หมอประเวศ แนะ แม้ว ทำตัวเหมือนป๋าเปรม - ผมพอแล้ว

วันที่ 06 ก.ค. 2549

"หมอประเวศ" แนะ "แม้ว" ทำตัวเหมือนป๋าเปรม ประกาศว่า "ผมพอแล้ว" ชี้ "ทักษิณ" ขาดวาสนา-บารมีทางวาจา แนะให้เปลี่ยนตัวเองพูดเชิงสมานฉันท์ ชี้พันธมิตรฯเตรียมชุมนุมถือเป็นสิทธิ

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญและแนะทางออกเกี่ยวกับวิกฤติทางการเมืองว่า สังคมไทยปัจจุบันแตกแยกมากที่สุด ไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่แตกแยก แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายแบบนี้ ซึ่งจุดสำคัญอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้นำปกติต้องทำหน้าที่สมานฉันท์สามัคคีคนในชาติให้ร่วมกันทำงานแก้ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยใครเพียงคนใดคนหนึ่ง ผู้นำจึงต้องมีลักษณะเชิงสมานฉันท์ทั้งการคิดและพูด

"นายกฯ ควรทำตัวเหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เคยปฏิบัติครั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมียังมีอำนาจ แต่ก็ออกมาประกาศว่า ผมพอแล้ว หากนายกฯ ปัจจุบันบอกว่า ผมพอแล้ว และขอให้ประชาชนที่รักและสนับสนุนตนเองอย่าก่อความรุนแรงอะไรในบ้านเมือง แต่ให้สนับสนุนรัฐบาลใหม่ด้วยแนวทางสันติสมานฉันท์ ส่วนตัวนายกฯ ก็ถอยออกไปดูอยู่ห่างๆ และออกมาเสนอแนะเรื่องที่มีผลกระทบต่อบ้านเมือง หรือเชิญเพื่อนฝูงที่ร่ำรวยตั้งมูลนิธิเพื่อพัฒนาประเทศไทย ทำหน้าที่สนับสนุนการเปิดพื้นที่ทางสังคมและปัญญาอย่างกว้าขวาง เพื่อส่งเสริมสิ่งที่ดีงามให้เปิดขึ้นในประเทศไทย" นพ.ประเวศ กล่าว

นพ.ประเวศ กล่าวว่า สังคมปัจจุบันมีความซับซ้อน ไม่สามารถแก้ได้ด้วยอำนาจ โดยรัฐบาลทักษิณ เป็นตัวอย่างที่ดี เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจมากที่สุด มีเสียงสนับสนุน มีเงินทอง ก็แก้ปัญหาประเทศไม่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น จะมีอำนาจต่อไปอีกทำไม มีอำนาจเต็มที่แล้วก็แก้ไม่ได้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองขั้นพื้นฐาน และเปิดพื้นที่ทางสังคม ทางปัญญาอย่างกว้างขวางเพื่อให้คนไทยเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา

"นายกฯ มีบาปกรรม ขาดวาสนา บารมีในทางวาจา ซึ่งวาจาสะท้อนมาจากใจ หากใจคิดจะแบ่งแยก คิดแบบแยกส่วน คิดเป็นเขาเป็นเรา พูดจาอะไรออกไปก็แบ่งแยก มองอะไรเป็นการต่อสู้ไปหมด จะยิ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกระหว่างคนที่ชอบและไม่ชอบนายกฯ" นพ.ประเวศ กล่าว

นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า เคยแนะนำมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ เพื่อช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมือง หากเป็นไปได้อยากให้นายกเปลี่ยนแปลงตัวเองขั้นพื้นฐานส่วนจะทำอย่างไร นายกฯ ย่อมรู้ตัวเองดีที่สุด รวมถึง ควรเปลี่ยนแปลงองค์กรทั้งองค์กรด้านการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา ราชการ และศาสนา เพราะหากยังคิดแต่ที่จะใช้อำนาจย่อมไม่สามารถแก้ปัญหาได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม การชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่อาจจะมีขึ้น เป็นการต่อสู้ที่ห้ามไม่ได้ และเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ตราบใดที่สาเหตุยังอยู่