมพันธุ์

การชุมนุมวันที่ 28 ธันวาคมนั้นใช้ชื่อรายการว่า "ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์" ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีการใดมาสกัดกั้นประชาชนได้ ล่าสุด รับทราบมาว่าหน่วยข่าวกรองได้รายงานกับรัฐบาลว่าจะมีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เข้ามาร่วมชุมนุมประมาณ 3,800 คน การที่พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยก็สมควรแล้วที่จะได้รับการรายงานจากข่าวกรองแบบนั้น

นอกจากนี้มีความพยายามที่จะบอกว่าแกนนำกลุ่มมวลชนต่างๆ จะไม่เข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งบอกได้เลยว่ากรณีของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรที่ประกาศไม่มาร่วมชุมนุมนั้นได้ประสานงานกันผ่านโทรศัพท์แล้ว และการชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานและสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ กลุ่มของนายขวัญชัยก็ไม่ได้มาร่วม แต่ประชาชนก็ยังมาร่วมเป็นจำนวนมาก

การชุมนุมวันที่ 28 ธันวาคม นอกจากจะมีการพูดถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปพูดจากวนเท้าคนไทยทั้งประเทศ กรณีที่กลุ่มพันธมิตรเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จะมีการร้อยเรียงเอกสารการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่ต้นจนละเอียด ผมจะใช้ในการอภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลด้วย อยากจะท้านายอภิสิทธิ์ว่าในช่วงที่ผมอภิปรายอย่าให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทำการประท้วง


นางมยุรี เศวตาศัย

แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประตูน้ำพระอินทร์

กลุ่มเสื้อแดงในตลาดประตูน้ำพระอินทร์ที่เกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น 200 คน และแต่ละคนมีเครือข่ายอีกจำนวนมาก ยืนยันว่าจะไปร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดงจาก กทม.และต่างจังหวัด เพื่อประท้วงคัดค้านพร้อมกดดันการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในวันที่ 29 ธันวาคม อย่างแน่นอน

พวกเราไม่เคยกลัว กรณีกระทรวงมหาดไทยสั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกๆ 6 ชั่วโมง เพราะเป็นการทำตามสิทธิกฎหมาย ทำแบบเปิดเผย และต้องการไปประท้วง ไม่ได้ไปยึดปิดล้อมสภา ทำเนียบ หรือสนามบินอย่างที่กลุ่มพันธมิตรทำ การสนองตอบคำสั่งของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ก็คือการทำงานสนองตอบนายคนใหม่เท่านั้น

ส่วนเหตุผลการประท้วงครั้งนี้เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศรับไม่ได้กับการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เนื่องจากมีกลุ่มก๊วนหลายกลุ่มไร้สปิริต เป็นการเปลี่ยนขั้วที่ไม่ได้เกิดจากแนวนโยบายหรือแนวคิดในการทำงาน แต่เพื่อแลกกับประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งประเทศชาติไม่ได้อะไร

ทั้งนี้ จะชุมนุมประท้วงด้วยความสงบ ไร้อาวุธ ไร้ความรุนแรง และไม่กว้างปาสิ่งของเข้าใส่กลุ่ม ส.ส.หรือคณะรัฐมนตรี เพราะต้องการชุมนุมเพื่อไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายเท่านั้น ส่วนจะมีมือที่ 3 หรือไม่นั้น คาดเดาไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตำรวจต้องดำเนินการ คือตรวจสอบกลุ่มบุคคลแปลกปลอมและกลุ่มคนต้องสงสัย ที่จะเข้ามาปะปนกับกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้น เชื่อได้เลยว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงต้องกลายเป็นแพะรับบาป


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

ไม่รู้สึกเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 28-29 ธันวาคม ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบและเดินไปข้างหน้า เจ้าหน้าที่จะทำให้ดีที่สุด ประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ จากวันนี้ถึงวันที่ 28 ธันวาคม คงเห็นความเคลื่อนไหวและดูว่าจะต้องปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างไร

คิดว่าน่าจะผ่านไปอย่างราบรื่น เพราะติดตามสถานการณ์อยู่ ขณะนี้ได้ทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงตามระบบ บ้านเมือง ต้องการที่จะตั้งหลักเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน หวังว่าจะได้รับโอกาส ส่วนใครที่ยังติดใจและต้องการแสดงออก สามารถทำได้ในกรอบของรัฐธรรมนูญโดยสงบ ถ้ายอมรับอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนที่ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุถ้าคลี่คลายวิกฤตได้จะยุบสภานั้น ขอเรียนว่าผมถูกสอบถามการทำงาน และการตัดสินใจทางการเมืองว่าเป็นอย่างไร จึงชี้แจงว่าเป็นเรื่องปกติของรัฐสภา ไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลจะมีอายุแน่นอน เพราะไม่มีระบบตายตัว เมื่อภารกิจเบื้องต้นของรัฐบาล คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการความสงบในบ้านเมือง เมื่อทำตรงนี้เสร็จแล้วก็ต้องพิจารณาอีกทีว่าต้องดำเนินการอย่างไร

คงไม่มีประโยชน์ที่ผมจะไปกำหนดอายุเป็นเดือน เป็นวัน เป็นสัปดาห์ เป็นปี แต่จะดูตามความเหมาะสม เพราะผมถือว่าผมเป็นนายกฯในวิถีทางประชาธิปไตย ก็จะดูตามความเหมาะสม ถ้าสถานการณ์มีความเหมาะสม ที่จะคืนอำนาจให้ประชาชนก็สามารถทำได้ แต่ไม่ควรขีดเส้นล่วงหน้า ต้องดูสถานการณ์ตามความเป็นจริงเพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ เช่น การปฏิรูปการเมือง ต้องดูหลายปัจจัยประกอบกัน คงไม่สามารถวาดภาพสถานการณ์ได้เพราะมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเรื่องอื่นๆ

จะเดินหน้ากระบวนการปฏิรูปการเมือง แต่รัฐบาลไม่ได้กำหนดธงล่วงหน้า เพราะต้องเอาคนที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเข้ามาทำงานโดยอิสระ แต่อาจจะมีข้อเสนอที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงไม่อาจตอบล่วงหน้าได้


พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะนัดรวมตัวกันตั้งวันที่ 28-30 ธันวาคม แต่ยังไม่แน่ชัด โดยตำรวจได้เตรียมกำลังไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยทั่วบริเวณทั้งภายในรัฐสภามี 8 กองร้อย โดยรอบ 6 กองร้อย และรอบนอกตั้งตรวจ 5 กองร้อย รวม 2,850 นาย

ทั้งนี้ ตำรวจกำหนดโซนชุมนุมให้กลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างก็หวังดีกับประเทศชาติ ตำรวจพยายามพูดคุยเจรจากับแกนนำ ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่หรือเวลาในการแถลงนโยบายหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หากหลีกเลี่ยงความรุนแรงหรือเหตุปะทะได้ก็เป็นเรื่องที่ดี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์