นักการทูตและนักข่าวต่างประเทศตื่นตะลึง
เมื่อนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ กล่าวในวงสัมมนาที่จัดขึ้นโดยสถาบันศึกษาความมั่นคง(ไอซิส) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.
ระบุว่าการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเดือนพ.ย.
"เป็นเรื่องสนุกสนานอย่างยิ่ง"
สนุกสนานเพราะ
"อาหารก็ดี ดนตรีก็ไพเราะ"
แต่ดูเหมือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตามมาภายหลังยึดสนามบินครั้งนี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่สนุกอย่างที่ท่านรัฐมนตรีระบุ
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินความเสียหายหลังจากกลุ่มพันธมิตรปิดสนามบินว่า ระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค.2551 นักท่องเที่ยวจะหายไปประมาณ 1.58 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท
ส่วนธุรกิจขนส่งทางอากาศจะเสียหาย 3.2 พันล้านบาท ธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารภายในการท่าอากาศยานเสียหาย 2.8 หมื่นล้านบาท ธุรกิจภายในสนามบินเสียหาย 2.2 พันล้านบาท และอื่นๆ อีกราว 592 ล้านบาท
มูลค่าความเสียหายที่ประเมินไม่ได้อีก 1.4 หมื่นล้านบาท
รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 1.46 แสนล้านบาท
ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยว จากเป้าหมายที่คาดว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15.48 ล้านคนในปีนี้
หลังเกิดเหตุยึดสนามบิน จำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียลดลงประมาณ 50% เฉพาะจากจีนลดลงถึง 90%
ประมาณการว่าปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามารวมทั้งสิ้นประมาณ 13 ล้านคน ลดลงร้อยละ 7 จากปี 2551
รายได้จากการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 460,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ก็คาดการณ์ว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2552 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงร้อยละ 20 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.3 ล้านคน
ทำให้โดยรวมตลอดทั้งปี 2552 คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 13 ล้านคน ลดลงร้อยละ 7 รายได้จากการท่องเที่ยวจะอยู่ประมาณ 460,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ย.2551 มีมูลค่า 11,870 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวติดลบ 18.59%
เป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2545
โดยทุกกลุ่มสินค้าส่งออกขยายตัวติดลบทั้งหมด
โดยสินค้าเกษตรติดลบ 13.5% สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญและเชื้อเพลิงติดลบ 18.8% และส่วนสินค้าอื่นๆ ติดลบ 26.9%
ข้าวลดลง 36.2% ยางพาราลดลง 33.6% มันสำปะหลังลดลง 44.5% เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 20.1% เครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง 12.7% สิ่งทอลดลง 14.4% อัญมณีและเครื่องประดับลดลง 25.9%
สำหรับการส่งออกช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 166,236 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 19.73% การนำเข้ามูลค่า 167,398 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 30.86%
ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกไทยขาดดุลการค้ารวม 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การส่งออกเดือนพ.ย.ขยายตัวติดลบ เพราะได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองของกลุ่มพันธมิตร ทำให้มูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ย. หายไปจากปกติประมาณ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปกติประเทศไทยจะส่งออกสินค้าผ่านการขนส่งทางเครื่องบินเฉลี่ยเดือนละ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่ในเดือนพ.ย.ส่งออกได้เพียง 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
นี่คือผลเบื้องต้นของยึดสนามบิน
ที่บางคนบอกว่าสนุก